รีวิว Barbie (บาร์บี้) ภาพยนตร์ฉบับคนแสดงที่ไม่ได้มีดีแค่ความสดใส แต่ยังแฝงไปด้วยข้อคิดที่เหนือความคาดหมาย บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Barbie (บาร์บี้)ภาพยนตร์เรื่องนี้จะพาผู้ชมไปท่องโลกสีชมพูของเหล่าตุ๊กตาบาร์บี้ที่มีชื่อว่า "บาร์บี้แลนด์" ซึ่งจะพาเราไปติดตามเรื่องราวของ บาร์บี้ (รับบทโดย มาร์โกต์ ร็อบบี้) เธอเป็นบาร์บี้รุ่นยอดนิยมที่โดดเด่นและสวยที่สุดในบาร์บี้แลนด์ และแน่นอนว่าเมื่อมีบาร์บี้ก็จะต้องมีแฟนหนุ่มของเธออยู่ด้วยเสมอ ได้แก่ เคน (รับบทโดย ไรอัน กอสลิ่ง) ชีวิตของบาร์บี้ในบาร์แลนด์ก็จะวนลูปแบบเดิมซ้ำๆ ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งจู่ๆ บาร์บี้ก็นึกถึงความตาย ส่งผลให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เธอเริ่มที่จะมีอารมณ์ความเศร้า ขาแตกลาย ไม่ได้เพอร์เฟคเหมือนเคย และทางเดียวที่จะทำให้ทุกอย่างกลับมาเหมือนเดิมได้คือบาร์บี้ต้องออกเดินทางไปยังโลกแห่งความจริง เพื่อตามหาเด็กสาวที่เล่นกับตุ๊กตาของเธอ โดยหารู้ไม่ว่าการเดินทางออกไปโลกความจริงในครั้งนี้จะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนไปตลอดกาล สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Barbie (บาร์บี้) ฉายแล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์ตัวอย่าง Barbie (บาร์บี้)รีวิว Barbie (บาร์บี้) สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เราคงไม่ต้องพูดแนะนำอะไรกันให้ยืดยาว เพราะมันดังและถูกพูดถึงมานานหลายเดือนก่อนที่จะเข้าฉายเสียอีก ผมไปดูด้วยความไม่ได้คาดหวังอะไรเลย ไปแบบหัวโล่งๆ แอบคิดว่าอาจจะออกมาแบ๊วๆ น่ารักเสียด้วยซ้ำ แต่พอได้ดูจริงมันดันทำให้ผมว้าว เพราะหนังมันมีอะไรมากกว่านั้น คอนเซปต์ของหนังก็ดีมากๆ บทเขียนมาดี เล่าเรื่องกระชับเข้าใจง่าย ไหลลื่นไม่มีจังหวะให้เราได้เบื่อเลย แถมยังแฝงข้อคิดและเสียดสีสังคมได้อย่างเจ็บแสบ นอกจากนี้ยังมีการล้อเลียนป็อปคัลเจอร์ต่างๆ มากมาย แต่มันก็จริงอยู่ที่มีหลายเรื่องที่มันอาจดูตลกและไม่สมเหตุสมผล คือหนังมันมาแนวทีเล่นทีจริง แต่เรารู้ได้เลยว่าเขาตั้งใจให้มันเป็นแบบนั้น เพราะเรื่องทั้งหมดในเรื่องมันเกินจริงมากๆ อยู่แล้ว ตุ๊กตาที่ไหนจะไถโรลเลอร์สเก็ตมาโลกแห่งความจริงได้ ดังนั้น ลืมเหตุผลทั้งหมดไปได้เลย ด้วยเหตุนี้ผมจึงไม่ติดในส่วนนี้เลย ทุกอย่างทำออกมาได้พอเหมาะพอดีและลงตัวมากๆ คือผู้ใหญ่ไปดูก็ได้ข้อคิดกลับมา ส่วนเด็กไปดูก็จะได้เพลิดเพลินและสนุกไปกับโลกอันสวยงามของบาร์บี้แลนด์ส่วนตัวชอบบทมากๆ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของบาร์บี้ที่ออกผจญภัยในโลกแห่งความจริง และให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่างโลกบาร์บี้และโลกความจริง จากโลกบาร์บี้ที่ผู้หญิงเป็นใหญ่และเป็นผู้นำ พอมาโลกความจริงบาร์บี้ก็ได้เห็นว่าในโลกความจริงนั้นผู้ชายเป็นใหญ่กว่าผู้หญิงมาตลอด แถมยังมีฉากที่ตัวละครในโลกความจริงบอกกับเคนว่า ผู้ชายยังเป็นใหญ่อยู่เพียงแต่แนบเนียนขึ้นเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้แปลว่าหนังจะยกให้ผู้หญิงสูงส่งจนเกินหน้าเกินตา เพราะเขาก็ยังถ่ายทอดเรื่องของผู้ชายผ่านตัวละครเคนด้วย จากเดิมที่เคนต้องคอยไล่ตามบาร์บี้ พอไปโลกความจริงเขาก็ได้รู้ว่าผู้ชายไม่ได้ด้อยกว่าผู้หญิงเสมอไป พอกลับไปบาร์บี้แลนด์เขาจึงปฏิวัติ ซึ่งนำไปสู่เรื่องราวไคล์แมกซ์ในตอนท้าย และที่บอกว่าหนังไม่ได้ว่าผู้ชายขนาดนั้นเพราะตอนจบก็มีฉากที่เราให้เห็นว่า เป็นผู้ชายก็ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งเสมอ พวกเขาสามารถอ่อนแอและร้องไห้ได้ในฉากที่บาร์บี้บอกให้เคนร้องไห้ออกมาในช่วงท้าย หากคุณไม่อคติก็จะเข้าใจได้ แต่ก็ไม่ได้เถียงว่าหนังเรื่องนี้สนับสนุนผู้หญิงเป็นหลัก เพียงแต่ส่วนตัวผมมองว่ามันก็เป็นกลางมากๆ แล้วครับ อีกอย่างที่อยากบอกก็คือการทำหนังคือการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของผู้กำกับครับ ดังนั้น ไม่มีอะไรถูกผิดอยู่ที่คุณจะคิดเห็นอย่างไร ซึ่งส่วนตัวผมชอบและรับได้สิ่งที่ชอบมากคือการเดินทางของบาร์บี้และสิ่งที่เธอได้มาจากการไปเห็นโลกความจริง และบทสรุปที่เธอเลือกที่จะไม่คู่กับเคนอย่างที่คนผลิตของเล่นจัดให้ เธอเลือกที่จะออกไปค้นหาชีวิตและเลือกชีวิตแบบที่ตัวเองต้องการ แม้ว่ามันจะไม่ได้ยอดเยี่ยมและเพอร์เฟคตลอดเวลาก็ตาม ส่วนในด้านการแสดงนั้นอันนี้ไม่มีอะไรจะติเลย นักแสดงเล่นดีกันทุกคนจริงๆ พวกเขาเล่นดูเป็นของเล่นได้เหมือนของเล่นจริงๆ นักแสดงนำอย่างมาร์โกต์ ร็อบบี้ ก็สามารถแบกหนังได้สบายๆ เล่นได้หมดทั้งเป็นของเล่นอ๊องๆ ใสๆ ไปจนถึงฉากดราม่าเรียกน้ำตา อีกคนที่ผมคือ ซีมู หลิว เรื่องนี้เขาโดดเด่นและเล่นเป็นเคนได้น่าหมันใส้จริงๆ สิ่งสุดท้ายที่ต้องขอชมคืองานสร้างที่ทำออกมาโคตรดีจริงๆ ฉากในบาร์บี้แลนด์ทำออกมาได้ดีมากๆ เป็นโลกสีชมพูที่ออกแบบมาได้สวยจริงๆ การถ่ายทำก็ดีเยี่ยม ไปจนถึงเสื้อผ้าหน้าผมของตัวละครในเรื่องก็เป๊ะไปหมด นอกจากนี้ฉากร้องเพลงทุกฉากที่โผล่มาก็ดีไซน์ออกมาดีและดูเพลินมากๆ ดูไปยิ้มไปทุกฉากจริงๆ สรุปโดยรวมเลยคือหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่สนุกดูเพลินอีกเรื่อง ดูได้ทุกเพศทุกวัย ผู้ใหญ่ดูได้ เด็กดูดี อยากให้ทุกคนไปลองกันจริงๆสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Burn the House Down (ไฟแค้น ไฟอดีต) ซีรีส์ล้างแค้นจากญี่ปุ่นที่ริ่มต้นอย่างขมแต่จบแบบนุ่มนวลรีวิว Akira and Akira (อากิระกับอากิระ) หนังธรุกิจและการเงินน้ำดีจากญี่ปุ่นที่ทุกคนไม่ควรพลาด!รีวิว+เปิดวาร์ปนักแสดง King the Land (คิง เดอะ แลนด์) ซีรีส์เกาหลีรอมคอมสุดน่ารักที่มาแรงที่สุดในตอนนี้!รีวิว Born to Fly ปฏิบัติการจ้าวเวหา หนังเครื่องบินขับไล่สไตล์จีนที่มีดีกว่าที่คิดรีวิว The Out-Laws (พ่อตาแม่ยายนอกกฎหมาย) หนังสุดปั่นจาก Netflix เรื่องราวของหนุ่มเนิร์ดที่ได้พ่อตาแม่ยายเป็นโจรปล้นธนาคารรีวิว Bird Box: Barcelona มอง อย่าให้เห็น (บาร์เซโลนา) ภาคแยกที่ทำออกมาได้ธรรมดา จืดชืด และน่าผิดหวังรีวิว Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One (ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่หนึ่ง) ภาคต่อที่ดีงามสมการรอคอย ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!รีวิว Record of Ragnarok II Part 2 (มหาศึกคนชนเทพ ซีซั่น 2 พาร์ท 2) [5 ตอนสุดท้าย] การต่อสู้สุดดุเดือดระหว่าง ศากยมุนี VS ซีโรฟุกุแหล่งที่มาทั้งหมดจาก Barbie the Movieภาพปก: ภาพที่ 1 ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 วิดีโอ: Barbie - Teaser Trailer 2 (ซับไทย) จาก Youtube: Warner Bros. Thailand คอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน