Movie ReviewThe Water Flows to the Sea ฝนตกวันนั้นผมแอบรักรุ่นพี่ (2023)แอบรักแบบซึมลึกพร้อมกับก้าวข้ามแผลในใจเพื่อเปลี่ยนผ่านหัวใจได้อย่างอบอุ่นงดงามระยะหลังยอมรับว่าผู้เขียนเลือกดูหนังจากนักแสดงบ่อยมากเพราะไม่ต้องใช้ตรรกะหรือเหตุผลใดมาเป็นตัวตัดสินด้วยเหตุที่บางทีการมีช่องทางหรือมีหนังให้ดูมากตัดสินใจยาก การเลือกดูหนังสักเรื่องจากนักแสดงที่ชื่นชอบก็เป็นเหตุผลอันควรแม้จะเป็นเหตุผลง่ายๆก็ตามที เพราะอาจบางทีการได้ดูอะไรที่ชื่นสายตาก็อาจส่งผลให้ดีต่อใจแล้วถ้านักแสดงที่ชื่นชอบคนนั้นมีมาตรฐานการแสดงที่ดีพอและมักอยู่ในหนังคุณภาพก็สามารถการันตีเรื่องของหัวใจได้ในการดูหนังเรื่องนั้นๆ แน่นอนว่าแต่ละคนที่ชอบดูหนังก็จะมีนักแสดงที่ชอบหลายคนผู้เขียนก็ไม่ต่างกันแต่เหตุผลที่ชอบนักแสดงคนนั้นๆอาจต่างกันเช่นการที่ผู้เขียนชอบนักแสดงคนนี้ซึสึ ฮิโรเสะ ด้วยความที่ผู้เขียนชอบดูหนังหรือซีรีส์ญี่ปุ่นเป็นทุนที่สูงพอตัวเลยทำให้บางครั้งก็ได้ติดตามงานแสดงของนักแสดงบางคนโดยบังเอิญ แต่เมื่อรู้ตัวก็กลายเป็นว่าชอบนักแสดงคนนั้นเข้าเสียแล้วและกรณีของซึสึ ฮิโรเสะก็คือการได้ดูน้องแสดงมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นตอนต้นใส่ชุดนักเรียน จนมาวันนี้น้องเป็นสาวเต็มตัวและได้บทที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นและความชอบที่ผ่านมาก็ซึมลึกแบบหนังเรื่องนี้ไม่มีผิดนาโอทัตสึ คุมาซาวะ (ริคุ โอนิชิ) ได้ย้ายมาอยู่กับน้าชายเพื่อการเดินทางไปโรงเรียนใกล้ๆและเขามาถึงเมื่อค่ำหนึ่งที่ฝนตกหนักโดยไม่มีร่ม ทว่าคนที่มารับเขาคือหญิงสาวแปลกหน้าน้าตาไร้รอยยิ้มเธอคือชิสะ ซาคากิ (ซึสึ ฮิโรเสะ) และเธอพาเขาไปยังแชร์เฮาส์ที่น้าชายของเขาพักอยู่ร่วมกับคนอีกสามคนรวมถึงซาคากิ และที่โรงเรียนนาโอทัตสึก็ได้ผูกสัมพันธ์กับเพื่อนใหม่คือคาเอเดะ อิซึมะยะ (อามิ โทอุมะ) ที่เห็นชัดว่าคาเอเดะแอบชอบนาโอทัตสึ ทว่าวันหนึ่งนาโอทัตสึได้รู้ความลับที่ว่าพ่อของเขาเคยมีความสัมพันธ์ต้องห้ามกับแม่ของซาคากิจนแม่ของเธอหนีไปและทิ้งเธอให้อยู่คนเดียวจนวันนี้จนเธอจะไม่มีวันมีความรัก แต่เมื่อนาโอทัตสึรู้ความจริงเขาก็พยายามจะไถ่บาปที่พ่อทำไว้กับครอบครัวของซาคากิและนั่นก็คือการที่เขาได้ใกล้ชิดกับซาคากิยิ่งขึ้น เมื่อคนสองคนที่อายุห่างกันสิบปีได้ค้นพบปมปัญหาที่เป็นบาดแผลในใจที่มีร่วมกันการพยายามก้าวข้ามแผลนั้นก็ได้ทำให้มีบางอย่างก่อตัวในหัวใจของหนุ่มรุ่นน้อง แล้วทั้งสองจะก้าวข้ามบาดแผลได้หรือไม่และความในใจของรุ่นน้องจะส่งไปถึงรุ่นพี่หรือไม่อย่างไรกันนะเรียบเรื่อยซึมลึกเก็บเกี่ยวอารมณ์ความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นจนแทบไม่รู้ตัว นี่คือหนังที่เป็นธรรมชาติมากถึงมากที่สุดเล่าเรื่องอย่างเป็นธรรมชาติไปเรื่อยๆเหมือนชีวิตเดินไปตามครรลองของมันเพื่อที่ชีวิตจะได้เจอกับใครสักคนหรือเหตุการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนที่ไม่ว่าใครก็ต้องเจอ เพราะบางครั้งชีวิตจริงก็ไม่ได้วูบวาบหวือหวามีดราม่าแรงๆเข้ามาก็ใช่ว่าจะต้องเป็นความฟูมฟายแต่มนุษย์อาจจะพยายามรับมือและอยู่กับเรื่องราวนั้นอย่างไรต่างหากในโลกแห่งความจริง หนังจึงเป็นไปด้วยความสมจริงเชิงชีวิตและการมีชีวิตอยู่โดยที่กลบฝังอะไรอยู่ข้างในโดยที่ไม่มีวันเปิดเผยออกมา บทหนังจึงเดินหน้าไปแบบเรียบง่ายแต่มั่นคงให้คนดูค่อยๆซึมซับเอาเหตุการณ์ที่ผ่านสายตาไปตามเข็มนาฬิกาที่เปลี่ยนผ่านไปแบบเหมือนไม่มีอะไรหรือไม่มีอาการเร่งเร้าบีบคั้น ทั้งที่จะว่าไปเรื่องที่หยิบมาเป็นเบื้องหลังนั้นหนักหนาสาหัสเพราะมีเรื่องของปัญหาที่เข้ามาในเวลาที่วุฒิภาวะยังไม่เติบโตทำให้การรับมือไม่เรียบร้อยจนกลายเป็นแผลใจ แต่แม้จะไม่ขยี้กลับสามารถเก็บเกี่ยวความรู้สึกแบบค่อยๆซึมลงจนลึกถึงข้างในหรือเรียกง่ายๆว่ากลายเป็นความผูกพันการก้าวข้ามบาดแผลลึกในใจย่อมมาจากการเผชิญหน้ากับมันไม่ใช่หลบหนี แม้หน้าหนังจะเป็นหนังรักโรแมนติกแต่แท้จริงแล้วนี่คือหนังดราม่าที่หนักหน่วงที่เสนอตัวเป็นความโรแมนติกที่มีภาวะเป็นจริง แน่นอนหนังเล่าให้เห็นเบื้องหน้าถึงการที่ความรักค่อยๆก่อตัวในใจหนุ่มน้อยวัยสิบหกปีที่มีต่อรุ่นพี่วัยยี่สิบหกปีที่มองมุมไหนก็น่าหลงไหลใฝ่ฝัน ซึ่งเอาแค่รูปลักษณ์ภายนอกก็ท้าทายหัวใจแล้ว แต่หนังมีดีกว่านั้นคือให้ความรักในแบบแอบรักเพราะรุ่นพี่ก็วางตัวสมวัยให้ก่อเกิดจากความใกล้ชิดและการได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของกันและกันผ่านบาดแผลในใจ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรที่เป็นสิ่งกั้นขวางสิ่งที่ต้องทำถ้าจะก้าวข้ามมันให้ได้ก็คือการหันหน้าเข้าหาและเผชิญหน้ากับมันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของหัวใจของรุ่นน้องที่แอบจับจองรุ่นที่ที่เย็นชา แล้วความเยี่ยมก็คือเล่าผ่านการช่วยเหลือให้รุ่นพี่ได้เผชิญหน้ากับความกลัวและความโกรธที่อยู่ในใจจนไม่อาจมีความสุขได้และลุกลามไปถึงโกรธทุกคนที่ไม่เจ็บปวดเหมือนตัวเอง หรืออาจเรียกว่าความรักได้ก่อตัวขึ้นผ่านการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ยากทีสุดร่วมกันแม้ว่าอาจจะไม่ออกนอกหน้าแต่ก็รู้ว่ามาจากข้างในทุกคนอาจมีเหตุผลของตัวเองและก็มีเหตุผลที่จะโมโหหรือมีความรักและทุกคนย่อมมีสิทธิ์จะมีความสุข เพราะทกคนต่างใช้ชีวิตของใครของมันทุกคนจึงมีเหตุผลของตัวเองในการดำเนินชีวิตเหมือนกับสมาชิกในแชร์เฮาส์ทุกคนที่มีเหตุผลในสิ่งที่ตัวเองเป็น แน่นอนซาคากิก็มีเหตุผลที่จะเป็นคนอมทุกข์ใบหน้าไร้รอยยิ้มที่มีความสุขตั้งแต่แรกเห็นและเหตุผลที่ทำให้เธอเป็นแบบนั้นก็ยังมีเหตุผลซ้อนทับอีกชั้น แต่ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะผิดหรือถูกเหตุผลก็คือเหตุผลที่คนจะเอามาเป็นความชอบธรรมให้ตัวเองและทุกคนต่างมีสิทธิ์ที่จะโมโหเพราะความโกรธและอาการโมโหไม่ใช่เรื่องที่ต้องขออนุญาตใคร อาจบางทีตัวเราเองต่างหากที่เก็บมันเอาไว้และคิดไปเองเพราะเข้าข้างตัวเองว่าเหตุผลของตัวเองมีน้ำหนักและหนักแน่นพอจนจ่อมจมหรือคิดว่าตัวเองไม่มีความสุขคนอื่นที่เป็นเหตุผลให้ตัวเองไม่มีความสุขก็ไม่ควรมีความสุข กระนั้นความสุขย่อมเป็นสิทธิ์พื้นฐานที่คนจะต้องมีแม้ว่าจะเจอปัญหาใดแต่การจะมีความสุขได้ต้องก้าวข้ามแผลในใจให้ได้ อาจเพราะคนอื่นก้าวข้ามแผลลึกนั้นได้แล้วเขาจึงมีความสุขและสุดท้ายซาคากิก็มีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะยิ้มและหัวเราะหรือมีความรักอย่างมีความสุขเสน่ห์ของ "ซึสึ ฮิโรเสะ" ที่มาแบบไม่มีกั๊กทำให้หนังที่ภายสวยเพลงเพราะมีความรื่นรมย์สมอุราขึ้นอีกโข เพราะหนังญี่ปุ่นจะเป็นแบบนี้คือเดินเรื่องเรียบเรื่อยภาพสวยเพลงเพราะที่ขับส่งภาพอีกทียิ่งมีฟีลโรแมนติกยิ่งทำให้รื่นรมย์สมอุรา แล้วเรื่องนี้เอาจริงคือหนังที่เล่าเรื่องของซาคากิเป็นเบื้องหลังที่จะเป็นพื้นฐานให้ความรู้สึกของรุ่นน้องนาโอทัตสึค่อยๆก่อตัวโดยแทบไม่รู้ตัว ความโดดเด่นจึงไปอยู่ที่ซึสึ ฮิโรเสะเต็มที่ที่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือการขโมยหนังมาไว้ในมือเพราะการเอาซึสึ ฮิโรเสะที่เรื่องนี้อยู่ในลุคผู้ใหญ่เต็มตัวคือเป็นวัยสาวสะพรั่งเต็มที่แต่งหน้าสมวัยไปอยู่ในงานภาพสวยๆเพลงเพราะๆยิ่งทำให้เจริญตา สิ่งที่ตามมาคือเหตุผลอันชอบธรรมที่รุ่นน้องอย่างริคุ โอนิชิจะตกหลุมรักซึ่งความจริงเขารับผิดชอบเบื้องหน้าเพราะเป็นคนถ่ายทอดความรู้สึกแอบรัก แต่ถึงที่สุดก็ไม่สามารถก้าวผ่านเสน่ห์แบบไม่มีกั๊กของซึสึ ฮิโรเสะได้ทำให้ทุกครั้งที่ขึ้นจอร่วมกันสายตาคนดูจะจับจ้องไปที่ซึสึ ฮโรเสะ กระนั้นตัวเธอเองก็ให้การแสดงที่ยอดเยี่ยมมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดตั้งแต่หน้าบอกบุญไม่รับในตอนแรกจนมีความสุขอย่างแท้จริงในตอนท้ายอาจเป็นหนังที่ไปเรื่อยๆในแบบหนังญี่ปุ่นแต่ก็เป็นเสน่ห์ในแบบญี่ปุ่นเป็นหนังรักที่คนดูหนังญี่ปุ่นรักแบบนี้ หนังเรื่องนี้อาจเป็นเหตุผลให้คนที่ชอบหนังญี่ปุ่นใช้เป็นความชอบธรรมในการชอบหนังญี่ปุ่นหรือกระทั่งบอกว่ารักหนังรักในแบบญี่ปุ่น เพราะความเรียบเรื่อยค่อยๆเก็บเกี่ยวความรู้สึกไม่มีการบดบี้ขยี้ดราม่าทั้งที่ดราม่าที่มีก็เป็นเรื่องหนักหนาหรือใครจะว่าไม่หนักก็ลองดูถึงตอนที่ซาคากิต้องเผชิญหน้ากับแม่ดู ง่ายๆคือคนดูจะคิดแทนเลยว่าในสถานการณ์แบบนั้นจะทำตัวอย่างไรแถมยังมีโอกาสมากมายที่จะบีบให้ฟูมฟายได้แต่หนังเลือกที่จะเดินไปตามครรลองของธรรมชาติมนุษย์ ซึ่งนี่คือเสน่ห์ของหนังญี่ปุ่นหรือถ้าจะเอาให้ชัดคือหนังรักในแบบญี่ปุ่นคือมีโอกาสมากมายอีกเช่นกันที่จะใส่ความโรแมนติกเข้ามาแต่เลือกเว้นระยะห่างอย่างมีวุฒิภาวะ หรืออาจเรียกง่ายๆว่าเป็นหนังรักที่เป็นผู้ใหญ่ที่วางตัวถูกแม้จะเป็นเรื่องของการแอบรักรุ่นพี่แต่เป็นรุ่นพี่ที่เว้นระยะไว้อย่างเหมาะสมและรุ่นน้องก็ต้องรอโอกาสจะบอกความในอย่างอดทน และนี่คือเหตุผลที่คนที่เคยดูและชอบดูหนังญี่ปุ่นจะหลงเสน่ห์แบบนี้จนไม่อาจถอนตัวดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก X 映画『水は海に向かって流れる』 ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ https://entertainment.trueid.net/detail/Q576Zbzn8Knd https://entertainment.trueid.net/detail/EyBjgxaXG0ly https://entertainment.trueid.net/detail/kpMYVDMlr2gp https://entertainment.trueid.net/detail/93Nj28ybqEa3เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !