เรียกแฟนก็ไม่ติด? “ก้อย อรัชพร” แฮปปี้ความสัมพันธ์ “นิกกี้ ณฉัตร” ค่อยๆ พัฒนา
เรียกแฟนก็ไม่ติด? “ก้อย อรัชพร” แฮปปี้ความสัมพันธ์ “นิกกี้ ณฉัตร” ค่อยๆ พัฒนา
นับวันความสัมพันธ์จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ สำหรับคู่ของสาว “ก้อย อรัชพร โภคินภากร” กับหนุ่มคนสนิท “นิกกี้ ณฉัตร จันทพันธ์” ที่เมื่อวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมาทั้งคู่ทั้งแลกของขวัญ และบอกรักกัน งานนี้ทำเอาคนอดสงสัยไม่ได้ว่า หวานขนาดนี้ทั้งคู่เรียกแฟนหรือยัง ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวสาวก้อยเลยไม่พลาดที่จะถามเรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า
สำหรับเรื่องความรักเคยบอกไปแล้วว่ามีอะไรก็ไม่ปิด อย่างที่เห็นเลยคือเรื่อยๆ ไม่เคยพูดกันเลยว่าจะต้องเป็นแฟน หรือเป็นอะไร แค่อยู่ด้วยกันแล้วมีความสุข แล้วก็ใช้ชีวิตไปด้วยกันเรื่อยๆ เลยไม่ได้มานั่งโฟกัสอะไร วันวาเลนไทน์มีการบอกรักเพราะว่ามันเป็นวันแห่งความรัก เราก็รู้สึกว่าการที่ได้แสดงความรัก พ่อแม่เราก็บอก แล้วก็ไปบอกเขาบ้างประมาณนั้น และไม่เคยให้สถานะอะไรกันเลย ใครอยากให้สถานะอะไรให้ได้เลย แต่ว่าเราไม่เคยให้กันเลย อยากเรียกแทนอะไรก็แล้วแต่อารมณ์ ค่อนข้างมีหลายคาแรคเตอร์
ถ้าคนบอกว่าสถานะคือแฟน แล้วเราปฏิเสธคนก็คงมองแปลกๆ ถ้าถามว่าเป็นแฟนกันไหมก็อย่างที่บอกว่าไม่เคยคุยกัน หรือถ้าคนมองว่าไม่คุยกันแปลว่าไม่ชัดเจน แต่เห็นแบบนี้คือคุยกันมาเป็นปีแล้ว ก็เลยรู้สึกว่าพอคนให้ความสนใจเราต้องมาทวงสถานะกันว่าเป็นอะไรกันดี เลยรู้สึกว่ามันจะประหลาด ณ วันนี้มันเป็นไปตามธรรมชาติเลยไม่อยากทำให้อะไรมันเหมือนสร้างซีน
คือเห็นอยู่แบบนี้แล้วเป็นคนกะโตกกะตาก แต่อยู่กับเขาเป็นอีกแบบเลยนะ เอเนอร์จี้จะเบากว่านี้เยอะ อ้อนบ้างก็แล้วแต่โอกาส ถามว่าเขาดูแลดีไหม คือต้องบอกว่าพี่เขาเป็นคนจริงใจ หมายถึงว่าเสน่ห์ของเขา เขาเป็นคนแบบใจ และสิ่งสำคัญเขาเป็นคนดูแล เทคแคร์ ไม่ใช่แค่เรา แต่ครอบครัวเขา เขาก็ดีกับที่บ้าน กับเราเขาก็ดี เคยไปเจอคุณแม่เราแล้ว ช่วงแรกแม่ก็ช็อคเหมือนกัน อาจจะเพราะเสพข่าวเยอะ สุดท้ายพอคุณแม่ได้เจอเขาก็โอเค แล้วก็เจอแม่บ่อยประมาณนึง
ส่วนครบรอบ 1 ปีที่คุยกันไม่น่าจะมีการได้ฉลองอะไร ด้วยความที่มันไม่มีพิธีอะไร ทุกอย่างถ้าเราอยากทำ เขาอยากทำก็ทำ ไม่ได้เกิดการวางแผนอะไร เรื่องเจ้าชู้ไม่เคยบอกว่าไม่กลัว แต่จะบอกว่าเราไม่ได้ไปตัดสินเขา เป็นผู้หญิงก็ต้องมีบ้าง รู้สึกว่าสุดท้ายคนเราอยู่ด้วยกัน ไม่ได้อยากมานั่งโฟกัสว่าเช้าชู้หรือเปล่า วันนี้จะไปทำอะไร คือมันไม่มีความสุขหรอก เราก็ต้องมองข้ามเรื่องนั้น แล้วก็แค่ใช้ชีวิตหนึ่งวันด้วยกันแบบมีความสุขแค่นั้นเอง ไม่ได้อยากมานั่งวางแผนอะไรมาก เกือบ1 ปีที่ผ่านมายังไม่ได้มีอะไรที่ทำให้มองว่าเขาเจ้าชู้ เพราะต้องบอกว่างานที่เขาทำมันต้องใช้ตัวตนเขาสูงอยู่แล้ว ซึ่งมองว่างานเราก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน เช่นจะต้องมาอ้อร้อผู้ชาย ก็เลยรู้สึกว่าเข้าใจตรงนั้น แต่ในชีวิตจริงยังไม่มีเรื่องพวกนี้ ถามว่าเขาหยุดที่เราไหมก็คงต้องไปถามเขา
ที่หลายคนมองว่าเขาเปลี่ยนไปเยอะ ในความคิดเรามันอาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเราด้วย มันอาจจะเป็นเพราะว่าพี่เขาก็โตขึ้นด้วย แล้วก็คิดว่าเขาผ่านชีวิตมาเยอะ ส่วนเรื่องคาดหวังกับความรักครั้งนี้จะพูดว่าไม่คาดหวังก็คงแปลก ลึกๆ คิดว่าคาดหวัง แต่เราใช้ชีวิตแบบไม่คาดหวังดีกว่า แค่อยากมีความสุขในทุกวัน ทุกคนรอบตัวมีความสุขก็โอเคแล้ว เรื่องอนาคตถ้าคิดจะคุยกับใครสักคนแล้ว มันก็ต้องมีเห็นบ้าง แต่ไม่ได้ไปคิดเยอะ สุดท้ายแล้วจะบอกว่ามีเจ้าของ เราคิดว่าเราต้องใช้ชีวิตแบบไม่เป็นเจ้าของใคร ต้องให้อิสระต่อกันและกัน ให้เกียรติ และเคารพกันแบบนี้ดีกว่า ซึ่งก็ยกให้พี่เขาเป็นที่หนึ่งในใจ เพราะวันวาเลนไทน์ก็บอกรักไปแล้ว
ด้านเรื่องคดีความกับคุณเอ๋ ปารีณา เอาจริงๆไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย เพราะมีสิ่งที่ต้องทำ มีงาน มีครอบครัวที่ต้องดูแล เพราะฉะนั้นเราโฟกัสหลายๆอย่าง สำหรับเรื่องนี้แทบจะไม่อยู่ในหัวเลย แต่ถ้ามันดันเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมาเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที แต่ถามว่าอยู่ในหัวไหม ไม่อยู่เลย