ตลาดซีรีส์วายในบ้านเราถือได้ว่าเป็นอะไรที่กอบโกยได้อย่างมหาศาลกันมากๆ วันก่อนผู้เขียนได้มีโอกาสดูซีรีส์เรื่อง Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ ที่ต้องบอกได้ว่าเป็นซีรีส์วายรสหวานปนขมผสมดราม่าคลุกเคล้าเข้าถึงอารมณ์ตีแผ่ได้อย่างแสบสัน ของความรักในรูปแบบ ชายรักชาย ผ่านการเล่าเรื่องที่สื่ออย่างซีรีส์วาย ที่ปกติแล้วเราจะได้เห็นแค่ความหวาน จนทำให้ซีรีส์วายหลายเรื่องเหมือนกับหลุดออกมาจากนิยายมากกว่าเรื่องจริง แต่เรื่องนี้ได้ก้าวข้ามขนบของคำว่าซีรีส์วายไปแล้วเรียบร้อย นับว่าเป็นเรื่องดีที่วงการซีรีส์วายบ้านเราจะได้เป็นกระบอกเสียงในการขับเคลื่อน หรือแม้แต่การผลักดันร่างนโยบายต่างๆในข้อของกฎหมายบ้านเราได้ตระหนักตื่นรู้มากขึ้น ผู้เขียนนั่งดูอยู่ไม่นานมากกับซีรีส์ที่มีความยาวแค่ 8 Episode แต่เป็น 8 Episode ที่มีความน่าสนใจอย่างมากมายกันเลยทีเดียว อ๊อฟ-นพณัช ชัยวิมล จากค่าย GMMTV หากพูดถึงชื่อนี่ต้องบอกเลยว่าเขาคนนี่ดีกรีไม่เคยธรรมดาเพราะหยิบจับอะไรก็มามาทำเป็นต้องดังแถบทุกเรื่อง ส่งคู่จิ้นให้เราเหล่าแฟนๆเหล่าคนดูกันมาแล้วหลายต่อหลายคู่ ไม่ว่าจะเป็น ตัวอย่าง ซีรีส์ Dark Blue Kiss ความฟินต่อยอดของคู่จิ้นอย่าง "เต ตะวัน และ นิว นิว ฐิติภูมิ" , ยังมีเรื่อง เขามาเชงเม้งข้าง ๆ หลุมผมครับ ซีรีส์สุดประทับใจของคู่ "สิงโต ปราชญา และ โอม ภวัต" เพราะเราคู่กัน (2gether), เพราะเรา(ยัง)คู่กัน และ เพราะเราคู่กัน The Movie แจ้งเกิดคู่จิ้นอย่าง "ไบร์ท วชิรวิชญ์ และ วิน เมธวิน" ถึงกระนั้นยังคงส่งความฟินต่อเนื่อง เพราะมีซีรีส์เรื่องเยี่ยมที่นับว่าสะเทือนวงการอย่างมากคือซีรีส์เรื่อง "นิทานพันดาว" แจ้งเกิดคู่จิ้นห้างแตกอย่าง "เอิร์ท พิรพัฒน์ และ มิกซ์ สหภาพ" ส่งไม้ต่อให้ซีรีส์เรื่อง แค่เพื่อนครับเพื่อน แจ้งเกิดคู่จิ้นอย่าง "โอม ภวัต และ นนน กรภัทร์" นี่ไม่ใช่ความสำเร็จแค่ในด้านการเป็นผู้กำกับของ อ๊อฟ-นพณัช ชัยวิมล แต่ยังสร้างความสำเร็จในด้านวงการภาพยนตร์ที่ต้องบอกว่ามหาศาล เล่าย่อๆว่ากันด้วยเรื่องราวของ "ลุงจิม" พ่อค้าเข้ามันไก่ที่ยังขายในราคาเดิมถึงแม้พิษเศรฐกิจจะทำให้ร้านของเขาได้กำไรน้อยลงทุกวันกับค้าครองชีพที่มากขึ้น "เหวิน" หนุ่มน้อยที่กำลังไปได้ดีกับหน้าที่การงานแต่กลับล้มเหลวในเรื่องของความรัก "หลี่หมิง" หนุ่มมอปลายผู้เคว้งคว่างกับชีวิตที่กำลังจะก้าวต่อหรือผลันตัวมาทำงานและเรื่องราวของ เรื่องเรียนเรื่องรัก "อลัน" หนุ่มแบงก์ผู้ที่กำลังจะเสียรักที่แสนพิเศษในชีวิตไปเป็นเพราะตัวเขาหรือคนรักหมดใจ "ไก่ป่า" หนุ่มน้อยผู้หวังที่จะมีความรักดีๆกับเขาสักครั้งในชีวิต "ฮาร์ท" หนุ่มน้อยผู้พิการทางการได้ยินที่อยู่แต่ในบ้านจนได้เจอกับใครสักคนที่จะคอยรับฟังเขา ติดตามเรื่องราวต่างๆได้ใน MIDNIGHT SERIES เรื่อง Moonlight Chicken : พระจันทร์มันไก่ “กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน” 1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / เป็นซีรีส์ร้อนแรงตั้งแต่ Episode แรกกันเลยทีเดียว กับเรื่องราวความรักที่ถูกทำให้รักในคืนที่พระจันทร์เต็มดวง ต้องบอกเลยว่าซีรีส์ไม่ได้มีดีแค่เรื่องของฉาก แต่การดีไซน์รังสรรค์ฉากต่างๆทำออกมาได้ดี ต้องยกนิ้วให้เพราะมันมันใจของผู้เขียนตั้งแต่ Episode แรก ฉากต่างๆของซีรีส์เรื่องนี้เน้นการถ่ายแบบ Handheld เพราะว่ามันทำให้เราเล่าเรื่องราวผ่านฉากต่างๆของได้ให้ความรู้สึกว่าเราเหล่าคนดูกำลังหลุดไปในโลกของซีรีส์ได้จริงๆ ธีมหลังเป็นเมืองพัทยานับว่าทำออกมาได้อย่างสวยงามการเล่าเรื่องราวธีมหลังที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมแบบชาวจีน บ้านเมืองรูปทรงเก่าร้านค้าต่างๆ ร่วมไปถึงร้านที่เป็นหัวใจของเรื่องอย่างร้านข้าวมันไก่ มันทำให้ผู้เขียนนึกถึงชีวิตวัยเด็กที่เป็นเด็กในตลาด ทีมสร้างทำมันออกมาได้ดีจริงๆ ธีมหลักมีการเล่าเรื่องราวของผู้คนไม่กี่คน แต่ก็เป็นไม่กี่คนที่สื่อให้เราเหล่าคนดูเห็นถึงเรื่องจริงของสังคมไทยได้อย่างถ่องแท้ และที่เด็ดที่สุดคงจะเป็นฉาก Make love ระหว่างตัวละครสองตัวอย่าง “เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ” ที่รับบทเป็นลุงจิม และ “มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์” ที่รับบทเป็นเหวิน เป็นฉากที่สวยงามมากๆในการสื่อสารถึงผู้ชมผ่านบทพูดที่เต็มไปด้วยกลิ่นคาวราคะตัณหากิเลสเป็นฉากที่ต้องตกนิ้วให้ ถึงแม้ว่าตัวซีรีส์จะมีความยาวแค่ 8 Episode แต่ก็เป็น 8 Episode ที่น่าเสียได้ เพราะการสลับเรื่องราวต่างๆมันดูไม่ค่อยประติดประต่อ บางครั้งก็กระโดดไปมาไม่ได้เล่าเรื่องราวต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่า 8 Episode ในครั้งนี้เรื่องราวมันไม่พอเลยต้องทำแบบนั้น แต่ก็มีฉากซ็อตฟิลอยู่ฉากหนึ่งที่ผู้เขียนชอบคือเราจะได้เห็น อ๊อฟ-นพณัช ชัยวิมล เข้ามาร่วมแจมใน Episode ที่ 5 ซึ่งเป็นฉากอารมณ์ที่ดีมากๆแต่ก็ซ็อตฟิลมากๆเช่นกัน 2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / นอกจาก นพณัช ชัยวิมล และยังมีอีกคนอย่าง กิตติศักดิ์ คงคา สองนักเขียนบทที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ บทของซีรีส์เรื่องนี้ได้ตีแผ่เรื่องราวของชีวิตในนิยามความรักที่ขีดเส้นไว้ตัวใหญ่ๆว่าชายรักชาย ออกมาได้อย่างน่าสนใจและไม่เคอะเขิน หยิบเรื่องราวของคนกลุ่มเด็กๆที่เจอปัญหาเรื่องความเข้าใจ จากคนรอบข้างหรือความไม่เข้าใจในตัวเองออกมาได้อย่างแจ่มแจ้ง ตอนนั่งดูผู้เขียนบอกได้คำเดียวเลยว่าซีรีส์วายที่แหวกขนบเรื่องนี้ ต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ๆ และแล้วมันก็สำเร็จในตัวมันเองนี่แหล่ะเพราะบทของซีรีส์เรื่องนี้ดีจริงๆ เรื่องเล่าที่เต็มไปด้วยปัญหาของเหล่าตัวละคร มันทำให้เราเหล่าคนดูก้าวข้ามปัญหาในหลายๆอย่าง “เป็นกำลังใจ” หรือแม้แต่ “เติบโต” ไปพร้อมๆกันผู้เขียนเชื่อว่าอย่างนั้น ที่ว่าบทดีมันดีอย่างไร เพราะบทเล่าถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงๆในสังคมแต่เล่าเรื่องผ่านเรื่องราวของชายรักชาย เล่าคำนิยายของความรักผ่านตัวละครได้อย่างสวยงาม หรือแม้แต่ปัญหาวงจรชีวิตที่เราเหล่าคนดูเห็นกันในปัจจุบันก็มีในเรื่องนี้ การต้องห่างบ้านห่างลูกห่างพ่อแม่ ปัญหาของความยากจนหรือแม้แต่เรื่องการศึกษาก็ถูกหยิบยกขึ้นมา “ความฝันของผมไม่โรแมนติกหรอก หมดหนี้ ส่งหลานเรียนให้จบ ผมอยากลองจับเงินสักล้านหนึ่งดู ดูว่าจะเป็นยังไง” เป็น dialog เล็กๆของสองตัวละครหากใครไม่ได้คิดอะไรมากก็จะมองเป็นแค่บทพูดบทหนึ่ง แต่ผู้เขียนมองลึกไปกว่านั้น นี้ตัวละครกำลังเล่าถึงความฝันที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ และต้นทุนชีวิตที่ไม่ได้มีอะไรลองรับพวกเขาเหล่านี้เลย สิ่งเหล่านี้ถูกเล่าผ่านฉากต่างๆ และ บทซีรีส์ก็ขยายความชัดนี้ให้ดียิ่งขึ้น นับว่าสวยงามมากๆในบทของซีรีส์ 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ตัวละครในเรื่องนี้หลากหลายมากๆ คู่รักที่เลิกกันแต่ไม่ลากัน ความสัมพันธ์ที่ค้างคาใจกลายเป็นแผลลึกที่ไม่ได้รับการรักษา แม่ที่ต้องห่างจากลูกและคอยดิ้นรนเพื่อที่จะให้คนที่รักได้อยู่อย่างมีความสุข หนุ่มน้อยสาวน้อยที่กำลังจะมีปัญหาเพราะทำพลาดในเรื่องที่เราเหล่าคนดูเห็นประจำในสังคมและชีวิตจริงของคนชั้นกลาง หรือแม้แต่หนุ่มน้อยที่รู้ตัวว่าตัวเองเป็นอะไรและพยายามทำให้ได้ในสิ่งนั้น และที่น่าสนใจมากที่สุดที่ซีรีส์หลายๆเรื่องไม่ได้นำเสนอ หรือไม่คิดที่จะนำเสนอกันแน่อย่างตัวละครที่เป็นผู้พิการ ที่อยากจะมีความรักให้ทุกคนรักและขอมีใครสักคนเคียงข้างในชีวิตของเขา ที่พิเศษไปกว่านั้นตัวละครตัวนี้ยังเป็นกลุ่ม LGBTQIA+ เป็นการแหวกขนบที่ผู้เขียนต้องยกนิ้วให้เลยก็ว่าได้ เพราะเสนอตัวละครที่จริงมากๆ นับว่าเป็นสิ่งดีที่ซีรีส์เรื่องนี้ได้นำแม่เหล็กใหญ่ของค่ายมารวมตัวกันที่ต้องบอกว่าแฟนซีรีส์วายคุ้นหาคุ้นตากันอย่าง เอิร์ท-มิกซ์, เฟิร์ส-ข้าวตัง และน้องใหม่อย่าง โฟร์ท-เจมีไนน์ เดินทางก้าวเข้าสู้โลกของการแสดงด้วยบทที่ทรงพลัง ผู้เขียนชอบมากๆ ที่ชอบคงเพราะได้เห็นฝีมือของนักแสดงกลุ่มนี้ในแบบที่เราเหล่าคนดูไม่เคยเห็น มันดูสมบทบาทกับคาแรกเตอร์ที่พวกเขาได้รับ สมจริงเหมือนกับว่านี้แหล่ะคือที่สุดในทางที่มากกว่าซีรีส์ที่ผ่านมาของพวกเขา โดยเฉพาะคู่หลักอย่าง เอิร์ท-มิกซ์ นี้ต้องยกนิ้วให้เลย เอิร์ท เล่นเป็นลุงจิมชายที่ยังฝังใจกับรักครั้งเก่าคือต้องบอกว่าตีบทแตกดูสุขมนุ่มลึกน่าค้นหาลองให้ท้าทาย มิกซ์ เราเหล่าคนดูก็เคยเห็นแต่บทใสๆน่ารักๆเหมาะกับบุคลิกที่มิกซ์เอง แต่พอมาให้เรื่องนี้เขากลับเป็นคนที่ขี้อ่อนคลั่งรักและเป็นคนขี้เหงาที่น่าสงการเพียงเพราะแค่ต้องการบ้านและความรักที่ไม่ต้องใกล้ชิดมากแต่อบอุ่นทุกครั้งที่เปิดประตูบ้านเข้าไปหาคนที่เขารัก ตัวละครทุกตัวมีความสมจริงที่ต้องบอกว่าทีมสร้างเขาคิดมาดีมากจริงๆ ไม่ได้ขยี้ให้ใหญ่โตอลังการหวานน้ำตาขึ้น แต่สื่อให้เห็นถึงความเป็นจริงของคนที่มีความ “รัก โลภ โกรธ หลง สุข เศร้า เหงา ซึ้ง” ไม่ขาวจัดหรือดำจัด และมันก็ยืนยันได้อย่างหนึ่งว่าทุกคนไม่ว่าจะเป็นเพศไหน หรือมีรสนิยมความชอบแบบใด ก็ไม่เคยสมบูรณ์แบบ ที่ต้องคอยเรียนรู้และทำความเข้าใจกันเรื่อยไป ผ่านตัวละครทั้งหลายในเรื่องนี้ 4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / “นิยามความสุขของแต่ละครไม่เหมือนกัน สำหรับบางคนความสุขคือการมีอนาคตให้ฝันถึง แต่บางคนอาจจะมีความสุขง่ายๆแค่ได้ใช้เวลาที่มีค่ากับคนที่รัก หรือบางคนความสุขอาจจะหมายถึงการรับรู้ว่ามีใครสักคน ที่เขาเข้าใจและพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเรา หรือการได้เจอใครสักคนที่ทำให้เรายิ้มได้หัวเราะกับเรื่องง่ายๆโดยที่เราไม่ต้องพยายาม” dialog เล็กๆ ที่รวมความหมายของซีรีส์เรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน อย่างที่บอกผู้เขียนเชื่อว่าเราทุกคนต้องการที่จะมีความสุข ในเรื่องนี้เราไม่ต้องไปพยายามหรือฝืนทำ ไม่ว่าจะเป็นความสุขจากคนรอบข้าง ความสุขจากการได้รักใครสักคน หรือแม้แต่ความสุขจากตัวราที่มอบให้กลับคนอื่น เอาจริงๆเรื่องนี้ถูกเล่าผ่านตัวละครสองตัวอย่าง โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล รับบท หลี่หมิง และ เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ รับบท ฮาร์ท มันก็เลยเป็นอะไรที่น่าสนใจไปอีก เพราะตัวละครทั้งสองนี้ แถบจะไม่มีซีรีส์วายเรื่องไหนหยิบขึ้นมาเล่าเลย กับคำนิยามที่ว่าความรักไม่มีรูปแบบในบ้านนี้เมืองนี้หรือแม้แต่โลกนี้มันมีจริงๆนะ แต่กลับกลายเป็นว่าเราไม่อาจที่จะได้เห็นมันเฉิดฉายในโลกของภาพยนตร์เลย ดั่ง dialog ข้างต้นที่ผู้เขียนหยิบยกว่านั้นแปลความหมายได้ชัดทุกอย่างในตัวของวันแล้ว ความสุขที่จะได้เห็นอนาคต ความสุขที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก ความสุขที่เราได้อยู่กับคนที่เข้าใจ ถึงแม้ว่าในโลกนี้ใครจะไม่เข้าใจเราก็ตาม หรือแม้แต่ความสุขที่เราได้ยิ้มได้หัวเราะ ไม่ว่าจะได้จากครอบครัว คนรัก หรือแม้แต่เพื่อนพ้องน้องพี่ หากมันไม่ทำให้เรากระอักกระอ่วมใจหรือฝืนทำฝืนยิ้มนั้นก็คือนิยามความสุขและนะ ผู้เขียนเชื่อว่าอย่างนั้น 5 “คัท !!!!”Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ คือหนึ่งในโปรเจกต์ MIDNIGHT SERIES ที่มีเรื่องราวที่เล่าออกมาเป็นสามแบบสามสไตล์แต่ก็เล่าเรื่องราวของคนที่ใช้ชีวิตในยามค่ำคืน ไม่ว่าจะเป็น Midnight Motel แอปลับ โรงแรมรัก / Dirty Laundry ซักอบร้ายนายสะอาด การเล่าเรื่องยูโทเปียแห่งความเข้าใจก็เหมือนแบบก้าวแรกของซีรีส์วายไทย ที่ก้าวข้ามขนบเดิมได้อย่างสวยงาม Moonlight Chicken พระจันทร์มันไก่ ผู้เขียนชอบอย่างหนึ่งคือการตีแผ่ระบบต่างๆของสังคมได้อย่างดี dialog ต่างๆที่ถูกพูดถึงคือความจริงที่เห็นๆและได้ยินกันอยู่ในสังคม จีเอ็มเอ็ม ทีวี ดึงแม่เหล็กของวงการซีรีส์วายมารวมกันได้อย่างดีไม่ว่าจะเป็น เอิร์ท พิรพัฒน์ วัฒนเศรษสิริ รับบท จิม / มิกซ์ สหภาพ วงศ์ราษฎร์ รับบท เหวิน / ข้าวตัง ธนวัฒน์ รัตนกิจไพศาล รับบท ไก่ป่า / เฟิร์ส คณพันธ์ ปุ้ยตระกูล รับบท อลัน / เจมีไนน์ นรวิชญ์ ฐิติเจริญรักษ์ รับบท ฮาร์ท / โฟร์ท ณัฐวรรธน์ จิโรชน์ธิกุล รับบท หลี่หมิง / มาร์ค ภาคิน คุณาอนุวิทย์ รับบท ซาเล้ง / วิว เบญญาภา จีนประสม รับบท แพรว / ปาแปง พรหมพิริยะ ทองพุทธรักษ์ รับบท บีม / แม็กซีน อินทิพร แต้มสุขิน รับบท ขวัญ / เอ๋ นรินทร ณ บางช้าง รับบท เจ้หงส์ / ลูกหว้า พิจิกา จิตตะปุตตะ รับบท แจ๋ม / สุ่ย พรนภา เทพทินกร รับบท จินตนา ผู้เขียนชอบอย่างหนึ่งคือ จินตนา หงษ์ แจ๋ม ขวัญ แพรว คือเหล่าอเวนเจอร์ฝ่ายหญิง ตัวละครหญิงเหล่านี้ถูกดีไซน์ขึ้นเป็นอย่างดี ว่าอยากให้ผู้หญิงเหล่านี้ช่วยสะท้อนคาแรกเตอร์ชีวิตตัวละครผู้ชายในเรื่อง ดังนั้นพวกเธอต้องเป็นผู้หญิงที่สตรองเก่งและแกร่งพอเห็นการพัฒนาบทไปเรื่อยๆก็พบว่าทุกคาแรกเตอร์ล้วนเป็นแม่คนทั้งหมดเลย ซึ่งกลายเป็นสิ่งที่ชอบมากๆ ถึงแม้ช่วงท้ายๆซีรีส์จะเหมือนกับเร่งและยัดเยียดเราเหล่าคนดูมากเกินไปก็ตาม นี้คือสิ่งที่ผู้เขียนไม่ชอบนะแต่ก็เข้าใจว่า 8 Episode มันก็ต้องเป็นแบบนี้แหล่ะต้องจบต้องลงให้ได้ Mood and Tone ก็เข้าท่าเข้าทางมากๆเกรดสีให้มีความหม่นๆเทาๆ ให้มีความดราม่าและอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ถึงอย่างการตีแผ่นี้ทุกคนดูจะเข้าอกเข้าใจกัน จนบางครั้งมันก็ดูจะเกินจริงไปบ้านในโลกที่เต็มไปด้วยผู้คนที่มีความแตกต่างในแง่ของความคิด แต่ก็ทำให้เราเข้าใจได้ดีว่า ความแตกต่างของผู้คนมากมายนั้น มันไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่เราเหล่าคนดูจะทำความเข้าใจมัน ถึงแม้เรื่องราวที่ซีรีส์เรื่องนี้สื่อมาจะสาวงามมากๆ แต่สิ่งที่บ้านเราเมืองเรากำลังเผชิญอยู่มันจะใหญ่กว่าและมองเห็นแสงสว่างที่น้อยกว่า แต่อย่างน้อยก็ลองในมาทำความเข้าใจกันบ้างโลกดิสโทเปีย ใบนี้คงสวยงามแม้เส้นทางชีวิตอันแสนขรุขระนี้จะเป็นอย่างไรแต่ที่สำคัญคือ แรงใจที่มากพอที่จะทำความเข้าใจในผู้คนเหล่าทั้งคนรอบข้างและครอบครัว ผู้เขียนว่าสิ่งเหล่านี้มันง่ายกว่าสิ่งอื่นใดแน่นอน เพราะความรักมันไม่เคยที่จะถูกกำหนดมาตั้งแต่แรกเริ่มไม่ว่าจะเพศไหนก็ตาม ความรักก็คือความรักซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เห็นแล้วว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ "เรายอมรับคนอื่นได้หมด แต่คนในครอบครัวกลับยอมรับไม่ได้" ผู้เขียนไม่อยากเห็น dialog นี้แล้วในสังคมปัจจุบันหวังว่าซีรีส์วายเรื่องนี้จะเป็นอีกหนึ่งกระบอกเสียงที่จะส่งถึงหลายๆอย่างในสังคมได้ "อยากให้โลกแห่งสุขไม่ได้มีแค่ในซีรีส์" และที่สำคัญเพราะประกอบอย่าง The Moon Represents My Heart หรือชื่อไทยว่า พระจันทร์แทนใจต้อนฉบับของ เติ้งลี่จวิน ก็ถูกนำมาร้องใหม่ได้อย่างสวยงามเป็นกัน และอีกเพลงอย่าง พรุ่งนี้ (Tomorrow) ที่นำมาถ่ายทอดโดย Ford Arun (ฟอร์ด อรัญญ์) ก็เพราะกินใจมากๆ และประเด็น One night stand รักสนุกแบบไม่ผูกมัด ก็ถูกนำว่าเล่าได้อย่างน่าสนใจ และสื่อให้เห็นถึงอีกด้านของมนุษย์ได้อย่างเข้าถึง ครบรสอย่างสวยงาม ชอบ Dialog นี้ “ความรักเนี่ยนะมันไม่ซับซ้อนหรอก แต่ที่ซับซ้อนนี่เพราะมันไม่รักมากกว่า” - ป๋าชวิน(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก ผู้กำกับและทีมนักแสดง gemini_nt - 5 / 11 / 14 / 17fourth.ig - 4 mixxiw - ปก / 7 / 13 / 15 / 19backaof - 8 / 9 / 12 / 22 / 23khaotungg - 3 theearthe - 1 / 2 / 6 / 10 / 16 / 20 / 24first.kp - 18 / 21ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมและในวันนี้ก่อนจากกันไปบอกเราหน่อยว่าผู้อ่านเป็นแฟนซีรีส์เรื่อง Moonlight Chicken : พระจันทร์มันไก่ เพราะอะไร อย่าลืมกดติดตามเพื่อเป็นกำลังใจ แล้วท่านจะไม่พลาดเหล่าคอนเทนต์ใหม่ๆที่ทาง จิปาถะ และ อรรถรส จัดมาให้แบบ Exclusive เจาะลึกถึงวงการบันเทิงที่มากกว่าใคร หากคุณรักภาพยนตร์ รักซีรีส์ อนิเมะ แอนิเมชัน และเกม ที่เดียวที่ จิปาถะ และ อรรถรสเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ๆ App TrueID โหลดฟรี!