Series Review Shinjuku Field Hospital (2024) โรงพยาบาลในตรอก ล้น รั่วโดยเจตนาแต่สนุกเป็นบ้า มาทังขำขันเอาฮากับความจริงจังที่อยู่ตรงหน้าอย่างคมๆในหลายแง่มุมทั้งทางสังคม ความเหลือมล้ำ และหัวใจ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! บางครั้งหรือบ่อยครั้งการขึ้นรถผิดสายก็อาจทำให้เราพบความความสวยงามของทิวทัศน์สองข้างทางในสถานที่หรือเส้นทางที่ไม่คุ้นหรือไม่ค่อยได้ผ่าน เช่นกันกับการดูหนังดูซีรีส์ที่บางครั้งมีหนังมีซีรีส์บางเรื่องที่อาจไม่ได้อยู่ในสายตาหรือตั้งใจจะดูแบบจริงจังแต่กลับได้ความบันเทิงที่คุ้มค่าอยู่มากมาย ซึ่งในความเป็นหนังมันคงไม่แปลกเพราะเวลาฉายแค่ชั่วโมงกว่าหรือสองชั่วโมงอาจมีมากกว่านั้นบ้างบางครั้งก็ทนดูจนจบได้แต่ถ้าเป็นซีรีส์นี่ถ้าไม่ไหวก็คงไม่ฝืนเพราะมันมีความยาวที่ค่อนข้างกินเวลาชีวิต แล้วก็วกมาหาบทความที่ท่านกำลังจะได้อ่านกันในวันนี้นี่คือซีรีส์ที่ผู้เขียนยอมรับว่าเมื่อเห็นผ่านๆก็ไม่ได้ดึงดูดใจทั้งที่นี่คือซีรีส์ญี่ปุ่นที่ผู้เขียนค่อนข้างชอบ อาจเพราะเป็นซีรีส์ทางการแพทย์ที่ยอมรับว่ามันเยอะมากจนเบื่อนิดหน่อยอยากดูแนวอื่นบ้างแถมนักแสดงยังแค่คุ้นหน้าไม่คุ้นใจ จนเมื่อวันหนึ่งที่ผู้เขียนมีเวลาว่างซึ่งมันควรจะดูอย่างอื่นแต่ไม่รู้อะไรดลใจให้ลองดูสักตอนสองตอนถ้าไม่ใช่ก็แค่หยุดแล้วไปทำอย่างอื่นแต่กลายเป็นว่ายาวไปรวดเดียวอย่างน่าประหลาด นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในย่านคาบูกิโจในชินจูกุย่านศูนย์รวมแหล่งบันเทิงที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกที่ไม่กี่ปีมานี้ที่นี่พลิกโฉมกลายเป็นที่รื่นเริงและถูกสุขอนามัยสำหรับคนรุ่นใหม่ บาร์โฮสต์ คลับโฮสต์ บาร์สาวๆและสถานบันเทิงถูกกฎหมายอีกมากมายตั้งเรียงรายตลอดฝั่งถนนที่ใครๆก็มาเที่ยวอย่างปลอดภัยได้ คาบูกิโจเป็นที่ที่คนจากทุกมุมโลกมารวมตัวภาษาหลากหลายถูกใช้พูดคุยกัน ย่านนี้มีสถานพยาบาลหลากหลายขนาดถึงห้าแห่งและมีห้องฉุกฉินที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อความปลอดภัยของทุกคน นั้นคือคำพูดโฆษณาสวยหรูที่คนในพื้นที่บอกแต่ความจริงคือที่นี่มีคือโรงพยาบาลเก่าแก่ที่ใครๆก็ไม่อยากไปนั่นคือมาโคโคโระและที่นี่เองได้ต้อนรับศัลยแพทย์ทหารสัญชาติอเมริกันโยโกะ นิชิ ฟรีแมน (เอริโกะ โคอิเกะ) ในฐานะศัลยแพทย์ประจำเพราะเธอมีความสามารถในการช่วยชีวิตคนแม้จะเหมือนทำลวกๆก็ตาม ซึ่งก็แน่นอนเพราะเธอคือแพทย์ทหารที่รักษาคนในสนามรบแต่เมื่อที่นี่คือคาบูกิโจทุกสถานการณ์จึงไม่ต่างจากสนามรบเต็มไปด้วยความวายป่วง เล่าเรื่องสไตล์ญี่ปุ่นแท้ที่ซอยเรื่องเป็นตอนย่อยจบในตอนแถมยังไม่พยายามซับซ้อนทางเรื่องราวแต่ซับซ้อนในมิติเชิงลึก นี่คือซีรีส์ทางการแพทย์ที่เล่าเรื่องราวของพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางบริบทสังคม ชนชั้น ความเหลื่อมล้ำและทางหัวใจในพื้นที่ที่มีทั้งฉากหน้าที่สวยหรูและฉากหลังที่เสื่อมโทรม แน่นอนซีรีส์ทางการแพทย์จะต้องเล่าถึงเคสการรักษาแปลกบ้างไม่แปลกบ้างที่หลากหลายทำให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องแบบญี่ปุ่นแท้คือเล่าเหมือนการ์ตูนจบในตอน และยังไม่พยามซับซ้อนออกจะง่ายๆแต่ก็ง่ายได้ถูกต้องเพราะเมื่อมีเคสที่เกินจะรับมือไหวก็ส่งต่อไปหรือเรียกว่าการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเพราะนี่ไม่ใช่เรื่องของหมอเทวดา แต่สิ่งที่ดีที่สามารถทำให้เป็นความต่างคือการซ้อนเรื่องของสังคมบ้านเขาที่โฟกัสลงไปที่คาบูกิโจในชินจูกุที่คงเป็นปัญหาเรื้อรังที่ยากจะจัดการ ซึ่งก็คือการซ้อนมิติเชิงลึกได้แนบเนียนผ่านการเจ็บป่วยที่คงเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ที่ซีเรียสบ้างแต่บางครั้งก็ฮาเช็ดเช่นการที่เอาไอ้นั่นใส่ลงไปในขวดแม้ตอนท้ายจะเป็นสูตรสำเร็จไปบ้างก็ช่างมัน ทั้งล้นทั้งรั้วแถมยังเรื้อนแต่ผสานการเอาจริงแบบจริงจังกับการเอาฮาได้อย่างสนุกเป็นบ้า แต่คงจะมีบ้างที่ถูกค่อนขอดว่าบทละครออกมารั่วมากซึ่งก็จริงและไม่ใช่แค่รั่วแต่ถึงขั้นเรื้อนทว่านี่คือการตั้งใจให้เรื้อนไม่ใช่ตั้งใจมาเนี้ยบแต่ออกมาเรื้อน เพราะเจตนาของบทชัดที่จะผสานการเอาจริงเข้ากับการเอาฮาโดยที่เอาฮาออกนอกหน้าแล้วเอาจริงเป็นแรงสนับสนุน นั่นคือเรื่องถูกขับเคลื่อนด้วยความรั่วเรือนและล้นบนความตั้งใจมาเอาฮาแต่แรงสนับสนุนคือเคสการรักษาที่เห็นชัดว่าเอาจริงเพราะเหมือนถูกอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นจริงในพื้นที่ และส่วนที่ผู้เขียนมองว่ามันคือความเยี่ยมคือแม้จะออกมาเรื้อนสุดขีดก็คือแม้การเล่าเรื่องที่เจตนาปั่นจัดๆแต่เบื้องหลังเชิงอารมณ์ยังจัดการคนดูได้เพราะการผสานการเอาจริงกับเอาฮาลงตัวดีทั้งที่ตั้งใจมาฮาแท้ๆ สิ่งที่ตามมาคือมันดูสนุกคือดูแล้วตลกดูแล้วคันหัวใจแต่ก็มีอะไรให้ฉุกคิดแม้ความซับซ้อนทางหัวใจถูกความขำขันบังตาแต่ก็ยังทำได้ดีเพราะซีรีส์ญี่ปุ่นที่จะเล่าดราม่าได้ดีโดยที่ไม่ต้องขยี้ทำให้เรื่องนี้ออกมาสนุกเป็นบ้า ความรั่วเรื้อนและล้นเกินเบอร์ในส่วนของการแสดงมาจากเจตนาที่จะมาเป็นความขำขันหรืออาจเรียกได้ว่าแสดงเพื่อเอาฮา แรกเลยคือผู้เขียนไม่เชื่อว่าภาษาอังกฤษระดับห่วยแตกจากคนที่โตในนิวออร์ลีนประเทศสหรัฐอเมริกาจะไม่ใช่ความตั้งใจ หรือเรียกง่ายๆว่าออกแบบตัวละครมาแบบนั้นที่ถ้าจะเรียกแบบบ้านๆคือดัดจริตที่ความตั้งใจแต่แรกคงเป็นการขายคาแรกเตอร์ให้เป็นการ์ตูนคือล้นและรั่วไปให้สุดไม่ต้องสนสี่สนแปดคือใครจะว่าโอเวอร์แอ็คติ้งก็ว่าไป I don't care เพราะตั้งใจมาให้คนดูฮาให้กระจาย แล้วมันก็ได้ผลเพราะทุกครั้งที่ตัวละครหมอโยโกะพ่นภาษาอังกฤษที่ฟังแทบไม่รู้เรื่องและกระแดะออกมาผู้เขียนต้องฮาแล้วฮาเล่าเอาจนไม่กล้ากินน้ำเพราะกลัวพ่นออกทางจมูก นั่นหมายความว่าการแสดงมาเพื่อฮาไม่ได้มาเพื่อซีเรียสหรือความสมจริงแต่ที่เจ๋งคือเมื่อต้องการเปลี่ยนผ่านทางความรู้สึกหรือทางหัวใจที่มันต้องมีในงานทางญี่ปุ่นก็ยังทำได้ดีจับต้องได้ และมันมาจากความตั้งใจมาฮาโดยมีความรั่วและล้นของเหล่านักแสดงสมทบมากหน้ามาสนับสนุน กลายเป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าเกินคาดเพราะยังไงนี่ก็คือซีรีส์ทางการแพทย์ชั้นดีที่มีชั้นเชิงการดึงอารมณ์ต่างไป สารภาพว่าจากที่แค่จะดูผ่านๆแต่กลายเป็นรวดเดียวจบตอนที่เลยเวลานอนไปแล้วและที่น่าทึ่งคือเรื่องไม่ได้มีเรื่องยาวที่ซ้อนไว้ให้ลุ้นด้วยคือเล่าจบเป็นตอนนั่นแหละแต่มันสนุก จนกลายเป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าที่จะว่าเกินคาดก็ได้เพราะไม่คิดเหมือนกันว่าซีรีส์การแพทย์ที่เคสการรักษาจริงจังแบบนี้จะเล่าแบบเอาฮาสุดติ่งได้ แล้วถ้าว่ากันที่นี่คือซีรีส์การแพทย์โดยที่เอาแค่เรื่องการแพทย์ที่ก็คือซีรีส์การแพทย์ชั้นดีที่มีความจริงจังมีเคสที่สามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้มาให้ได้รับรู้และระวัง หรืออาจจะเรียกได้ว่าเอาเรื่องง่ายๆที่คนมักมองข้ามมาเล่าด้วยซ้ำแต่ความต่างมันคือการดึงอารมณ์เพราะเอาจริงคือเคสการรักษาไม่ต้องลุ้นปัสสาวะเหนียวเหมือนซีรีส์การแพทย์ทั่วไปเพราะนี่คือการรักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่สิ่งที่ดีคือเรื่องเชิงหัวใจที่ซ้อนอยู่เบื้องหลังทั้งทางบริบทสังคม ความเหลื่อมล้ำ หรือแม้กระทั่งพื้นฐานทางครอบครัวที่จับใจได้ทั้งที่นี่คือซีรีส์ที่ฮากระจายเลยนะนั่น ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 จาก Instagram shinjyuku_yasen เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !