ทำความรู้จัก 8 เรื่อง(ไม่)ลับของ "แชดวิก โบสแมน" ที่หลายคนอาจไม่เคยรู้
ข่าวสารวงการหนัง แชดวิก โบสแมน เสียชีวิต
นักแสดงหนุ่มผู้ล่วงลับ "แชดวิก โบสแมน" ที่เสียชีวิตลงจากโรคมะเร็งลำไส้ไปเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (28 ส.ค.) เรื่องราวของเขายังเป็นที่กล่าวถึงในหมู่แฟนหนังที่รู้สึกเสียดายที่เขามาด่วนจากไป อีกทั้งยังทิ้งผลงานหนังภาคต่อ "Black Panther 2" เอาไว้ให้ยังติดขัดเดินหน้าต่อไปไม่ได้
แต่กว่าเขาจะกลายมาเป็นกษัตริย์ทีชัลลาที่คนทั้งโลกรัก เส้นทางชีวิตและตัวตนของเขาก็ได้ผ่านหลากหลายบททดสอบเช่นกัน Movie.TrueID จึงได้หยิบเอาเรื่องราวที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนของแชดวิก โบสแมน
แชดวิก โบสแมน เล่นหนังและรับบทเป็นบุคคลในตำนานหลายเรื่อง
แม้ว่า "Black Panther" จะเป็นหนังที่แจ้งเกิดให้กับเขาอย่างเป็นทางการ แต่ผลงานเรื่องก่อนหน้านี้ของเขาหลายเรื่อง ส่วนใหญ่จะรับบทบาทจากบุคคลสำคัญที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ไม่าว่าจะเป็นนักเบสบอล "แจ็คกี้ โรบินสัน" ในหนัง "42" รับบทเป็นนักร้องอมตะ "เจมส์ บราวน์" ในหนัง "Get On Up" หรือสวมบทบาทเป็นนักกฎหมายผิวสีคนดัง "เธอร์กู๊ด มาร์แชล" ในเรื่อง "Marshall" แม้ว่าบทบาทเหล่านี้แทบจะไม่มีใครจดจำเขาได้เลย แต่ก็ถือว่าเป็นอีกบทบาทที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา
แชดวิก เคยเป็นผู้ชนะรางวัลในฐานะนักเขียนบทละครเวที
ก่อนที่เขาจะกลายมาเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงในวันนี้ เขาเคยเริ่มต้นจากการทำงานเบื้องหลัง ตามสาขาที่ร่ำเรียนมาจากมหาวิทยาลัย ผลงานเรื่องแรกๆ และเป็นผลงานที่เขายังภาคภูมิใจก็คงจะเป็น "Crossroads" ที่เป็นการเขียนบทละครของเขาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นมัธยม โดยเป็นบทชิ้นแรกในชีวิตของเขาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากชีวิตของเพื่อนร่วมทีมบาสเก็ตบอลของเขา ที่ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างที่อยู่ในรั้วโรงเรียน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เขาสร้างสรรค์เขียนบทใหม่ๆ ออกมา และเรื่อง "Deep Azure" เป็นงานละครเวทีเรื่องเล็กๆ ที่เขาได้รางวัลกลับมากอด
แชดวิก ก้าวเข้าสู่อาชีพนักแสดงเพราะหวังจะเป็นผู้กำกับที่ดีในอนาคต
เขาเป็นนักศึกษาสาขาศิลป์จากมหาวิทยาลัยโฮวาร์ด เดิมเขามีความมุ่งมั่นอยากจะเป็นผู้กำกับมากกว่านักแสดง แต่เขาอยากจะรู้ซึ้งก่อนว่านักแสดงเป็นอย่างไร ถึงจะไปสู่เส้นทางการเป็นผู้กำกับได้ ทำให้เขาได้ตัดสินใจศึกษาทางด้านนี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์ว่า เขาเริ่มเรียนแอคติ้งเพราะอยากรู้ว่าเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้ใช้ทักษะนี้ไปพัฒนาสร้างงานเป็นของตัวเองในลำดับต่อไป แต่ปรากฏว่าอาชีพนักแสดงของเขาได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขาไปเสียแล้ว และความโด่งดังอยู่เบื้องหน้าผลักดันให้เขาเป็นซูเปอร์สตาร์ ทำให้การโยกตัวไปอยู่เบื้องหลังต้องพักเอาไว้ก่อน
แชดวิก เคยพิจารณาจะลาจากวงการนักแสดงอยู่หลายครั้ง
แน่นอนว่าอาชีพนักแสดงของเขาไม่ได้โรยด้วยกีบกุหลาบแต่อย่างใด จุดเริ่มต้นเขาก็เหมือนกับนักแสดงคว้าฝันทั่วๆ ไป ต้องออกไปออดิชั่นงานต่างๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เจอคำปฏิเสธกลับมานับครั้งไม่ถ้วน ช่วงเวลาหนึ่งเขาได้กลับมานั่งทบทวนชีวิตของตัวเองว่าเหมาะกับเส้นทางนี้หรือไม่ นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะได้รับโอกาสสำคัญ รับบทนำให้หนัง "42" เขาบอกว่า ช่วงนั้นไม่มีกองถ่ายไหนตอบรับเขาเลยสักที่ จึงเป็นจุดที่เขาเริ่มจะยุติจากการเป็นนักแสดงไปเสียแล้ว แต่โอกาสใหญ่ก็มาถึงเขาในที่สุด
แชดวิก กับ ไมเคิล บี จอร์แดน เป็นเหมือนพี่น้องท้องเดียวกันประมาณนั้น
ในหนัง Black Panther อาจจะเห็นว่า ทีชัลลา กับ คิลมองเกอร์ ตีกันแทบตาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นกว่าที่คนเห็น แชดวิก กับ ไมเคิล เป็นนักแสดงที่ค่อนข้างสนิทสนมกันเป็นอย่างมากในวงการบันเทิง พวกเขาเป็นพี่น้องร่วมวงการที่อายุห่างกัน 10 ปี ในซีรีส์ All My Children ที่ทั้งคู่เคยร่วมแสดง แม้จะเป็นเพียงบทเล็กๆ แต่การเจอและได้ทำงานร่วมกันในครั้งนั้น ทำให้ ไมเคิล ยกให้ แชดวิก เป็นตัวอย่างในการเดินบนเส้นทางอาชีพนักแสดงมาถึงทุกวันนี้
เดนเซล วอชิงตัน เป็นคนที่ช่วยสนับสนุนให้เขาได้ไปเรียนต่อที่อ๊อกซฟอร์ด
หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า "เดนเซล วอชิงตัน" เป็นหนึ่งในคนดังที่มีอิทธิพลในชีวิตของแชดวิก เพราะเขามีส่วนผลักดันให้เขาประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ ด้วยการแนะนำและช่วยเหลือให้แชดวิกได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด ก่อนจะมาเป็นนักแสดงที่ประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ จึงทำให้เดนเซลเป็นเหมือนผู้ที่มีพระคุณต่อเขาอีกคนในชีวิต การผลักดันทางการศึกษาในครั้งนี้ แชดวิกมารู้ภายหลังว่าใครเป็นผู้สนับสนุนและได้เขียนจดหมายขอบคุณอย่างสุดซึ้ง
แชดวิก มาจากครอบครัวและตระกูลที่ใหญ่...ใหญ่มากๆ
ครอบครัวของแชดวิก อาจจะไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่เขาก็มาจากตระกูลที่ยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก ไม่ใช่เพราะยศฐาบรรดาศักดิ์ แต่กลับเป็นจำนวนสมาชิกครอบครัวต่างหาก เขาเคยบอกว่า หลังจากที่คุณย่าของเขาจากไป ได้ทิ้งหลานกับเหลนเอาไว้ข้างหลัง มากกว่า 115 คน นั่นเป็นเพียงแค่ครอบครัวของเขาเพียงแค่ฝั่งเดียวเท่านั้น เขาจึงได้เติบโตมาพร้อมกับเครือญาติที่ใหญ่มากๆ และทุกคนก็รักใคร่กลมเกลียวกันเป็นอย่างดี และมีส่วนสนับสนุนให้เขาประสบความสำเร็จจนถึงวันนี้
อันที่จริง แชดวิก ไม่ได้เข้ามาออดิชั่นกับมาร์เวล เพื่อมารับบทแบล็กแพนเตอร์
แชดวิก เคยได้เล่าว่า อันที่จริงเขาได้บทแบล็กแพนเตอร์มาอย่างไม่ตั้งใจสักเท่าไหร่นัก เพราะเขาได้เดินทางไปออดิชั่นรับบทกับมาร์เวล ในตอนนั้นเขาถูกเรียกตัวไปทดสอบหน้ากล้องในบท แดร๊กซ์ เดอะ เดสทรอยเยอร์ (Drax the Destroyer) หนึ่งในสมาชิกของ Guardians of the Galaxy แทนปรากฏว่าในท้ายที่สุดบทนั้นก็ตกเป็นของ "เดฟ บอทิสตา" ไป และเขาก็ได้รับโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าด้วยการมารับบทนำใน Black Panther ให้กับหนังมาร์เวลในที่สุด
----------------------------------------------------