บ็อกซ์ออฟฟิศคัมแบ็ก! เช็กรายได้หนังทำเงินเมืองไทย ประเดิมเปิดโรงหนังวันแรก
ข่าวสารวงการหนัง บ็อกซ์ออฟฟิศเมืองไทย
เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ถือว่าโรงภาพยนตร์ชั้นนำหลายแห่งทั่วประเทศได้กลับมาเปิดอีกครั้ง หลังจากต้องหยุดให้บริการลงไปเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของ Covid-19 และมาตรการของภาครัฐเพื่อจัดระบบระเบียบควบคุมโรค หลังจากที่ได้หยุดฉายหนังไปนานกว่า 70 วัน ก็ได้นำเอาโปรแกรมหนังที่เคยเข้าฉายไปแล้วกลับมาฉายอีกครั้ง ในช่วงระยะการฟื้นตัวส่วนของการบริการและอุตสาหกรรมหนังในเมืองไทย
ล่าสุด ชมรมวิจารณ์บันเทิง ก็ได้กลับมารายงานตัวเลขรายได้หนังทำเงินบนบ็อกซ์ออฟฟิศเมืองไทยอีกครั้ง โดยประมวลตัวเลขรายได้ที่ทำเอาไว้ในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ซึ่งเป็นวันแรกที่โรงภาพยนตร์กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง พร้อมกับโปรแกรมฉายหนังที่เคยเข้าฉายไปแล้ว โดยพบว่าที่มาเหนือกว่าใครกลายเป็นหนังแอคชั่นสุดมันส์ของ "วิน ดีเซล" อย่าง "Bloodshot" ทำเงินในวันแรกหลังปลดล็อกโรงหนังไปได้ราวๆ 120,000 บาท นับว่าเป็นหนังที่ทำเงินได้สูงที่สุดจากทุกเรื่อง
Bloodshot ถือว่าเป็นหนังที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสในครั้งนี้ โดยหนังเคยเข้าฉายในช่วงต้นเดือนมีนาคม แต่หลังจากยืนโรงฉายได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ โปรแกรมฉายก็ต้องหยุดชะงักลงไปตามการปิดให้บริการของโรงหนังทั่วประเทศ ในขณะที่สถานการณ์ในต่างประเทศได้มีการปล่อยฉายหนังในรูปแบบสตรีมมิงก่อนกำหนดแทน
"Brahms: The Boy 2" หนังตุ๊กตาเขย่าขวัญภาคต่อ เก็บรายได้ตามมาที่ประมาณ 80,000 บาท จากวันแรกที่โรงหนังปลดล็อก ขณะที่หนังไทยที่คนดูชื่นชอบกันอย่าง "Low Season สุขสันต์วันโสด" ทำเงินเพิ่มไปอีกราวๆ 80,000 บาท เช่นเดียวกัน
"The Invisible Man" มนุษย์ล่องหนเวอร์ชั่นใหม่ก็ยังมีคนตีตั๋วดูเหมือนกัน เก็บเงินไปได้อีก 40,000 บาท ส่วนหนังแอคชั่นตลก "My Spy" ที่เคยเข้าฉายเงียบๆ ก่อนที่โรงหนังจะปิดเพียงไม่กี่วัน ทำเงินไปอีก 30,000 บาท ทางด้านหนังรักจากญี่ปุ่น "Last Letter" ดูเหมือนจะมีคอหนังตามมาเก็บดู เพราะยังดูไม่ทันตอนก่อนที่โควิดจะระบาด จึงทำเงินไปได้อีกราวๆ 10,000 บาท
นอกจากนี้ก็ยังมี "Sonic: The The Hedgehog", "1917" และ "Military Wives" ที่กลับมาเข้าโปรแกรมฉายใหม่ โดยในวันแรกของการฉายหลังจากปลดล็อกโรงหนัง หนังกลุ่มนี้ทำเงินไปแบบเบาบาง ด้วยรายได้ไม่ถึงหลักหมื่นบาท
แต่ในสัปดาห์แรกของการกลับมาเปิดโรงหนังอีกครั้ง ก็ยังมีหน่วยกล้าตายที่หวังจะมาสร้างความบันเทิงและความสุขให้กับคนไทย หลังจากผ่านพ้นสภาวะเครียดมาหลายเดือน ด้วยหนังไทยของผู้กำกับ "พชร์ อานนท์" อย่าง "พจมาน สว่างคาตา" ที่เป็นหนังเรื่องเดียวที่จะเปิดตัวฉายวงกว้าง ประเดิมปลดล็อกโรงหนังในครั้งนี้ ถึงแม้ว่าหนังจะต้องเผชิญหน้ากับภาวะความวิตกของคนดูที่ยังไม่กล้าเข้าโรงหนัง กับยอดขายตั๋วที่ต้องหายไปเกินครึ่ง เนื่องจากกฏระเบียบการจัดผังที่นั่งแบบ Social Distancing คงต้องมาติดตามดูกันต่อไปว่า พจมานเวอร์ชั่นนี้จะทำเงินเปิดตัวผ่าวิกฤตโควิดครั้งนี้ไปได้สักเท่าไหร่
----------------------------------------------------