รีเซต

ส่องสถานการณ์บ็อกซ์ออฟฟิศสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 หรือว่าจะข้ามปีไปแบบเหงา?

ส่องสถานการณ์บ็อกซ์ออฟฟิศสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 หรือว่าจะข้ามปีไปแบบเหงา?
Jeaneration
6 ธันวาคม 2566 ( 12:00 )
124

ก็อย่างที่เคยเกริ่นเอาไว้บ้างแล้วว่า เดือนธันวาคม 2023 กลายเป็นช่วงเวลาสิ้นปีที่ผู้คนเตรียมจะเฉลิมฉลอง แต่กลับไม่ใช่วงการหนังฮอลลิวูด เพราะเดือนนี้แทบจะไม่มีโปรแกรมหนังที่สามารถระบุชี้ขาดได้ชัด ๆ ว่าจะเปรี้ยงปัง นับว่าเป็นเดือนสุดท้ายของปีที่มาพร้อมกับกระแสที่เงียบเหงาในรอบหลายปีเลยทีเดียว และเมื่อบ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกาเดินทางมาถึงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ ดูทรงจากตอนนี้แล้วนั้น นักวิจารณ์ก็ต่างมองหน้ากันแล้วว่า มันอาจจะ...!

เว็บไซต์ BoxofficePro เจ้าเดิมได้ทำการวิเคราะห์และเคาะตัวเลขรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศอเมริกา ประจำสุดสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 ซึ่งปีนี้หมดปีในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ 29-31 ธันวาคม แบบพอดิบพอดี แต่จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น โดยปกติแล้วในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ โปรแกรมหนังในอเมริกามักจะไม่มีหนังเข้าใหม่เพิ่มเติมสักเท่าไหร่ เพราะทุกเรื่องจะทำการปิดปีที่วันคริสต์มาสทั้งหมด ดังนั้นสุดสัปดาห์ส่งท้ายปีจะเป็นการวัดผลลัพธ์แบบระยะยาวของหนังที่ค้างโปรแกรมฉาย

โดยหนังล้อตสุดท้ายที่จะเปิดตัวฉายในอเมริกานั้น จะเข้าฉายตั้งแต่วันจันทร์ ซึ่งตรงกับวันคริสต์มาส 25 ธันวาคม นั่นเอง โดยปีนี้จะหนัง 3 เรื่องที่ไม่เข้าหวือหวาเท่าไหร่ ที่เด่น ๆ ก็คงจะเป็น “The Color Purple” หนังดรามามิวสิคัลที่สร้างมาจากละครบอร์ดเวย์ชื่อดัง ที่ลงจอช่วงนี้เพื่อจะหวังชิงชัยบนเวทีรางวัลต่าง ๆ ในช่วงต้นปีที่จะถึงนั่นเอง

แล้วยังมี “Ferrari” หนังดรามาตำนานเจ้าของแบรนด์รถยนต์สุดหรูหราจากอิตาลี และหนังดรามากีฬาที่สร้างมาจากเรื่องจริง “The Boys in the Boat” ที่มี จอร์จ คูลนีย์ มารับหน้าเป็นผู้กำกับ ซึ่งดูเหมือนว่าโปรแกรมหนังทั้งหมดจะเป็นหนังที่หวังจะมีซีนในด้านรางวัลแทบจะทั้งสิ้น

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าบ็อกซ์ออฟฟิศสัปดาห์สุดท้ายของปี 2023 ยังเป็นอะไรที่คาดเดาได้ไม่ชัดเจน เพราะแน่นอนว่าสัปดาห์หน้านั้น “Aquaman and the Lost Kingdom” น่าจะยืนหนึ่งเปิดตัวเป็นแชมป์เอาไว้ แต่พอย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการออกฉาย ก็ยังไม่แน่ชัดว่าหนังจะออกมาหมู่หรือจ่า เพราะตัวเลขที่เคาะเอาไว้ในสัปดาห์เปิดตัวก็อยู่ในระดับ 30-40 ล้านเหรียยเท่านั้น หากกระแสของหนังไม่สู้ดี ก็มีสิทธิ์ที่จะลดฮวบไปลงครึ่งหนึ่งในสัปดาห์ที่ 2 อยู่ที่ราว ๆ 15-20 ล้านเหรียญ ก็เป็นไปได้

ขณะที่ “Migration” หนังแอนิเมชั่นจากค่ายอิลลูมิเนชัน ที่น่าจะมีภาษีดีกว่าในการดึงดูดผู้ชมกลุ่มครอบครัวในช่วงเทศกาล ที่นักวิเคราะห์มองว่าจะเปิดตัวในระดับ 20-30 ล้านเหรียญ หากว่าหนังได้ช่วงเทศกาลช่วยหนุนเอาไว้ ก็อาจจะทำเงินแทบไม่ลดลงเลย และมีสิทธิ์ที่สลับขึ้นไปเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศในสุดสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ก็เป็นไปได้เช่นกัน

ส่วนในบรรดาหนังเข้าใหม่นั้น นักวิเคราะห์เชื่อว่า The Color Purple จะมีภาษีดีที่สุด เพราะถึงเวลานั้น หนังน่าจะมีซีนด้านรางวัลมากยิ่งขึ้น เพราะหลาย ๆ เวทีรางวัลก็เริ่มประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง หนึ่งในนั้นก็คือรางวัลลูกโลกทองคำ ทำให้หนังน่าจะปิดปีได้สวย ๆ ที่ตัวเลข 13 ล้านเหรียญขึ้นไป และเมื่อรวมรายได้จากเข้าฉายมาตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมา คาดว่าหนังจะเก็บรายได้ 7 วันแรกไปได้ที่ 25 ล้านเหรียญ เป็นอย่างต่ำ

และ The Color Purple ยังมีโอกาสได้ยืนโรงฉายไปอีกยาว ๆ 4-5 เดือน หากมีกระแสไปถึงรางวัลออสการ์ โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าเรื่องนี้จะทำเงินตลอดโปรแกรมฉายได้มากกว่า 60 ล้านเหรียญ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็เป็นไปได้ เพียงแต่อุปสรรคใหญ่ของหนังก็คือความเป็นหนังมิวสิคัล ที่ในยุคนี้ค่อนข้างการกลยุทธ์ดึงดูดผู้ชมได้ยากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

ในขณะที่ Ferrari น่าจะทำเงินในสัปดาห์ปิดปีที่ 3-7 ล้านเหรียญ แล้วมองการณ์ไกลว่าจะเก็บเงินตลอดโปรแกรมได้ที่ 12-35 ล้านเหรียญ ขึ้นอยู่กับกระแสของหนังว่าจะมีซีนบนเวทีรางวัลได้มากแค่ไหน เช่นเดียวกับ The Boys in the Boat ก็น่าจะเปิดตัวได้ไม่ค่อยเยอะที่ 1.5-4 ล้านเหรียญ เพราะนักวิเคราะห์มองว่าหนังไม่น่าจะมีบทบาทกับรางวัลมากนัก และหนังสไตล์นี้เหมือนยุคนี้จะลงจอสตรีมมิงกันหมดแล้ว คาดว่าอาจจะปิดรายได้ไว้ที่ 8-16 ล้านเหรียญเท่านั้น

-------------------------------------

>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa