อัปเดตทำเนียบหนังเจ๊งคาบ็อกซ์ออฟฟิศ หนังตกอับตลอดกาล ฉบับปี 2023
กลายเป็นว่านับตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง อุตสาหกรรมภาพยนตร์กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะการคืบคลานเข้ามาของวงการหนังสตรีมมิ่ง ที่เปลี่ยนพฤติกรรมและทิศทางรายได้ต่อหนังแต่ละเรื่องได้อย่างสิ้นเชิง หนังในโรงภาพยนตร์ไม่ได้เป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ผู้ชมเป็นหลักอีกต่อไป ในเมื่อพวกเขาสามารถเฝ้ารออีกสักนิด ก็ได้ดูหนังผ่านหน้าจอตรงหน้าได้อย่างสะดวกสบาย
และนั่นอาจจะเป็นเหตุที่ทำให้ในช่วงรอบปีนี้นั้น เรามักจะได้เห็นความล้มเหลวของโปรแกรมหนังเรื่องต่าง ๆ บนบ็อกซ์ออฟฟิศ หนังที่ใช้ทุนสร้างแพงลิบ แต่กลับได้ผลลัพธ์คืนมาที่ไม่คุ้มค่าเพียงพอ ดังนั้นในวันนี้ MovieTrueID จะพาไปสำรวจสถิติหนังที่ทำเงินล้มเหลวตลอดกาล ที่พิจารณาและคิดจากสัดส่วนระหว่างทุนสร้างกับรายได้ทั่วโลก โดยที่ยังเว้นว่างจากงบประมาณประชาสัมพันธ์ของหนัง
โดยในภาพรวมแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าบรรดาหนังที่ขาดทุนตลอดกาลนั้น ส่วนใหญ่เป็นผลงานหนังจาก วอลต์ ดิสนีย์ ไม่ว่าจะเป็น "John Carter", "Strange World" หรือ "The Lone Ranger" ที่เป็นหนังแนวถนัดของดิสนีย์ แต่ปรากฏว่าทำผลลัพธ์ได้ค่อนข้างต่ำกว่าที่คาดเอาไว้หลายเท่าตัว
และเร็ว ๆ นี้เราน่าจะเห็นหนังฟอร์มใหญ่ทุนหนาในปี 2023 บางเรื่องจะได้ไต่ระดับขึ้นมาบนโผนี้ ไม่ว่าจะเป็น "The Flash" ของ ดีซี ฟิล์ม ที่เรื่องนี้ใช้ทุนสร้างไปไม่ต่ำกว่า 220 ล้านเหรียญ แต่รายได้ทั่วโลกยังค่อนข้างน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับ "Indiana Jones and the Dial of Destiny" ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาด ๆ แต่ก็ทำเงินไม่สู้สักเท่าไหร่นัก เพราะหนังใช้ทุนสร้างสูงถึง 295 ล้านเหรียญ นั่นก็อาจจะทำให้มีหนังดิสนีย์อีกเรื่องที่เข้าทำเนียบแห่งนี้
นี่คือตารางอันดับหนังที่ทำเงินรายได้ขาดทุนตลอดกาลในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์โลก
| ชื่อเรื่อง | ทุนสร้าง | รายได้ทั่วโลก | สัดส่วนที่ขาดทุน |
| John Carter (2012) / ดิสนีย์ | 263 ล้านเหรียญ | 284 ล้านเหรียญ | 112-200 ล้านเหรียญ |
| Strange World (2022) / ดิสนีย์ | 180 ล้านเหรียญ | 73.6 ล้านเหรียญ | 197 ล้านเหรียญ |
| The Lone Ranger (2013) / ดิสนีย์ | 225-250 ล้านเหรียญ | 260.5 ล้านเหรียญ | 160-190 ล้านเหรียญ |
| Mortal Engines (2018) / ยูนิเวอร์แซล | 110 ล้านเหรียญ | 83.7 ล้านเหรียญ | 174 ล้านเหรียญ |
King Arthur: Legend of the Sword (2017) / วอร์เนอร์ บราเธอร์ส | 175 ล้านเหรียญ | 148.7 ล้านเหรียญ | 112-153 ล้านเหรียญ |
| Battleship (2012) / ยูนิเวอร์แซล | 209-220 ล้านเหรียญ | 303 ล้านเหรียญ | 150 ล้านเหรียญ |
| Tomorrowland (2015) / ดิสนีย์ | 180-190 ล้านเหรียญ | 209 ล้านเหรียญ | 90-150 ล้านเหรียญ |
| Pan (2015) / วอร์เนอร์ บราเธอร์ส | 150 ล้านเหรียญ | 128.4 ล้านเหรียญ | 86-150 ล้านเหรียญ |
| Mars Needs Moms (2011) / ดิสนีย์ | 150 ล้านเหรียญ | 39 ล้านเหรียญ | 100-144 ล้านเหรียญ |
| Moonfall (2022) / ไลอ้อนส์เกต | 138 ล้านเหรียญ | 67.3 ล้านเหรียญ | 138 ล้านเหรียญ |
| Dark Phoenix (2019) / ฟ็อกซ์ | 200 ล้านเหรียญ | 252.4 ล้านเหรียญ | 79-133 ล้านเหรียญ |
| A Wrinkle in Time (2018) / ดิสนีย์ | 125 ล้านเหรียญ | 133.2 ล้านเหรียญ | 130.6 ล้านเหรียญ |
| Terminator: Dark Fate (2019) / พาราเมาท์ | 185-196 ล้านเหรียญ | 261.1 ล้านเหรียญ | 110-130 ล้านเหรียญ |
| The 13th Warrior (1999) / ดิสนีย์ | 100-160 ล้านเหรียญ | 61.7 ล้านเหรียญ | 69-129 ล้านเหรียญ |
| Sinbad: Legend of the Seven Seas (2003) / ดรีมเวิร์กส์ | 60 ล้านเหรียญ | 80.8 ล้านเหรียญ | 125 ล้านเหรียญ |
*อัปเดตรายได้ถึงเดือนมิถุนายน 2023
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa