สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน วันนี้เราขอมาแนะนำหนังสือดี ๆ สำหรับคนทำธุรกิจแต่มีเวลาอ่านหนังสือน้อยเพราะงานยุ่ง ซึ่งหนังสือที่จะมาแนะนำในวันนี้คือหนังสือที่ชื่อว่า 8 บรรทัดครึ่ง หนังสือธุนกิจที่ย่อยง่ายและสั้นมาก เรียกว่าอ่านตอนเข้าห้องน้ำก็ยังอ่านจบทันพอดี 8 บรรทัดครึ่งเป็นหนังสือที่เขียนโดย คุณ กวีวุฒิ เต็มภูวภัทร ที่กว่าทีเราจะได้หนังสือเล่มนี้มาก็ต้องบอกเลยว่าไม่ง่าย เพราะหนังสือเล่มนี้เป็นของโครงการที่น่าสนใจอย่าง After Word ที่ให้ทุกคนที่อยากอ่านหนังสือเล่มไหนในโครงการช่วยกันระดมทุนออกเงินในการผลิตหนังสือเล่มนั้นโดยไม่ผ่านสำนักพิมพ์ เพราะทางโครงการมองเห็นว่า หลาายคนมีความสามารถด้านการเขียนที่ดีมาก ๆ แต่ยังไม่มีโอกาสได้นำเสนอผลงานตัวเองออกไป และเราก็เป็นคนหนึ่งที่ระดมทุนเพื่อหนังสือเล่มนี้ จนได้มาในครอบครอง เครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม หนังสือเล่มเล็กกระทัดรัดเล่มนี้ ความน่าสนใจอยู่ที่คอนเซ็ปของหนังสือ เพราะย่อยเคสต่าง ๆ ของเรื่องราวธุรกิจจากทุกมุมโลกมาไว้เพียงแค่ หน้าเดียว บางเรื่องไม่ถึง 10 บรรทัดด้วยซ้ำ แต่ทุกเรื่องที่เราได้อ่านนั้น ล้วนเข้าใจง่าย ผ่านการคิดและสรุปมาให้เราอย่างดี เหมือนกับการอ่านหัวข้อข่าวในหนังสือพิมพ์แล้วเข้าใจได้ทันทีแบบนั้นเลย ซึ่งเนื้อหาในหนังสือเกิดจากการที่ผู้เขียนได้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษมาเยอะมาก จึงนำประสบการณ์ต่าง ๆ มาถ่ายทอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ การบริการตัวเอง การบริหารคน การบริหารธุรกิจ และใช้เวลาในการอ่านไม่ถึง 3 นาทีเครดิตภาพ กุลธิดา แสงงาม ในสารบัญนั้นจะมีความน่าสนใจตรงที่จะแบ่งหน้าสารบัญออกไป 2 พาร์ท โดยพาร์ทแรกจะเป็นในส่วนเนื้อหาของ ตัวของเรา ซึ่งในที่นี้เราเข้าใจว่า คือ เนื้อหาสำหรับคนที่อยากเข้าใจตัวเองและพัฒนาตัวเอง ส่วนพาร์ทที่ 2 นั้น เป็นเนื้อหาในส่วนของ องค์กรของเรา คือในเรื่องของการบริการจัดการธุรกิจ การดูแลคนในองค์กร การทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ แม้จะมีเนื้อหาเพียงแค่ 1 หน้า ไม่ถึง 10 บรรทัด แต่ทุก ๆ บทที่ได้อ่าน ทำให้เราตกตะกอนความคิดและนำไปต่อยอดได้ทันที แต่ละหน้าจะมีรูปภาพประกอบไปด้วย ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายและฉีดกรอบการอ่านหนังสือแนวพัฒนาตัวเองไปเลยว่า ต้องมีแต่เนื้อหา ตัวอักษรเน้น ๆ เท่านั้น แต่สำหรับเรา เราชอบภาพประกอบมากกว่า เพราะมันง่ายสำหรับผู้ที่เริ่มต้นด้วย ให้รู้สึกว่าการอ่านเรื่องจริงจังอย่างการบริหารธุรกิจ บริหารตัวเอง สามารถย่อยง่ายและทำให้เป็นเรื่องน่าสนุกได้ ไม่จำเป็นต้องซีเรียสมากจนเกินไป ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio จาก Pexels สิ่งที่เราชอบและได้รับจากในหนังสือเล่มนี้ คือ บางเรื่องที่เราคิดไม่ถึง หนังสือจะมีการหยิบยกมากระตุ้นต่อมคิดของเราอยู่เสมอจนต้องเผลออุทานมาเบา ๆ ว่า "เอ่อวะ" เพราะบางเรื่องบางมุมในชีวิตที่เรามองข้ามไปแม้เพียงจุดเดียวของชีวิต มันก็อาจกลายเป็นช่องโหว่ในจิ๊กซอว์ในชีวิตของเราที่ไม่ถูกเติมเต็มซักที และไม่รู้ด้วยว่า อะไรคือช่องโหว่ตรงนั้นที่มันขาดไป ในส่วนของผ่านองค์กรของเราก็สนุกไม่แพ้กัน เพราะไม่ได้เหมาะของเฉพาะกับผู้บริหารธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับคนทำธุรกิจ คนทำงานประจำที่ต้องการพัฒนาตัวเองให้เป็นที่ต้องการต่อองค์กรอีกด้วย เช่น เรื่องของการ Focus is Saying No คือสิ่งที่เราชอบมาก เพราะเป็นมนุษย์ Multi- tasking ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านเรื่องนี้ ก็พยายามเปลี่ยนตัวเองในการตัดสิ่งที่ไม่ใช่ในชีวิตออกไปจนทำให้โฟกัสมากขึ้นค่ะ หากเพื่อน ๆ ไม่ค่อยมีเวลาในอ่านหนังสือมากนัก เราแนะนำมาหนังสือเล่มนี้จะช่วยตอบโจทย์เพื่อน ๆ ให้ได้รับความรู้ใหม่ ๆ ภายในเวลาไม่ถึง 3 นาทีต่อเรื่องอย่างแน่นอน