เชื่อว่าคนยุค 80 หรือ 90 จะต้องมีคนที่คุ้นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่าง The Lord of the Rings ที่เป็นหนังไตรภาค ซึ่งอิงมาจากนวนิยายชื่อดัง The Lord of the Rings ซึ่งเราในวัยนั้นถึงแม้จะเป็นช่วงวัยเด็กอายุสิบกว่าๆ แต่ก็ทันดูเช่นกัน และก็ยังดูมาจนถึงวันนี้นะ เพราะปัจจุบันได้มีให้ชมแบบถูกลิขสิทธิ์แล้วบน Prime Video และแน่นอนว่าเมื่อเป็นแฟนตัวยงของภาพยนตร์เรื่องนี้ขนาดนี้ก็ต้องไม่พลาดเรื่อง The Lord of the Rings: The Rings of Power ซึ่งจะเป็นเนื้อหาก่อนหน้าที่เซารอนจอมโฉดจะเผยโฉมความชั่วร้ายออกมา ดำเนินเรื่องด้วยเหล่าตัวละครดั้งเดิม แต่นำแสดงโดยผ่านนักแสดงคนใหม่ที่เล่นออกมาได้ดีและยังคงความเป็นตัวละครนั้นๆ ไว้ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นที่มิดเดิ้ลเอิร์ธ ความชั่วร้ายที่อยู่ลึกที่สุดค่อยๆ คืบคลานออกมาจากทือกเขามิสตี้สู่ผืนป่าอันงามสง่าแห่งลินดอน โดยซีรีส์ชุดนี้จะเล่าในมุมมองของตัวเอกขอฃเรื่องคือ ท่านหญิงกาลาเดรียล ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างทรงพลังและดูลึกลับมากทั้งในหนัง The Lord of the Rings และ the hobbit แต่ท่านหญิงกาลาเดรียล ในซีรีส์ชุดนี้จะเหมือนจุดเริ่มต้นของท่านหญิง จะบอกว่าเป็นท่าหญิงในวัยเยาว์ก็ไม่น่าใช่เพราะท่านหญิงในซีรีส์ชุดนี้ก็ต่อสู้ไล่ล่าความมืดมาร้อยกว่าปี ส่วนในหนังน่าจะอายุพันปี ซึ่งกาลาเดรียลนั้นเป็นผู้ที่หมายมั่นจะไล่ล่าออร์คทุกตัวเพื่อช่วยทุกๆ อาณาจักร์ทั้งมิดเดิ้ลเอิร์ธ อาณาจักรนูเมนอร์ ดินแดนใต้จรดเหนือ โดยรวมเป็นซีรีส์ที่สนุกเข้มข้นมากจนอยากให้ได้ลองรับชมกัน และในบทความนี้เราจะมาบอกว่าทำไมคุณถึงไม่ควรพลาดชมซีรีส์เรื่องนี้กันค่ะ 1. เนื้อเรื่องเดียวกับภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์สุดฮิตเก่าอย่าง The Lord of the Ringsอย่างที่บอกไปว่ามันเป็นเนื้อเรื่องเดียวกับภาพยนตร์ชุดดั้งเดิมที่เป็นตำนานอย่าง The Lord of the Rings ดังนั้นคนกลุ่มแรกที่ไม่ควรพลาดชมเลยก็คือแฟนๆ หนัง The Lord of the Rings เราจะได้เห็นตัวละครที่เราชอบกลับมามีบทบาทอีกครั้งแม้จะไม่ใช่นักแสดงคนเดิมแต่พวกเขาก็ถ่ายทอดออกมาได้เหมือนตัวละครดั้งเดิม และเราจะได้เห็นที่มาที่ไปในหลายๆ ด้าน เซารอนมาจากไหน ออร์คกำเนิดขึ้นมาอย่างไร และเหล่าผู้ทรงพลังในภาพยนตร์ชุดแรกเริ่มต้นมาได้อย่างไร ในภาพยนตร์เราอาจจะเห็นว่ามาถึงเขาก็เก่งกันเลย แต่จริงๆ แล้วกว่าพวกเขาจะยิ่งใหญ่ขนาดนั้นได้ก็ผ่านเรื่องราวมากมาย เราจะได้เห็นจุดเริ่มต้นทั้งหมดของจักรวาล The Lord of the Rings 2. โปรดีกซ์ชันดี ภาพสวย คอสตูมนักแสดงเลิศมากแม้จะไม่ใช่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ แต่ซีรีส์ชุดนี้ก็ทุ่มเททุ่มทุนสร้างมากเช่นกัน งานภาพดีมาก มุมมองภาพการนำเสนอเรื่องออกมากจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องการจัดแสงดูอลังการและดูสมกับเป็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่ สมความสง่างามของชาวเอลฟ์มาก ฉากการหลอมแหวน รวมไปถึงการตีเหล็กสร้างอาวุธต่างๆ ก็ดีงาม เรื่อง CG เขาก็เนียบกริบกันมากเลย3. นักแสดงดี แคสมาได้เข้าถึงบทบาทกันทุกคน ทุกตัวละครถ่ายทอดความรู้สึกออกมาดีหมดเลย คนที่ร้ายที่สุดในคราบคนดีก็เล่นดีมากจนตัวเราเองก็ไม่ได้คิดว่าเขาคนนี้จะร้ายที่สุด คนที่ปรากฎตัวด้วยความลึกลับงงงวยว่าสรุปร้ายหรือดีก็เล่นได้ชวนให้เรามีคำถามว่าสรุปว่าตัวละครตัวนี้มันยังไงกันแน่นะ แต่ที่ชอบที่สุดคือตัวละครหลักที่เคยถูกถ่ายทอดความสง่างามและน่าเกรงขามมาแล้วอย่าง "ท่านหญิงกาลาเดรียล" ซึ่งผู้รับบทคือ มอร์ฟิดด์ คลาร์ก ( Morfydd Clark ) และผู้ที่เคยนำแสดงบทนี้ไปแล้วนั้นคือ "เคต แบลนเชตต์" ( Cate Blanchett ) ที่แม้จะต่างนักแสดงแต่การถ่ายทอดก็ทำออกมาดีมาก ทั้งที่นักแสดงคนละคนกันแต่พวกเขาก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้เหมือนตัวละครดั้งเดิม เดิมทีถ้าอิงตามหนังสือกาลาเดรียลนั้นจะเป็นเอล์ฟที่เก่งกาจที่สุดคนหนึ่งเลย ซึ่งภายหลังนางจะเก่งออกไปทางเวทมนตร์คาถา ภาพรวมเธอก็เป็นเอลฟ์มีมาพร้อมแสงสว่างแต่เพราะในใจของเธอมีความแค้น มีการสูญเสียดังนั้นเธอจึงเหมือนเป็นคนที่มีความดำมืดเล็กๆ ในจิตใจ กาลาเดรียลที่เราเห็นก็เลยมีความน่าเกรงขามพร้อมความลึกลับด้วย และทั้งสองนักแสดงที่รับบทกาลาเดรียลนั้นก็เล่นออกมาดีทั้งสองคนเลย อีกหนึ่งคนที่เล่นได้ดีก็คือ " โรเบิร์ต อรามาโย" ( Robert Aramayo ) รับบท "ท่านเอลรอนด์" ก็ถ่ายทอดออกมาได้ดูสง่าและยิ่งใหญ่ สุภาพ ฉลาดรอบรู้มีวาทะศิลป์ดีคงภาพลักษณ์ท่านเอลรอนด์ แห่งริเวนเดลล์ ได้แบบเป๊ะๆ เลย 4. ฝึกภาษาอังกฤษ มีคำศัพท์ที่ใช้ได้ในชีวิตจริงอยู่เยอะฝึกภาษาได้ดีมากๆ ส่วนตัวรู้สึกว่าศัพท์ในเรื่องเป็นศัพท์ที่ใช้ได้ทั่วไป ใช้ได้จริง อีกส่วนที่จะได้จากซีรีส์เรื่องนี้คือการออกเสียงให้ตรง ฟังง่าย พูดตามได้ นำไปใช้ในชีวิตจริงได้จริง ดังนั้นหากใครมีสกิลภาษาอยู่บ้างแล้วแล้วอยากทบทวน อ่านได้แต่ออกเสียงไม่เป๊ะอยากฝึกออกเสียง ก็ลองไปรับชมและพูดตามนักแสดงในเรื่องดูค่ะ ส่วนตัวสนทนาได้แค่เอาตัวรอดเวลาไปเที่ยวต่างประเทศ บางคำก็ออกเสียงไม่ชัด ก็เลยรู้สึกว่าเวลาดูเรื่องนี้มันเหมือนได้ทวนคำที่เรามีปัญหาในการออกเสียงไปในตัว ได้ทั้งความบันเทิงได้ทั้งการเรียนรู้เลย5. นำเสนอเรื่องดี แต่ละตอนยาวแต่เดินเรื่องไม่อืด แต่ละตอนค่อนข้างมีเนื้อหาที่ยาวอยู่พอตัวเลย ตอนดูคือเก็บรวดเดียวก็ใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนแต่สุดท้ายก็ดูไม่จบหลับไปตอนราวๆ ตีสามได้มาดูตอนจบเอาตอนเช้า แต่ถึงแม้จะบอกว่าเรื่องรายตอนจะยาวแต่ดำเนินเรื่องไม่อืดเลย เรื่องไหลไปตามเส้นเรื่องได้กระชับ ได้ใจความ สนุกและมีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้ทึ่งได้ตลอดตอน เรียกว่าเป็นซีรีส์คุณภาพดี เนื้อหาสนุก นักแสดงก็ดีทั้งคุณภาพการแสดงและหน้าตากันเลย เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดชมจริงๆ ค่ะ หากใครยังไม่ได้รับชมสามารถไปรับชมกันได้ที่ Prime Video และ ซื้อแพ็กเกจผ่าน TrueID คลิกเลย สุดท้ายนี้หากใครที่รู้สึกชอบบทความนี้ก็อย่าลืมแชร์บทความนี้ออกไปเยอะ ๆ น้าาา และถ้าอยากจะติดตามเรื่องราวอื่น ๆ ของเรา ก็สามารถติดตามได้ที่ twitter Artinime ได้เลยค่ะhttps://twitter.com/supamas_kpr/status/1646159316653686787?s=20ขอบคุณภาพจาก The Lord of the Rings on Prime ภาพประกอบ- ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 (1,2) / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 ( 1,2,3,4,5,6,7,8 ) / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6ขอบคุณวิดีโอประกอบ จาก Prime Video - Official Trailer จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !