By : bollod“Love Mechanics กลรักรุ่นพี่” นวนิยาย Boy’s Love แต่งโดยนามปากกา “Faddist” นวนิยายปกนักแสดงจัดพิมพ์ครั้งแรกในปีพุทธศักราช 2564 โดยสำนักพิมพ์ Nana นวนิยายเล่มนี้ถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์ตอนสั้น นำแสดงโดยคู่จิ้น “หยิ่น อานันท์” และ “วอร์ วนรัตน์” ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากแฟนคลับเป็นอย่างมาก ส่งผลให้นวนิยายเรื่องได้นำกลับมาสร้างเป็นซีรีส์แบบเต็มตัวและมีกำหนดฉายในกลางปีพุทธศักราช 2565 นี้อีกครั้ง เรื่องราวของสองชายหนุ่มนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ เริ่มต้นด้วยคำว่า “รัก” คนหนึ่งเพราะรักเพื่อน ส่วนอีกคนเพราะไม่ถูกรัก และแน่นอนว่าเขาทั้งสองคนไม่ได้เริ่มต้นเพราะ “รักกัน” แต่ด้วยความเกลียดชังและความโกรธแค้นทำให้ตกตะกอนจากสำนึกในจิตใจถึงความผิดของปมความรักอันฝืดเคือง ก่อให้เกิดความรักครั้งใหม่ ถูกที่ แต่ “ไม่ถูกเวลา” สาดสะท้อนความปวดร้าวในผลของการกระทำ ตัวละครหลักจมอยู่กับความสูญเสีย ความผิดพลาด และความผิดหวัง แต่สุดท้ายด้วยความอดทน และความพยายามทำให้สามารถคลี่คลายปมอันโหดร้ายเหล่านี้ไปได้วี วิวิศน์ : ผลลัพธ์ของการตัดสินใจที่ลังเลหลายครั้งที่ “วี วิวิศน์” ต้องตัดสินใจอะไรบางอย่างกับเหตุการณ์ตรงหน้า วีมักใช้อารมณ์เป็นหลักมากกว่าเหตุผลในการเลือก จุดเริ่มต้นที่วีได้ตัดสินใจไปคือการขืนใจมาร์คด้วยความโกรธเพราะมาร์คคิดร้ายกับเพื่อนของตน ทำให้วีนั้นทำร้ายทั้งกายและจิตใจของมาร์ค รวมทั้งนอกกาย “พลอย” แฟนสาวของตนไปโดยไม่รู้ตัว จนกระทั่งเรื่องราวถึงจุดที่วีและพลอยเกิดรอยร้าวเพราะการกระทำของทั้งคู่ วีชายผู้ลังเล พลอยหญิงที่ไม่รู้จักพอ จนสุดท้ายวีจึงปล่อยใจให้ตัวเองรับมาร์คเข้ามาในชีวิต วีต้องบอกเลิกพลอยเพื่อเดินหน้าสานสัมพันธ์กับมาร์ค ความไม่หนักแน่นในความรู้สึกของวี ทำให้ช่วงเวลาสำคัญที่จะจบสถานะของวีและพลอยกลายเป็นความรู้สึกเจ็บปวดที่ฝังใจมาร์คในทันที เมื่อมาร์คเดินเข้ามาเห็นฉากจูบลา จูบสุดท้ายของคู่รักดาวเดือน(วีพลอย) และเหตุการณ์นี้ก็เป็นจุดที่ทำให้ความสัมพันธ์ของวีและมาร์คเริ่มเปาะบาง จนวีเกือบจะสูญเสียมาร์คคนที่วีตัดสินใจจะรักที่สุดไปแต่ความผิดพลาดทั้งหมดที่วีก่อขึ้นจึงเป็นบทเรียนให้วีเชื่อมั่นในจิตใจของตน ตัดสินใจเด็ดขาดที่จะมั่นคงกับมาร์ค จนสามารถนำมาร์คกลับมาจับมือร่วมเดินไปในเส้นทางความรักนี้ต่อได้ จะเห็นได้ว่าตัวละคร “วี วิวิศน์” ชี้ให้เห็นถึงโทษของการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจมักจะก่อผลเสียต่อร่างกาย ความรู้สึกของตนเอง และคนรอบข้าง ซึ่งบางเรื่องอาจมีทางแก้ไขให้เหมือนเดิมได้ แต่หากเป็นเรื่องที่ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ก็จะสูญเสียสิ่งนั้นไปตลอดกาลมาร์ค มาสะ : เรื่องราวที่ฝังลึกในจิตใจเรื่องราวความรักของ “มาร์ค มาสะ” เต็มไปด้วยความผิดหวังที่ถูกบรรจุไว้ในหัวใจของเขา ประโยคปฏิเสธที่หลุดจากปากของบาร์ รุ่นพี่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ และเป็นพี่เลี้ยงในชมรมว่ายน้ำ กลายเป็นจุดที่ทำให้มาร์คต้องการแย่งบาร์มาด้วยวิธีที่ผิดศีลธรรมคือ “การขืนใจ” แต่สุดท้ายโชคชะตาได้เล่นตลก มาร์คกลับถูกวี เพื่อนสนิทของบาร์ขืนใจเสียเองจนเป็นตราบาปไปชั่วขณะ แต่สุดท้ายด้วยความสำนึกผิดของวีที่ทำร้ายมาร์ค ทำให้วีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตของมาร์คมากขึ้น จนความสัมพันธ์เริ่มลึกซึ้ง เรื่องราวความรักของวีและมาร์ค เกิดขึ้นก่อนที่วีจะเลิกกับพลอย และทวีความเหนียวแน่นในความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่ง ในคืนที่วีสัญญากับมาร์คว่าจะจบสถานะกับพลอย กลายเป็นคืนที่บีบขยี้ดวงใจของมาร์คมากที่สุด ทั้งภาพและความรู้สึกได้ถูกบันทึกเป็นความทรงจำที่โหดร้าย เหมือนพายุโหมกระหน่ำเข้ามาในใจของมาร์ค และได้แปรเปลี่ยนเป็นความชินชา ความรู้สึกได้บอกกับเขาว่าควรพอ พอกับความรักที่ทำร้ายเขาเสียทีอย่างไรก็ตามถึงหัวใจจะเริ่มแข็งเป็นหินแล้ว วีก็ใช้ความพยายามของตนเป็นตัวหลอมละลายหัวใจของมาร์คให้อ่อนลงได้ แต่ถึงหัวใจของมาร์คจะอ่อนขนาดไหน ก็ยังมีจุดดำที่เปรอะเปื้อนอยู่ นั่นคือปมของครอบครัวที่เป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงเบื้องลึกในจิตใจ มาร์คถูกพ่อบังคับกดดัน ด้วยความคาดหวังจากครอบครัวเจ้าของธุรกิจใหญ่ และความรักของครอบครัวแสดงออกมาไม่เพียงพอที่มาร์คจะสัมผัสถึงความอบอุ่นได้ จึงอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้มาร์คต้องออกโหยหาความรักจากคนรอบข้าง และไม่เคยเผื่อใจเมื่อได้หลุดเข้าไปในห้วงเวลาแห่งความรักที่พักใจคือ “ครอบครัว”ครอบครัวของวีและมาร์คมีฐานะที่แตกต่างกันพอสมควร แต่ย่อมมีสิ่งเหมือนกันคือความรัก และความห่วงใย คำพูดจากแม่และพ่อของวีที่ปรากฏในนวนิยายแสดงให้เห็นถึงการเลี้ยงลูกที่เหมาะสมกับสังคมไทย ท่านทั้งสองยึดความสุขของวีเป็นหลัก ไม่ได้ห้ามวีที่จะคบกับผู้ชายอย่างมาร์ค มอบความรัก ความอบอุ่น เป็นกำลังใจสำคัญช่วยให้วีสามารถนำมาร์คกลับมาได้ และสามารถเอาชนะใจครอบครัวมาร์คที่ไม่เห็นด้วยกับความรักของทั้งคู่ได้ในด้านครอบครัวของมาร์คคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามาร์คสนิทและไว้วางใจแม่มากกว่าพ่อของตน มาร์คระบายความรู้สึกไม่ดีให้ครอบครัวฟังเสมอ แต่หันไปทางไหนก็เห็นแต่แม่ เนื่องจากพ่อของมาร์คต้องออกไปพบปะกับลูกค้าร่วมธุรกิจจนไม่มีเวลาส่วนตัวให้กับครอบครัว ถึงท่านจะขัดขวางความรักของวีและมาร์ค จนทำให้มาร์คเริ่มถอดใจ แต่สิ่งที่ท่านทำก็เพราะคำว่า “รัก” รักลูกของตน ต้องการให้ลูกนั้นได้พบกับคนที่ดี สามารถดูแลมาร์คแทนตนได้ และท้ายที่สุดทั้งพ่อและแม่ของมาร์คก็เห็นความสุขของมาร์คเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่ามาร์คจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่คนที่ลูกรัก และมีความสุขกับเขา ท่านทั้งสองก็พร้อมจะสนับสนุนลูกชายคนเดียวในครอบครัวจากความรู้สึกที่ครอบครัวมอบให้วีและมาร์ค สามารถเปิดมุมมองการเลี้ยงดูลูกของคนยุคใหม่ได้ ความสุขของลูกนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลี้ยงดู หากเขาเสียใจเราก็ปลอบ หากเขาทำผิดเราก็เตือน และหากเขามีความสุขเราก็ควรสุขใจไปกับเขาด้วย จะทำให้เขาได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวของเขาเอง และทำให้เขาเติบโตขึ้นไปในสังคมได้ดีนวนิยายเรื่อง “Love Mechanics กลรักรุ่นพี่” มีคุณค่าและเหมาะสมกับการนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้แต่งใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย มีการเรียบเรียงเหตุการณ์ได้สมเหตุสมผล แฝงไปด้วยการเล่นคำที่สละสลวย คมคาย ตราตึงใจผู้อ่าน และสื่อให้เห็นถึงความรู้สึกของตัวละครผ่านบทสนทนาที่ถ่ายทอดมายังผู้อ่านให้เกิดอารมณ์ร่วม น่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ทั้งยังสะท้อนแง่คิดของการกระทำ ที่ตัวละครได้กระทำขัดต่อศีลธรรมอันดีงาม ก็ได้รับผลที่ไม่ดีตามมา ความสำเร็จของความอดทน และความพยายาม และมุมมองการแสดงความรักของครอบครัวที่เป็นสถาบันหลัก ใกล้ชิดตัวบุคคลมากที่สุด ดังนั้นนวนิยายเรื่องนี้จึงมีประโยชน์แก่ผู้อ่าน ให้ข้อคิด ให้ความเพลิดเพลิน ช่วยให้คนในสังคมตัดสินใจแก้ไขปัญหาด้วยสติและปัญญามากกว่าอารมณ์ส่วนตัว และทำให้พ่อแม่ยุคใหม่เข้าใจในการตัดสินใจเลือกทางเดินในชีวิตของลูกที่ส่งผลให้เขามีความสุขและสามารถรับมือกับปัญหาในสังคมได้Faddist (นามแฝง). (2564). Love Mechanics กลรักรุ่นพี่. Nana.ภาพประกอบ : ถ่ายและตกแต่งโดยผู้เขียนบทความสามารถอ่านนวนิยาย Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ ได้ทางแอปพลิเคชันอ่านนวนิยายออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ หรือสั่งซื้อหนังสือนวนิยาย Love Mechanics กลรักรุ่นพี่ ได้จากสั่งนักพิมพ์ Nana ค่ะเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !