เรื่องราวของความหวังที่ริบหรี่ในโลกที่สิ้นหวัง “Mono” เด็กชายผู้สวมถุงกระดาษ และ “Six” เด็กหญิงผู้สวมเสื้อกันฝนสีเหลือง ได้มาพบกันท่ามกลางโลกที่เน่าเฟะและบิดเบี้ยว การปรากฏตัวของพวกเขาเป็นเหมือนแสงสว่างเล็กๆ ที่จุดประกายความหวังว่าพวกเขาจะสามารถเอาชนะความมืดมิดและหนีจากโลกอันโหดร้ายนี้ไปได้ ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มต้นจากการเป็นพันธมิตรที่ต้องพึ่งพากันเพื่อเอาตัวรอด ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันและเอาใจช่วยกับการเดินทางของพวกเขา รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! แต่เดี๋ยวก่อน.. หากใครคิดว่าตัวเกม The Little Nightmares Season 2 จะออกมาแนวในเกมรักโรแมนติกเหมือนหน้าปกล่ะก็ นั่นคือความคิดที่ผิดมหันต์! เนื้อเรื่องของ Little Nightmares II เรื่องราวของเกมนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเดินทางผจญภัย แต่เป็นการเล่าเรื่องเชิงสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงประเด็นทางสังคมและจิตวิทยาที่ลึกซึ้ง แต่ยังสำรวจไปถึงโลกแห่งความบิดเบี้ยวโดย Mono และ Six ต้องเดินทางผ่านสถานที่ต่างๆ ที่เป็นตัวแทนของความผิดปกติในสังคม อาทิ โรงเรียน (The School) คือการสะท้อนถึงการกดขี่และการกลั่นแกล้ง, โรงพยาบาล (The Hospital) คือสัญลักษณ์ของความกลัวและความโดดเดี่ยว ส่วนเมือง Pale City และ สัญญาณทีวี (The Signal Tower) เป็นการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการเสพสื่อที่ทำให้ผู้คนกลายเป็นคนเฉื่อยชาและไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ โดยในบทความนี้จะเป็นการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ในเชิงจิตวิทยาของตัวละครหลักอย่าง Mono และ Six ค่ะ ที่จะลงเอยและมีบทสรุปอย่างไร? เมื่อเริ่มสงสัยกันแล้วไปรับชมกันเลย! ความสัมพันธ์แบบเพื่อนพึ่งพา (Symbiotic Relationship) ในช่วงแรกของเกม Mono และ Six ไม่ใช่แค่เพื่อนร่วมทาง แต่เป็นเหมือน "คู่หู" ที่ต้องพึ่งพากันและกันอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อเอาตัวรอด โดยที่ Mono เป็นตัวแทนของ "ความแข็งแกร่ง" เขาใช้พละกำลังในการยกของหนัก, เปิดประตู, หรือทำลายสิ่งกีดขวางที่ Six ไม่สามารถทำได้ ในขณะที่ Six ก็เป็นตัวแทนของ "ความว่องไว" และ "ความฉลาด" เธอตัวเล็กกว่าจึงสามารถเข้าไปในที่แคบ ๆ หรือกระโดดข้ามช่องว่างเพื่อช่วย Mono ได้ ความผูกพันที่หล่อหลอมจิตใจ เมื่อเวลาผ่านไป การจูงมือกันของพวกเขาไม่ใช่แค่การช่วยพยุงเพื่อเอาชีวิตรอด แต่มันกลายเป็น "พันธสัญญา" ที่ไร้คำพูด พวกเขาเล่นด้วยกัน, คอยปลอบใจกันในยามหวาดกลัว, และกลายเป็นเหมือนบ้านของกันและกันในโลกที่ไร้ซึ่งที่พักพิง ทำให้ผู้ชมได้เห็นแง่มุมของความเป็นมนุษย์ที่ยังคงอยู่ แม้ในสถานการณ์ที่โหดร้ายที่สุด Mono พยายามที่จะ "ปกป้อง" Six ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือเธอจากการถูกจับตัว หรือการทำลายศัตรูที่เข้ามาคุกคาม และตัวของ Six เองก็มีความรู้สึกที่ซับซ้อนเช่นกัน เธอแสดงออกถึง "ความกลัว" และ "ความเปราะบาง" แต่ก็มีท่าทีที่มั่นคงเมื่อได้อยู่กับ Mono การหักหลังที่สั่นสะเทือนอารมณ์ จุดหักเหที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล คือตอนที่ Mono กำลังจะร่วงจากขอบสะพาน Six ในฐานะคนที่เขาปกป้องมาตลอด กลับเลือกที่จะ "ปล่อยมือ" จากเขา การกระทำนี้ไม่ใช่แค่การหักหลัง แต่เป็นการทุบทำลายความผูกพันที่ทั้งสองสร้างขึ้นมาจนหมดสิ้น มันคือการตัดสินใจที่มาจากสัญชาตญาณดิบของ "ผู้รอดชีวิต" ที่รู้ว่าในโลกนี้ ไม่มีที่ยืนสำหรับความอ่อนแอ Six ในที่นี้เป็นตัวแทนของ "สัญชาตญาณ" ที่อยู่เหนือทุกสิ่ง เธอเคยเป็นเหยื่อและถูกทอดทิ้งมาก่อน ทำให้เธอรู้ว่าการจะเอาตัวรอดในโลกนี้ได้ ต้องไม่มีความอ่อนแอ หรือความเห็นอกเห็นใจให้กับใคร การปล่อยมือของ Six ทำให้ Mono ถูกทิ้งไว้ในความมืดมิดและเติบโตขึ้นเป็น The Thin Man ตัวร้ายในเกม การกระทำของ Six จึงกลายเป็น "ชนวน" ที่สร้างตัวร้ายขึ้นมา และทำให้เรื่องราวทั้งหมดของพวกเขาเป็น "วัฏจักรแห่งความเจ็บปวด" ที่ไม่มีวันจบสิ้น (ฮืออ) ท้ายที่สุดแล้ว การเดินทางของ Mono และ Six คือการเดินทางสู่ความมืดมิดในจิตใจมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความหวังและความสิ้นหวังในเวลาเดียวกัน ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้ Little Nightmares II ไม่ใช่แค่เกมสยองขวัญ แต่เป็นงานศิลปะที่ฝากรอยแผลไว้ในใจผู้ชมไปอีกนาน โดยเฉพาะแฟนเกมที่เรียกได้ว่าปวดตับกันเป็นแถวเลย~ ขอบคุณรูปภาพโดย Twitter: @Littlenights ภาพปก ภาพที่ 1/2/3/4/5/6/7/8/9 จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !