First Impressions: ความรู้สึกแรกที่มีต่อซีรีส์เกาหลีเรื่องใหม่ "Chip-In"
รีวิวซีรีส์ Chip-In
ทุกคนคือผู้ต้องสงสัย...กลางศึกแย่งชิงมรดกในครั้งนี้ นับว่าเป็นซีรีส์นอกสายตาที่ให้ผลลัพธ์ออกมาได้ชวนบันเทิงเริงใจให้กับคนดูได้อย่างเหนือความคาดหมาย สำหรับซีรีส์แนวลึกลับสืบสวนผสมกับความตลกร้าย อย่าง "Chip-In" ทางช่อง MBC ที่กลายเป็นซีรีส์ขนาดสั้นเรื่องใหม่ที่มีเนื้อหาที่น่าสนใจและชวนติดตามเลยทีเดียว แม้ว่าบนพื้นฐานของซีรีส์แทบจะไม่ต่างจากหนังฮอลลิวูดชื่อดังแนว Whodunnit ที่เพิ่งฉายไปเมื่อปีที่แล้ว โครงเรื่องเหมือนจะก็อปปี้แต่กลับสร้างชั้นเชิงได้ค่อนข้างดี
➡ อ่านเรื่องย่อซีรีส์เกาหลี Chip-In
หากคุณเคยดูหนังเรื่อง "Knives Out" (ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่) ของผู้กำกับ "ไรอัน จอห์นสัน" ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้มาพร้อมกับไอเดียและบรรยากาศแบบเดียวกัน เพียงแค่เปลี่ยนจากความกระชับสไตล์หนัง มาเป็นการคลี่รายละเอียดในรูปแบบซีรีส์ ที่ทำให้คนดูได้ติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุไปพร้อมๆ กับตัวละครภายในเรื่อง และยังใส่มิติความซับซ้อนให้กับตัวละครเข้ามาได้อย่างมีชั้นเชิง จึงกลายเป็นซีรีส์ที่แฝงไปด้วยความคลุมเครือแต่สนุก และแอบขบขันได้เบาๆ กับพฤติกรรมของแต่ละตัวละคร
ภาพรวมของซีรีส์
หลังจากออนแอร์มา 2 ตอนแรกก็ต้องบอกว่าซีรีส์ค่อนข้างสนุกและชวนติดตาม เพราะแน่นอนว่าปูทางมาเป็นเหตุฆาตกรรมที่ต้องมาติดตามสืบหาว่าแท้ที่จริงใครเป็นคนทำ ถึงแม้ว่าซีรีส์จะมีความคล้ายและพล็อตเหมือนๆ กับหนังดัง Knives Out และถูกปรับมาเป็นเวอร์ชั่นเกาหลี แต่ก็ต้องยอมรับว่าได้มีการมิติและชั้นเชิงของตัวละครเข้าไปได้อย่างแยบยล ทำให้ช่วงแรกๆ คนดูจะได้ศึกษาตัวละครแต่ละตัวว่าเป็นใคร ลักษณะนิสัยอย่างไร แต่ก็แทบจะคาดเดาไม่ได้เลยว่าใครเป็นคนทำกันแน่
แคสติ้งนักแสดง
บอกแล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้จะมาอยู่ในกระแสหลัก ทำให้แคสติ้งนักแสดงในบทต่างๆ ไม่ได้ใช้นักแสดงระดับท็อปของวงการใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นนักแสดงที่ได้โด่งดังระดับสากล แต่ว่าแต่ละครก็มีประสบการณ์และฝีมือทางการแสดงอยู่ไม่เบา ไม่ว่าจะเป็น "คิมฮเยจุน" ที่เราเห็นน้องโดดเด่นในซีรีส์ Kingdom "โอนารา" ดาราเจ้าบทบาทที่มักจะเป็นคุณนายอยู่หลายๆ เรื่อง หรือ "นัมมุนชุล" นักแสดงรุ่นใหญ่ที่คร่ำหวอดมาทั้งผลงานหนังและซีรีส์ลึกลับหลายเรื่อง เรียกได้ว่าขายฝีมือการแสดงของแต่ละคนได้เป็นกำไรของคนดูจริงๆ
เนื้อหาและบทละคร
ก็อย่างที่กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ซีรีส์มีเนื้อหาสไตล์เดียวกับหนังฮอลลิวูดเรื่องดัง แต่เมื่อนำมาปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมเกาหลีและความเป็นเอเชียก็จะต้องออกมาในอีกรูปแบบ เพราะฝั่งเอเชียความเป็นครอบครัวมักมีความเป็นบึกแผ่นมากกว่าอยู่แล้ว เมื่อมาผนวกกับปัญหาความขัดแย้งและความโลภมากภายในจิตใจของมนุษย์ ทำให้บทละครเรื่องนี้สามารถต่อขยายออกไปได้อีกหลายทางเลยทีเดียว เพียงแค่ 2 ตอนแรกก็ถือว่าเริ่มต้นได้ดี มองเห็นมิติของตัวละครต่างๆ ทิศทางของเรื่อง แต่ก็ยังปิดซ่อนปมบางอย่างเอาไว้ให้รอสืบกันต่อไป
องค์ประกอบการแสดง
แม้ว่าภาพของซีรีส์จะดูลึกลับวังเวงชวนให้นึกว่าจะเป็นซีรีส์เขย่าขวัญ แต่แท้ที่จริงแล้วนี่คือซีรีส์ที่ความตลกร้ายแฝงอยู่ทุกมุม การแสดงของทีมนักแสดงนี้ถือว่าน่าพอใจ บางครั้งก็แอบสะกิดใจและนึกถึงหนังออสการ์ปีล่าสุดอย่าง "Parasite" อยู่เบาๆ ทุกคนแสดงออกได้ชัดเจนว่ามีเรื่องราวเก็บงำเป็นของตัวเองที่ยังไม่ได้พูดเผยความจริงออกไป และเมื่อมาถึงฉากใหญ่ที่ต้องมารวมตัวกันทุกคน จึงกลายเป็นการแสดงที่ซ้อนการแสดงที่เหมือนจะพยายามตาคนดูอยู่ตลอดเวลาว่า...ใครกันแน่ที่ฆ่าคุณจิตรกร
Chip-In เป็นเพียงซีรีส์สั้นๆ 8 ตอนจบเท่านั้น เป็นข้อดีที่ซีรีส์ไม่มีความยืดเยื้อในการเล่าเรื่อง เห็นได้จากจังหวะการดำเนินเรื่องที่ฉับพลันและเดินไปข้างหน้าตลอดเวลา พร้อมๆ กับแนวทางการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และยังทิ้งปริศนาต่างๆ เอาไว้ในตัวละครและคนดูได้คิดตาม ต้องเลยว่า...นี่เป็นซีรีส์ตลกร้ายที่น่าจะสร้างอรรถรสความบันเทิงได้ไม่เบา แค่ทิ้งปมหาฆาตกรตัวจริง...แค่ก็ดึงดูดชวนให้ดูต่อ บางทีอาจจะน่าเสียดายที่ซีรีส์มีแค่ไม่กี่ตอนเอง...
Photo by MBCDrama
----------------------------------------------------