🎞️ สำหรับใครที่ได้รับชมหนัง The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes ไปแล้วนั้นย่อมต้องเกิดความสงสัยเกี่ยวกับชื่อเรื่องอย่างแน่นอนว่ามันมีความหมายอย่างไรกันแน่ The Ballad คืออะไร? แล้ว Songbirds กับ Snakes มีความหมายอะไรกันแน่และเชื่อมโยงกับตัวละครในเรื่องยังไงโดยเฉพาะตัวละครสำคัญอย่างลูซี่ เกรย์และคอริโอเลนัส สโนว์ซึ่งตรงจุดนี้ก็เป็นจุดที่น่าสนใจเป็นอย่างมากกับการตีความความหมายของ Songbirds และ Snakes ที่ตัวหนังพยายามจะบอกเราในหลายๆฉาก.🕊️ แนะนำว่าใครที่ยังไม่ได้ดูหรือเคยดูแล้วแต่อยากทบทวนเรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ก็สามารถที่จะเข้าไปอ่านบทความของผู้เขียนที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องย่อและรีวิวของหนังเรื่องนี้ได้ที่ลิ้งค์นี้เลยนะ https://intrend.trueid.net/post/436349.➡️ วิเคราะห์ชื่อหนัง The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes🎞️ ถ้าจะกล่าวโดยสรุปที่สุดสำหรับชื่อเรื่องของหนังนั้นคำว่า Ballad จะเป็นบทกวีชนิดหนึ่ง/เป็นรูปแบบหนึ่งของคำประพันธ์ทำให้เมื่อมาอยู่ในชื่อเรื่องนี้ก็เหมือนคล้ายๆกับแปลได้ว่าเป็นการบอกเล่าเรื่องราวหรือสตอรี่ของ Songbirds & Snakes แต่ที่ทางผู้จัดทำหนังไม่ใช้คำว่า The Story of Songbirds & Snakes ไปเลยนั้นผู้เขียนคิดว่าเกิดจากการที่นางเอกอย่างลูซี่ เกรย์มีความสามารถในการร้องเพลงอย่างสูงและมีหลายๆฉากในหนังที่เธอได้ทำการร้องเพลงอีกด้วยบวกกับตัวลูซี่ เกรย์เป็นเหมือนตัวละครดำเนินเรื่องหลักดังนั้นการใช้คำว่า Ballad จึงดูจะเข้ากันกับหนังมากกว่านั่นเอง.🟠 แต่สำหรับคำว่า Songbirds & Snakes นี่แหละที่ต้องบอกว่าการตีความความหมายของสองคำนี้นั้นน่าสนใจเป็นอย่างมากโดย Songbirds ก็หมายถึงนกที่ร้องเพลงได้ถ้าพูดถึงในจักรวาล The Hunger Games ก็ต้องนึกถึงนก jabberjay และนก mockingjay ที่มีความสามารถในการฟังและเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินเป็นเสียงพูดได้ [ม็อคกิ้งเจย์ (Mockingjay) เป็นนกพันธุ์ผสมเกิดขึ้นระหว่างการผสมข้ามสายพันธุ์ของนกม็อคกิ้งเบิร์ด (mockingbird) และนกแจ็บเบอร์เจย์ (jabberjay)].🟠 ถ้าได้ดูหนังจนจบแล้วนั้นแน่นอนว่าเราก็พอจะเดาได้ว่าลูซี่ เกรย์ที่ร้องเพลงได้ไพเราะมากนั้นก็เปรียบดั่ง Songbirds หรือนกที่สามารถร้องเพลงหรือพูดเพื่อสื่อสารได้นั่นเองส่วนสโนว์ผู้ที่มีความเจ้าเล่ห์/มีเล่ห์เหลี่ยมสูงและความชั่วร้ายแฝงอยู่ในตัวนั้นก็คงเปรียบได้ดั่ง Snakes นั่นเอง.🕊️ แต่จริงๆแล้วนั้นตลอดทั้งเรื่องเราก็จะเห็นได้ว่าตัวละครลูซี่ เกรย์ที่เปรียบดั่งนกที่ร้องเพลงได้ก็กลับมีความเกี่ยวข้องกับงูอยู่หลายๆฉากและตัวของสโนว์เองที่เปรียบดั่งกับงูก็มีความเกี่ยวข้องกับนกที่ร้องเพลงได้อย่างนก jabberjay อีกด้วยซึ่งหมายความว่าทั้ง Songbirds และ Snakes นั้นไม่ใช่แค่ถูกใช้ในเชิงเปรียบเทียบหรือ methphor เพียงเท่านั้นแต่ตัวสัตว์เองยังถูกใช้จริงในหลายๆฉากของหนังอีกด้วย.➡️ ความเกี่ยวข้องระหว่างสโนว์กับนกที่ร้องเพลงได้🎞️ สำหรับความเกี่ยวข้องระหว่างสโนว์กับนกที่ร้องเพลงได้อย่างนก jabberjay ที่เด่นมากๆนั้นก็คือการที่เขาได้ตัดสินใจทรยศเพื่อนที่สนิทที่สุดของเขาอย่างซีเจนัสโดยการแอบบันทึกบทสนทนาระหว่างพวกเขาทั้งคู่ด้วยนก jabberjay ในขณะที่ซีเจนัสกำลังสารภาพกับเขาว่าตัวซีเจนัสกำลังวางแผนที่จะก่อการกบฏในพื้นที่กับเหล่าชาวบ้าน.🟠 ซึ่งสโนว์ก็ได้ส่งนกตัวนี้กลับไปยังแคปิตอลโดยที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่าถ้ามีคนได้ยินบทสนทนานี้เข้าตัวของเพื่อนสนิทของเขาอย่างซีเจนัสจะมีโทษโดนประหารชีวิตสถานเดียวเท่านั้นแต่ด้วยความที่สโนว์ไม่อยากติดร่างแหไปกับเพื่อนสนิทของเขาด้วยเขาเลยได้ตัดสินใจทำมันลงไปบวกกับหวังว่าการส่งข่าวที่สำคัญเช่นนี้ไปให้กับแคปิตอลเขาก็อาจจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างกลับมาบ้างและในท้ายที่สุดนกตัวนั้นก็ถูกส่งไปยังแคปิตอลและซีเจนัสก็ถูกลงโทษประหารด้วยการแขวนคอกับต้นไม้พร้อมกับชาวบ้านที่ร่วมกันวางแผนในการก่อกบฏในท้ายที่สุด.🟠 จะเห็นได้ว่าแม้ว่าสโนว์จะรู้อยู่แก่ใจว่าการกระทำของเขานั้นสามารถฆ่าคนได้และไม่ใช่แค่คนคนเดียวด้วยแต่เขาก็ยังยอมแลกชีวิตคนกับความอยู่รอดและสิ่งที่ตัวเองปราถนาซึ่งตรงจุดนี้เป็นจุดที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะทำให้ตัวละครสโนว์นั้นไม่ได้มีแค่มิติเดียวที่เป็นคนที่เลวร้ายมาตั้งแต่ต้นซึ่งเขาก็มีทั้งความดีและความชั่วอยู่ในตัว.🟠 ในช่วงแรกๆของหนังนั้นเขาดูเป็นคนดีคนนึงเลยด้วยซ้ำกับความพยายามที่จะทำให้ลูซี่ เกรย์ชนะเพื่อที่เขาจะได้เงินรางวัลเพื่อไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยของแคปิตอลเพื่อที่จะได้กลับมาดูแลครอบครัวของเขาที่พ่อแม่ของเขาได้เสียชีวิตไปนานแล้วบวกกับความรู้สึกดีๆที่เขาก็มีให้กับลูซี่ เกรย์อีกด้วยที่ก็ดูไม่ได้มีพิษภัยอะไรเพียงแค่หลังจากเหตุการณ์ต่างๆที่เขาได้ประสบพบเจอระหว่างทางมันกับหล่อหลอมให้เขาเป็นในสิ่งที่เขาเป็นในช่วงท้ายของเรื่องในท้ายที่สุดและเมื่อเขาได้เลือกและตัดสินใจแล้วว่าเขาจะเป็นอะไรในตอนนั้นเองที่เขาก็เปรียบดั่งงูไปแบบเต็มตัวแล้ว.🟠 และคำตอบในช่วงท้ายเรื่องที่เขาตอบด็อกเตอร์กอลว่าการแข่งขันเกมล่าเกมก็คือการเตือนใจว่าโลกก็คือสนามแข่งและจะต้องมี hunger games ในทุกๆปีเพื่อเตือนว่าเราเป็นอะไรและเขาได้เลือกและเรียนรู้แล้วที่จะเป็นผู้ชนะไม่ว่าจะต้องทำอะไรก็ตามก็ยิ่งตอกย้ำในสิ่งที่เขาเป็นและมันจะเป็นสิ่งที่เปลี่ยนโฉมหน้าของพาเน็มไปตลอดกาล.🕊️ แต่ตรงจุดนี้ก็มีอีกประเด็นที่น่าสนใจมากๆนั่นก็คือเป็นเรื่องที่น่าคิดว่าจริงๆแล้วสโนว์นั้นเป็นคนที่มีความชั่วร้ายมาตั้งแต่ต้นเลยหรือเปล่าเพราะจะเห็นได้ว่าทุกๆการกระทำของเขาก็เป็นการกระทำเพื่อเห็นแก่ตัวเองเท่านั้นไม่ได้แคร์คนอื่นใดๆเลยแม้กระทั่งกับลูซี่ เกรย์เองเหตุผลที่เขาช่วยเธอให้ชนะการแข่งขันก็เพราะต้องการที่จะได้รับเงินรางวัลเพื่อไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยและเขาก็ได้ใช้กลโกงเพื่อช่วยให้ลูซี่ เกรย์ชนะอีกด้วยซึ่งก็มองได้ว่าเพื่อให้สำเร็จซึ่งสิ่งที่เขาปรารถนาเขาก็ไม่แคร์ว่าจะต้องใช้วิธีการหรือต้องกำจัดใครไปบ้างจะเห็นได้ว่านี่คงไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่าความดีได้เต็มปากมากนัก.➡️ ความเกี่ยวข้องระหว่างลูซี่ เกรย์กับงู🎞️ สำหรับลูซี่ เกรย์นั้นมีความเกี่ยวข้องกับงูที่เด่นมากๆนั่นก็คือฉากในสนามการแข่งขันช่วงสุดท้ายที่ด็อกเตอร์กอลผู้ควบคุมเกมได้ปล่อยงูออกมาจำนวนมากในสนามแข่งขันและงูก็เริ่มที่จะสังหารผู้รอดชีวิตที่เหลือไปทีละคนจนเหลือแต่เธอซึ่งเธอก็ได้ตัดสินใจร้องเพลงเพื่อทำให้งูสงบและไม่สังหารเธอซึ่งความสามารถของเธอในการที่เสียงร้องเพลงของเธอสามารถทำให้งูสงบและทำให้เธอควบคุมงูได้นั้นก็ถูกบอกเล่าอยู่ถึง 2-3 ครั้งในหนังด้วยกัน.🟠 ซึ่งตรงจุดนี้ตัวหนังก็อาจจะใช้งูเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของสโนว์ว่าตัวของลูซี่ เกรย์นั้นเธอจะสามารถควบคุมงูหรือควบคุมความชั่วร้ายในตัวของสโนว์ได้หรือไม่นั่นเองและจริงๆแล้วมันก็เหมือนที่จะทำให้สโนว์ไม่ได้ชั่วร้ายอะไรมากเมื่อเขาได้อยู่กับลูซี่ เกรย์แต่เมื่อทั้งคู่ได้เสียความเชื่อใจซึ่งกันและกันโดยที่สโนว์ไม่บอกลูซี่ เกรย์ว่าเขาสังหารคนไปทั้งหมดกี่คนกันแน่และลูซี่ เกรย์ได้เลือกที่จะหักหลังเขาโดยให้งูฉกเขาและหนีไป.🕊️ ซึ่งการถูกหักหลังโดยลูซี่ เกรย์นี่เองที่เป็นสิ่งที่หลอกหลอนสโนว์มาตลอดชีวิตของเขาจนเขาได้มาเจอเข้ากับแคทนิส เอเวอร์ดีนอีกใน 64 ปีต่อมาที่เธอแหกกฎของเกมล่าเกมที่ต้องมีผู้ชนะเพียงคนเดียวแต่แคทนิสกลับทำให้มีผู้ชนะถึง 2 คนเขาจึงจงเกลียดจงชังและกลัวแคทนิส เอเวอร์ดีนเป็นอย่างมากเพราะว่าเธอมีหลายๆสิ่งที่คล้ายกับลูซี่ เกรย์เป็นอย่างมากนั่นเอง.➡️ สรุป🎞️ จะเห็นได้ว่าในหลายๆฉากของหนังนั้นมีสัญลักษณ์และความหมายต่างๆที่แฝงอยู่เยอะมากซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็ช่วยเติมเต็มสิ่งที่ตัวละครแต่ละคนเป็นโดยเฉพาะสโนว์ที่ในอนาคตจะกลายมาเป็นประธานาธิบดีผู้ชั่วร้ายที่ทำให้ the hunher game ยังคงมีอยู่คู่พาเน็มมาได้อีกนับ 60 ปีก่อนการมาถึงของหญิงสาวผู้มากับไฟอย่างแคทนิส เอเวอร์ดีนที่จะจบทุกอย่างลงและเปลี่ยนแปลงพาเน็มไปตลอดกาลอีกครั้งนั่นเอง.🕊️ ทั้งหมดนี้จึงทำให้หนัง The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes เป็นหนังภาคปฐมบทที่เล่าเรื่องราวของจักรวาล The hunger games ก่อนภาคที่ 1-4 ที่ฉายไปก่อนหน้านี้ได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการทำให้เรารู้ที่มาที่ไปของเกมล่าเกมและสโนว์ที่เป็นประธานาธิบดีผู้ชั่วร้ายในภาคที่ 1-4 ได้ดีมากยิ่งขึ้นซึ่งใครเป็นแฟนจักรวาล The hunger games ต้องไม่พลาดหนังเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด. สำหรับใครที่ยังไม่เคยดูหนังในจักรวาล The hunger games ผู้เขียนก็คิดว่าหนังเรื่องนี้ก็เป็นหนังอีกเรื่องที่ดูได้เพลินๆพร้อมกับแฝงไปด้วยข้อคิดต่างๆมากมายให้เราได้ขบคิดระหว่างดูซึ่งก็ไม่เสียเวลาที่จะลองดูให้จบซักรอบอย่างแน่นอน.เครดิตภาพขอขอบคุณรูปภาพจาก Official The Hunger Games Facebook.รูปปก: รูปประกอบที่ 1 จาก Official The Hunger Games Facebook, รูปประกอบที่ 2 จาก Official The Hunger Games Facebook.ภาพประกอบ: ภาพประกอบที่ 1 จาก Official The Hunger Games Facebook, ภาพประกอบที่ 2 จาก Official The Hunger Games Facebook, ภาพประกอบที่ 3 จาก Official The Hunger Games Facebook, ภาพประกอบที่ 4 จาก Official The Hunger Games Facebook, ภาพประกอบที่ 5 จาก Official The Hunger Games Facebook.บทความที่น่าสนใจอื่นๆของผู้เขียนสิ้นสุดการรอคอย 20 ปี! วิเคราะห์ 5 เหตุผลที่จะส่งให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2023-2024 แซงหน้าแมนฯซิตี้และลิเวอร์พูล.วิเคราะห์+เปิดสถิติการคุมทัพปีศาจแดงเมื่อครบ 100 นัดของเอริค เทน ฮากท่ามกลางความสับสนอลหม่านเมื่อเทียบกับหลุยส์ ฟาน กัล, โชเซ่ มูรินโญ่ และโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์.รีวิว 5 ผลงานการคุมทีมที่ดีที่สุดที่ของ The special one โชเซ่ มูรินโญ่ หนึ่งในยอดกุนซือที่สร้างสีสันให้กับโลกฟุตบอลมากที่สุด; ปอร์โต้, เซลซี, อินเตอร์ มิลานและเรอัล มาดริด.รวม 5 การเซ็นสัญญาจากบาร์เซโลนาสู่แมนฯซิตี้ที่นักเตะทำผลงานได้น่าผิดหวังภายใต้การคุมทีมของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า; อิบราฮิโมวิช/ชิกรินสกี้/เกิทเซ่/บราโว่และคาลวิน ฟิลลิปส์.วิเคราะห์เจาะลึก CEO คนใหม่ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากจุดเริ่มต้นเล็กๆที่บาร์เซโลนาสู่ยุคทองของแมนเชสเตอร์ ซิตี้กับภารกิจพลิกชะตาพาปีศาจแดงกลับสู่จุดสูงสุดของยุโรปอีกครั้ง. เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !