รีเซต

โบ สุนิตา แชร์วิธีฝึกจิต เปลี่ยนจากนางสาวฟุ่มเฟือยสายช็อปปิ้ง มารอให้เป็น

โบ สุนิตา แชร์วิธีฝึกจิต เปลี่ยนจากนางสาวฟุ่มเฟือยสายช็อปปิ้ง มารอให้เป็น
มติชน
1 ธันวาคม 2564 ( 13:58 )
61

โบ สุนิตา แชร์วิธีฝึกจิต เปลี่ยนจากนางสาวฟุ่มเฟือยสายช็อปปิ้ง มารอให้เป็น

ยอมรับว่าเคยเป็น ‘นางสาวฟุ่มเฟือย’ สำหรับนักร้อง โบ สุนิตา ลีติกุล ได้โพสต์ภาพข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัว จากสายช็อปปิ้งที่ต้องได้ต้องมีได้ปรับความคิดตัวเอง เผยวิธีฝึกจิตใจให้มีสติและคิดก่อนจะซื้อของที่ไม่จำเป็นจนส่งผลดีต่อชีวิต โบเล่าว่า

‘มีเรื่องของตัวเองมาให้อ่านกันค่ะ “นางสาวฟุ่มเฟือย” มีใครเคยเป็นเหมือนโบบ้าง อ่านแล้วมีกระทบหรือผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ล่วงหน้าตรงนี้เลยนะคะ เจตนาดีล้วนๆค่ะ 🙏🏼♥️😊 #เหมือนเป็นนิทานจากเรื่องจริงของตัวเอง

โบเคยเป็นคนชอบช้อปปิ้งค่ะ หลายคนคงเป็นโนะ โดยเฉพาะเครื่องสำอางค์ ทุกโหมดที่ใช้กับผิวหน้า
ผิวกาย อะไร ออกใหม่รู้หมดและไม่เคยอดใจ ได้ในห้องนอนจะมีของเต็มทุกโต๊ะ ลิ้นชัก จนล้นออกมา
อยู่ในถุงต่างๆ ตามพื้นและชั้นวางของ คือรกมากก หลายครั้งที่นั่งเคลียร์ของทิ้งใช้เวลาเป็นวัน
และพบว่าบางอันยังไม่ถูกแกะมาใช้เลยแต่หมดอายุแล้ว!!! เริ่มคิดค่ะ..สติ..เริ่มค่อยๆมา

โบเลยลองค่อยๆ ปรับตัวเองให้คิด แล้วหยุดถามตัวเองว่าอยากได้สิ่งนี้มาทำอะไร จำเป็นแค่ไหน ซ้ำหรือคล้ายกับของที่มีอยู่แล้วมั้ย ได้คำตอบว่าคล้ายกับของที่มี แต่อันนี้คนละยี่ห้อและใหม่กว่าเลยอยากได้ บอกกับตัวเองว่า “ลองรอหน่อยมั้ย 3 วัน แล้วดูอีกทีว่ายังอยากได้อยู่รึเปล่า”

เฮ้ย!! เรารอได้นี่หว่า งั้นลองใหม่รอให้ครบอาทิตย์ อ้ะ!! ท้าทายกิเลสความอยากได้อยากมีของตัวเองซิ
ของมันรออยู่ที่เดิม ตรงนั้นแหละไม่หนีไปไหนหรอก ไม่ต้องรีบ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ค่อยพุ่งไปสอยมา
ไปซื้ออะมันง่ายนิดเดียว โบก็รอได้จนครบ 1 อาทิตย์แหละทุกคน รู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กๆ แล้วโบก็ถามตัวเองใหม่ว่า ยังอยากได้มั้ยสุนิ สุนิตอบว่ามีก็ได้ไม่มีก็ไม่เป็นไร งั้นลองรอเดือนนึงโนะ ค่อยมาคุยกันใหม่
อ้ะ!!ก็รอได้แฮะ แล้วสุนิยังอยากได้อยู่มั้ย? สุนิว่ารู้สึกเฉยๆแล้วนะไม่ได้รู้สึกอยากซื้อแล้ว

เฮ้ยยย!! โบทำได้อ่ะ มันรู้สึกดีมากกกก ๆ เลย โบเลยทำแบบนี้กับของทุกอย่างที่อยากได้ กลายเป็น
คนรอได้ รอเก่งงง ดูความจำเป็น คิดก่อนใช้มากขึ้นมีเงินเก็บมากขึ้น แต่!! มีอย่างนึงที่ทำใจรอไม่ได้
คือ โทรศัพท์มือถือ เวลามีรุ่นใหม่ออกใจมันเต้น เรียกร้องมาก ตอนนั้นไอโฟนพึ่งออกตัวแรกก็รอนะ แล้วไปหาอ่านคอมเม้นท์ต่างๆว่าใช้แล้ว เป็นยังไง ข้อดี ข้อเสียมีอะไรบ้างด้วยความที่มันใหม่มากในตอนนั้น โบจึงตัดสินใจ…รอ !!!

พอตัดสินใจรอ ก็ใช้มือถือเก่าต่อไป นั่งมองมือถือตัวเองก็คิดได้ว่า เราไม่เคยใช้มือถือจนพังไปเองซักเครื่องเนอะ พอมีรุ่นใหม่ออกมาก็ซื้อใหม่ตลอด กลัวดูเก่า ดูเชย (ในสายตาคนอื่น) โบตัดสินใจรอครั้งใหญ่เลยทีนี้ ดูซิว่าจะรอได้นานแค่ไหน? และบอกกับตัวเองว่าจะเลิกแคร์สายตาคนอื่นที่มองเข้ามาว่า เชย ใช้เครื่องเก่า รุ่นเก่า ปรากฎว่าโบซื้อไอ โฟนเครื่องแรกรุ่น 4S โบรอได้นานเป็นปีเลยทุกคน แล้วก็คิดว่าจะใช้จนมันอัพเดทอะไรไม่ได้แล้วค่อยเปลี่ยน หัดฝึกตัวเองไปเรื่อยๆ รุ่นต่อมาที่ซื้อคือ 6S เอาเครื่องเก่า 4S ให้แม่ใช้ แม่แค่โทรเข้าออกใช้โหมดอื่นไม่ค่อยเป็น หลังจากนั้นเปลี่ยนอีกทีเป็นไอโฟน 11 เลยและยังใช้ถึงตอนนี้ แม่กับลูกเปลี่ยนมาใช้ 6S แต่อีกพักนึงก็ต้องเปลี่ยนให้ทั้งคู่เพราะมันเก่ามาก อัพเดทอะไรไม่ค่อยได้ เครื่องอืดลงทุกวัน ถึงตอนนี้ โฆษณาและการตลาดทำอะไรโบไม่ได้แล้ว ทุกอย่างในชีวิต คิด ตัดสินใจช้าลงแต่มั่นใจว่า
มันดีกับตัวเอง รู้สึกดีที่ได้ฝึกตัวเองแบบนี้ทำมาหลายปีมากจนแทบจะไม่อยากได้อะไรแล้ว

หวังว่าเรื่องที่เอามาแชร์ให้ทุกคนอ่านวันนี้จะมีประโยชน์นะคะ ลองฝึกรอทีละนิด เชื่อว่าทุกคนทำได้เหมือนโบค่ะ โบไม่ได้เก่งนะคะ ระหว่างทางฝึกมีหลุดบ้าง แต่ก็เตือนตัวเองบ่อยๆ ทำจนกลายเป็นปกติในที่สุด
สำคัญคือตัวสติ หยุดคิดและถามตัวเองเยอะๆ ว่าเราได้อันนี้มาเราจะได้ใช้มันมากน้อยแค่ไหน? ถ้าใช้น้อยแต่จำเป็นมาก ถือว่าจำเป็นค่ะ จำเป็นใช้ในชีวิตมั้ย? จำเป็นต้องมีเวลานี้มั้ย? คุ้มค่ามั้ย? ถ้าได้มาแล้วทำเราลำบากการเงินมั้ย? ทำให้ใครลำบากมั้ย?

ถ้าคำตอบคือไม่ เป็นส่วนใหญ่ลองมาฝึก

รอ…. กันดีมั้ยคะ’