#ขอรีวิว Three Thousand Years of Longing หรือ 3000 Years of Longing ปาฏิหาริย์ตะเกียงวิเศษ 3,000 ปี หรือ สามพันปีแห่งความโหยหา / ภาพยนตร์คัลท์ที่เต็มไปด้วยความหมายเป็นภาพยนตร์ที่น่าจับตาเพราะว่าผู้เขียนจับตาเรื่องนี้ตั้งแต่ฉายครั้งแรกในวันที่20 พฤษภาคม 2022 (เมืองคานส์) ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นข่าวภาพยนตร์เรื่องนี้จนในที่สุดวันที่ 26 สิงหาคม 2022 (สหรัฐอเมริกา) คำวิพากษ์ วิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็หนาหูขึ้น จนในที่สุดภาพยนตร์ก็เข้าฉาย 1 กันยายน 2022 (ออสเตรเลีย) และผู้เขียนก็ได้มีโอกาสชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่น่าสนใจคือภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกดัดแปลงมาจากเรื่องสั้นปี 1994 เรื่อง "The Djinn in the Nightingale's Eye" เป็นการรวมเรื่อวสั้นทั้งหมด 5 เรื่องมาได้ด้วยกันซึ่งก็เป็นเรื่องสั้นที่สวยงามมากๆ เรื่องราวที่หยิบจับมาสร้างว่าน่าสนใจมากแล้วแต่ตัวทีมสร้างก็น่าสนใจไม่แพ้กันเพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ผู้กำกับอย่าง จอร์จ มิลเลอร์ ที่ต้องบอกได้คำเดียวว่าหากเอ่ยชื่อผลงานไม่มีใครไม่รู้จักเขาแน่นอน ผลงานเด่นๆเช่น Happy Feet & Happy Feet Two หรือหากใครคิดไม่ออกก็ภาพยนตร์เพนกวินเต้นได้นั้นเอง Babe: Pig In The City เบ๊บ หมูน้อยหัวใจเทวดา ภาพยนตร์ที่เข้าชิงรางวัลออสการ์ถึงเจ็ด สาขา ซึ่งรวมถึงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และชนะในสาขาเทคนิคพิเศษด้านภาพ รวมถึงชนะรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาภาพยนตร์เพลง/ตลกยอดเยี่ยม The Witches Of Eastwick เป็นภาพยนตร์ที่สนุกมากอีกเรื่องที่มีพล็อตที่น่าสนใจสุดๆ Mad Max 2: The Road Warrior และ Mad Max: Fury Road ผลงานของผู้กำกับว่าดีเด่นแต่ก็มีอีกสิ่งที่เด่นดีไม่แพ้กันอย่างตัวนักแสดงทั้งสอง ทิลด้า สวินตัน , อิดริส อัลบ้า นับว่าเป็นการจับคู่ที่ลงตัวสุดๆเล่าย่อๆเรื่องราวของอะลีเธีย บินนี่ นักวิชาการสาวโสดและโดดเดี่ยวคนหนึ่ง เขาได้เดินทางไป เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เธอไปพบเพื่อนเก่า เพื่อเข้าไปบรรยายงานของเธอ แต่ในละหว่างที่อยู่สนามบินเธอก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่พยายามจะพาเธอไปในทางที่เขาต้องการ แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อเพื่อนของเธอมาถึงเธอก็พบว่าชายตัวเล็กที่พยายามพาเขาไปนั้นได้หนีหายไปท่ามกลางผู้คนในสนามบิน เธอก็ได้เข้าไปบรรยายงานของเธอและแล้วเธอก็พบสิ่งที่เหลือเชื่อมันพุ่งเขามาหาเธอและก็พบว่าตัวเธอนั้นสลบไปชั่วครู่ พบเธอตื่นขึ้นมาเพื่อนของเธอก็พาเธอไปเลือกซื้อของที่ละลึกในตลาดของเมืองอิสตันบูลท่ากลางร้านขายของที่ระลึกและของมากมายอะลีเธียเธอก็พบเข้ากับขาวแก้วขวดหนึ่งที่สีฟ้าพาดลวดลายสีขาวการพบขาวแก้วนี้จะทำให้ชีวิตเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป “กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน”1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / “ฉันชื่ออะลีเธียเรื่องราวของฉันเป็นเรื่องจริงแต่คุณน่าจะเชื่อเรื่องของฉันมากกว่าถ้าฉันเล่ามันเป็นนิทาน กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อมนุษย์ทะยานแหวกท้องฟ้าบนนกเหล็ก ใส่ตีนกบและเดินบนพื้นใต้ทะเล ถือแผ่นกระจบที่สามารถเปิดเพลงรักจากบนฟ้าสูงได้ ...มีผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความสุขและโดดเดี่ยว โดดเดี่ยวเพราะเธอเลือกเองมีความสุขเพราะเธอมีอิสระ ใช้ชีวิตด้วยจิตนักวิชาการของเธอ ธุรกิจของเธอคือเรื่องราวเธอเป็นนักเล่าเรื่องผู้แสวงหาความจริงในเรื่องราวทั้งหมดของมนุษยชาติเพื่อที่จะทำแบบนั้นปีละ 1-2 ครั้งเธอไปผจญภัยในสถานที่แปลกๆไปจีนทะเลทางใต้และเมืองที่เป็นอมตะอย่างลิแวนท์...ที่ๆคนแบบเธอมารวมตัวกันเพื่อเล่าเรื่องราวของเรื่องราว” DIALOG กับฉากเปิดเรื่องแนวนี้ก็ทำให้เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้ดูน่าสนใจมากขึ้นเป็นกองฉากต่างๆไม่ได้เล่าล้อกับสถานที่เพราะธีมหลักถูกเล่าล่ออยู่ในช่วงประวัติศาสตร์ และใช้ธีมหลังเป็นเมือง เมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี แต่ภาพยนตร์เล่าล้อประเทศตุรกีที่เป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับศตวรรษ และ อิสตันบูลยังเป็นเมืองหลวงของอาณาจักร 3 อาณาจักร อันยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก ได้แก่ อาณาจักรโรมัน, อาณาจักรไบแซนไทน์และอาณาจักรออตโตมันนี้คือสิ่งที่น่าสนใจ ฉากต่างๆที่ภาพยนตร์นำเสนอมันสวยงามมากๆ ภาพยนตร์เลือกใช้ Flash back เล่าย้อนกลับไปในอดีตตั้งแต่จีนี่ถูกจองจำครั้งที่หนึ่งจนถึงครั้งที่สาม Mood & Tone ของภาพยนตร์เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดีมากๆ ด้วยงานภาพสีแสงและเสียงภาพยนตร์นำเราไปสู่ประวัติศาสตร์ผ่านยุคสมัยมันเลยกว่าเป็นว่าผู้เขียนลงไหลไปกับฉากที่สวยงามเรื่องนี้เอาง่ายๆ2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / หากผู้อ่านเคยได้อ่านเรื่องสั้นอย่าง "The Djinn in the Nightingale's Eye" จะรู้ได้ทันที่ว่าภาพยนตร์เล่าล้อไปกับต้นฉบับได้ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการพูดถึงเรื่องราวของ “จินน์ในดวงตาของนกไนติงเกลหรือที่เรียกกันว่า เชสมี บุลบุล ในช่วงปี 1845 มีช่างทำเครื่องแก้วในอินจีกอยมีความเชี่ยวชาญในการทำแก้วลายก้นหอยขาว-น้ำเงินแบบนี้ และหากเป็นของแท้ก็จะพบจุดเลือดสีแดงในแก้วซึ่งนั้นเป็นเลือดจากปอดคนเป่าแก้ว” ใน DIALOG ของภาพยนตร์ที่ตัวละครพูดออกมามาความอิงต้นต้นฉบับจนผู้เขียนดีใจแม้จะมีเพียงแค่คำสั้นๆ บทภาพยนตร์เรื่องนี้มีไม่มากแต่ก็ทำให้เราสนุกได้ หากใครเดาไม่ออกว่ามันเป็นอย่างไรก็ให้นึกถึงเรื่องราวของ “พันหนึ่งราตรี” หรือ “นิทานเวตาล” ภาพยนตร์ใช้การเล่าเรื่องแนวนี้และเป็นการเล่าเรื่องที่แอบอิงประวัติศาสตร์อันยาวนานอย่าง The Man from Earth คนอมตะฝ่าหมื่นปี และ 12 Angry Men 12 คนพิพากษา การเล่าเรื่องเป็นการเสริมบทภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ดูแข็งแรงและสวยงามเช่นเดียวกันบทก็ทำให้ภาพยนตร์ผูกมันตัวมันเองได้เช่นกันเรื่องมันทำให้ภาพยนตร์ดูน่าเบื่อและไม่ได้สนุกอย่างที่คิดแต่มันก็นำมาซึ่งความหมายที่มีมากมายกำการเล่าเรื่อง หากจะเอาตรงๆผู้เขียนเองก็ไม่ได้ชอบบทภาพยนตร์แนวนี้เท่าไหร่ส่วนหนึ่งเพราะว่ามันทำให้เราเหล่าคนดูเข้าใจยากกับการนำเสนอของภาพยนตร์แต่ในอีกส่วนหนึ่งบทภาพยนตร์แนวนี้ก็เต็มไปด้วยความหมายของตัวละครให้เราเหล่าคนดูได้คิดตามซึ่งมันก็เป็นข้อดีอย่างมากมายมหาศาล 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ภาพยนตร์ไม่ได้นำเราเหล่าคนดูไปค้นหาการเดินหน้าของตัวละครแต่ภาพยนตร์เน้นให้เราเล่าคนดูเอนเอียงและเข้าใจความเป็นตัวตนของตัวละคร อย่าง อะลีเธีย ที่ภาพยนตร์เสนอให้เราเห็นถึงการงานอาชีพของเธอนั้นก็คือนักเล่าเรื่องเธอมีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวต่างๆมากมายในประวัติศาสตร์ ที่จีนี่เล่าออกมาเธอเป็นคนที่มีความแข็งขืนมากๆ ด้วยความที่ว่าเธอไร้ซึ่งความปรารถนา “แต่เธอก็ไม่ได้ไร้ซึ้งความต้องการรัก” ตัวยักษ์จีนี่เองก็ต้องการที่จะออกมาจากขวดแก้วเพื่อให้ได้มาซึ่งอิสระของตัวเขาเองนั้นมันเลยทำให้ตัวละครในภาพยนตร์เรื่องนี้ดูน่าสนใจขึ้นมาอีกเพราะทุกตัวละครที่ภาพยนตร์เสนอออกมาไม่ได้มีความดีจนต้องบอกว่าน่าเบื่อหรือความเลวจนต้องบอกว่าน่ารำคาญ แต่ทุกตัวละครล้วนแล้วแต่มีความเทาๆในตัวมันเลยทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีมิติมากขึ้นไปกว่าเดิม ตัวละครไม่ได้เติบโตและก้าวเดินไปข้างหน้าแต่หยิบจับสิ่งรอบตัวมาเติมเต็มให้กับความต้องการของตัวเอง นี้จึงเป็นเรื่องที่ดีอีกเรื่องหนึ่งแม้ตัวผู้เขียนอาจมองว่าเป็นภาพยนตร์ที่มีความเป็นภาพยนตร์แนวคัลท์มากไปหน่อยก็ตาม เพราะแรงจูงใจของตัวละครมีไม่มากพอจีนี่ก็ดูไม่ทุกร้อนหาก อะลีเธียไม่ของพรเลยก็ไม่ทุกข์ร้อนหากไม่ได้รับพรจากจีนี่ทั้งสองอย่างมันเลยดูจะขัดๆกันไปหมดเป็นภาพยนตร์ที่เน้นการเล่าเรื่องเป็นสะส่วนใหญ่จริงๆเลยเป็นข้อพลาดของภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ตัวผู้เขียนมองว่าน่าผิดหวังหน่อยๆเพราะเสนอตัวละครไม่เด่นชัดมากพอ4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / ความหมายของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรักที่มักจะทำให้ตัวเองตกอยู่ในความลำบาก ดั่งที่จีนี่มีความหลงใหลในตัวสตรีจนต้องมาตกที่นั่งลำบากและต้องมาติดอยู่ในขวดแก้วแต่ความหมายมันยิ่งใหญ่มากกว่านั้นเมื่อความรักที่แสนจะสวยงามและมันกลับกลายเป็นพิษเพื่อรักมากก็เจ็บมาดั่ง DIALOG ที่จีนี่ได้พูดออกมาในภาพยนตร์ “ผมทำมันพังหมดเธอเริ่มกล่าวหาว่าผมขังเธอเหมือนสามีเธอทำ ผมพยายามแก้ไขเพื่อแก้ตัว ผมยอมเอาตัวเองกลับเขาไปอยู่ในขาวเพื่อถูกขัง เธอจะได้มีอำนาจเหนือผมการเป็นคนไร่ค่าในขวดผมทำเพื่อเธอ และทุกครั้งมันทำให้เธอสงบลง ทุกครั้งยกเว้นครั้งสุดท้ายดั่งพายุและสายฟ้าอันบ้าคลั่งเธอเริ่มร้องไห้คร่ำครวญแล้วพูดว่า (ข้างอยากขอให้ตัวเองลืมว่าเคยเจอเจ้า) และเธอก็ลืมในทันที” เป็นคำพูดที่น่าสงสารของการรักใครสักคนที่เรารักมากๆการที่เราขัดใจในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องแต่มันกลับไปทำร้ายคนที่เรารักเพียงเพราะการไม่เห็นด้วย การรักใครสักคนหมดหัวใจ มันเป็นความผิดพลาดได้ยังไง ภาพยนตร์ใส่ความหมายนี้เข้ามาทำให้ผู้เขียนรู้สึกตกหลุมรักภาพยนตร์เรื่องนี้ที่ความหมายของมันนี้แหละ ความรักอันยิ่งใหญ่แม้จะและมาซึ่งความเจ็บปวดของตัวเราเองมันก็เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เรายอมทำเพื่อให้คนที่เรารักมีความสุข มันช่างเป็นความมายที่ภาพยนตร์ยุคนี้สมัยนี้ลืมที่จะใส่มันเข้ามาแต่เรื่แงนี้กลับใส่มันเข้ามาทำให้เราเหล่าคนได้คิดถึงความหมายแนวนี้ไม่น้อย5 “คัท !!!!”“หนังคัลท์” หรือ “ภาพยนตร์เกินวิสัย” ก็ตามที่ผู้เขียนว่าเลยมันกินวิสัยและความเข้าใจของเราเหล่าคนดูเข้าไปจนหมด เป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนดูซ้ำหลายรอบมากๆกว่าจะได้มาซึ่งความหมายและความเข้าใจของภาพยนตร์เรื่องนี้ แต่เอาเข้าจริงๆนอกจากฉากที่สวยงามความหมายของภาพยนตร์และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังทิ้ง Easter Egg เอาไว้มากมายเช่นกัน มาว่าจะเป็นชายตัวเล็กที่มาจับรถเข็นของอะลีเธียเป็นใครและจะพาเธอไปไหนหรือแม้แต่วิญญาณที่มาหลอกเธอตอนที่เธอไปพูดในงานสัมนานั้นมาได้ยังไงและเป็นใครกันแน่ และคำว่า “มันคือปริศนาแห่งอิสตันบูล” อะไรมันทำให้ตัวละครต้องพูดคำนี้ออกมาและภาพยนตร์ก็ไม่ได้นำเราไปหาคำตอบ หรือจะเป็นเพราะว่าตัวยักษ์จีนี่ให้พวกนี้มานำตัวเธอไปแต่ก็ไม่น่าใช่เพราะตัวเอกอย่างอะลีเธียก็ไปพบกับขวดแก้วของจีนี่เองหรือเธอจะเป็นญาติของจีนี่อย่างพระราชินีแห่งชีบาที่มีเหล่าพวกวิเศษและภูตผีปีศาจลายล้อมเพราะเป็นคนรับใช้ของนางที่กลับชาติมาเกิดเป็นตัวอลัเธียในยุคปัจจุบัน เลยทำให้ดวงวิญาณเล่านั้นนำเธอไปพบกับจีนี่อันนี้ก็ไม่แน่ใจเป็นเพียงการคาดเดาของผู้เขียนเน้อ สรุปง่ายๆภาพยนตร์เรื่องนี้ภาพสวยรวยเรื่องราวสีสดบทดีหมายหมายเด่นและที่สำคัญตัวนักแสดงเองก็สมบทบาทมากๆ แต่ส่วนตัวของผู้เขียนเองชอบในส่วนของความหมายมากที่สุดเพราะพล็อตมันดูเก่าจนเป็นความเก๋ามากไปหน่อยถึงอย่างไรก็เป็นภาพยนตร์ที่ควรค่าแก่การดูไม่แพ้เรื่องอื่นๆเลย ถ้าใช้ถือภาพยนตร์แนวที่ผู้เขียนชอบคุณจะชอบเรื่องนี้เพราะเต็มไปด้วยความหมายและ Easter Egg น่าค้นหาแต่หากใครชอบแอ็กชันหน่อยๆเรื่องนี้ไม่ตอบโจทย์อย่างแรงเพราะไม่มีมาเลยมีแต่ใน Flash back ไม่กี่วินาที ยังไงก็แล้วแต่ผู้อ่านก็แล้วกันเน้อ (ชอบความหมายนี้) เขาแวะมาเยี่ยมเธอบ้างและพวกเขาไขว่คว้าช่วงเวลาเหล่านั้นแม้ต้องเจ็บปวดเหลือคณา..เขาก็อยู่นานกว่าที่ควรเสมอ นานหลังจากที่เธอขอให้เขากลับไป เขาสัญญาว่าจะกลับมาอีกในช่วงชีวิตเธอ และสำหรับเธอนั้นมันก็มากเกินพอแล้ว (สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก 3000 Years of Longing - ปก 1 - 2 / 1 / 2 / 3 / 4 / 5เว็บไซต์ทางการของภาพยนตร์ Three Thousand Years of Longingขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !