หากให้ถามถึงกิจกรรมในคืนวัน เคาท์ดาวน์ (Countdown) ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของหลายๆคน คงมีกิจกรรมที่ต่างกันไป สำหรับคนที่ชื่นชอบปาร์ตี้ สังสรรค์ ก็จะไปท่องราตรีตามที่สำคัญต่างๆ เพื่อชมคอนเสิร์ต และร่วมเคาท์ดาวน์ หรือใครที่เป็นสายชอบทำบุญ ก็จะไปสวดมนต์ข้ามปี เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง แต่อีกหนึ่งกิจกรรม ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้กันโดยเฉพาะคนที่ขี้เกียจออกจากบ้านไปเจอความวุ่นวายคือ การดูหนังข้ามปี ที่ในตอนนี้มีทั้งการดูผ่านสตรีม หรือช่องภาพยนตร์มากมายในสื่อออนไลน์ ให้ได้เลือกชมกัน แบบที่ไม่ต้องออกจากบ้าน ก็สนุก เพลิดเพลินได้ และในโพสต์นี้ ผมเลยขอแนะนำ 3 หนัง ที่เหมาะแก่การชมในคืนวันเคาท์ดาวน์มาให้เลือกชมกัน 3 อารมณ์ 3 สไตล์ด้วยกัน1. New Year Eveหนังที่แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเหมาะแก่การดูในคืนวันที่ 31 ธันวาคม เป็นอย่างยิ่ง ด้วยพลอตเรื่องของหนังที่ว่าด้วยเรื่องราวผู้คน หลากหลายคู่ที่อาศัยอยู่ในเมืองนิวยอร์ก ซิตี้ ในค่ำคืนสุดท้ายของปี 2011 ซึ่งแต่ละตัวละคร ล้วนแต่มีเหตุการณ์ชีวิตที่แตกต่างกันไป แต่ทุกตัวละครล้วนแต่มีจุดร่วมที่เหมือนกันคือ การได้เฉลิมฉลอง มีความสุข และได้อยู่กับคนที่พวกเขารักในช่วงเวลาสุดท้ายของปี ผลงานการกำกับของ แกร์รี่ มาร์เชล(Valentine's Day ,Mother's Day) เจ้าพ่อหนังฟีลกู้ด โดยในเรื่องนี้หนังได้รวมรวบนักแสดงดังๆ มาร่วมงานไว้เพียบ ไม่ว่าจะเป็น แซค แอฟรอน ,ฮัลลี่ เบอร์รี่ ,มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ ,จอช ดูฮาเมล ,จอน บอง โจวี่ และโรเบิร์ต เดอ นีโร New Year Eve ถือว่าเป็นอีกผลงานของ มาร์เชล ที่ใข้งานนักแสดงทุกคนได้อย่างคุ้มค่า ด้วยการแบ่งเนื้อหาออกมาเป็นหลากหลายเส้นเรื่อง แต่จะมีส่วนเชื่อมเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละตัวละคร ซึ่งหนังก็ได้มอบหลากอารมณ์ หลากอรรถรสให้กับคนดู ด้วยการถ่ายทอดผ่านหลากความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็น ความรักของหนุ่มสาว ความรักของแม่ลูก ,พ่อลูก ไปจนถึงความผูกพันของเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้หนังก็ยังพาคนดูไปสำรวจ และร่วมเคาท์ดาวน์ ในบรรยากาศเมืองนิวยอร์ก ออกมาได้อย่างละเอียดลออ ราวกับว่าได้ไปร่วมอยู่ที่ผลการค้นหา ไทม์สแควร์ เลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบหนังฟีลกู้ด แบบที่ไม่ต้องใช้สมอง ดูได้เรื่อยๆ มีเพลงเพราะๆ ประกอบ เรื่องนี้ถือว่าไม่ควรพลาด2.เคาท์ดาวน์ (Countdown)แม้ว่าแนวของหนังเรื่องนี้ดูเหมือนจะไม่เหมาะกับคืนสิ้นปีแห่งความสุขเท่าไหร่ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คืออีกหนังที่เหมาะแก่การชมในคืนสิ้นปีอย่างยิ้งอีกเรื่องหนึ่ง สำหรับหนังระทึกขวัญเรื่องนี้ ที่ว่าด้วยเรื่องราวของเด็กวัยรุ่นไทย 3 คน ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศ และอยากที่จะจัดปาร์ตี้กัญชาในคืนวันเคาท์ดาวน์ โดยพวกเขาได้ไปสั่งซื้อกับคนขายสุดลึกลับที่มีชื่อว่า เฮซุส ก่อนที่ชายขายกัญชาผู้นี้จะเปลี่ยนค่ำคืนวันสิ้นปี และชีวิตของพวกเขาทั้งสาม ไปตลอดกาล ผลงานการกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ ผลการค้นหา บาส นัฐวุฒิ พูนพิริยะ (ฉลาดเกมส์โกง) ที่นอกจากจะจัดเต็มความระทึกขวัญ ปนสยองขวัฐเบาๆ แบบที่ในไทย นานๆ จะมีให้ได้ชมซักครั้ง แต่ด้วยความที่เป็นผลงานของผู้กำกับดีกรีนักเรียนนอก ทำให้หนังเรื่องนี้มีความเป็นฮอลีวูดมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำที่ต่างประเทศตลอดทั้งเรื่อง แถมยังเต็มไปด้วยบทสนทนาภาษาอังกฤษ กว่าครึ่งเรื่อง ใครที่ชื่นชอบหนังจำพวก Slasher ไล่เชือด ตัวละครจิตๆ น่าจะถูกใจเรื่องนี้ไม่น้อยแต่หนังเรื่องรี้ก็ไม่ได้มีเพียงความสยดสยอง ความระทึกขวัญเท่านั้น หนังเรื่องนี้ยังได้แผงคำสอน และแง่คิดดีๆ ในช่วงท้าย ที่ชวนให้คนดูได้ตีความ และนำไปใช้เป็นบทเรียนที่ดีในชีวิต ถือว่าเป็นหนังที่เหมาะกับคนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นในปีใหม่ที่จะถึง ก็ว่าได้3. พรจากฟ้า อีกหนึ่งหนังไทยที่เหมาะอย่างยิ่งที่จะรับชมในคืนวันสุดท้ายของปี เพราะนอกจากหนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยความฟีลกู้ด ความอิ่มเอมใจหลังจากที่ได้ดูแล้ว หนังยังให้แง่คิด ความประทับใจที่ดีมากๆ เรื่องหนึ่ง โดยหนังจะเล่าเรื่องราวของ 3 หนังสั้นของ 3 ความสัมพันธ์ ที่ได้แรงบรรดาลใจมากจากผลงานบทเพลงที่ประพันธ์โดยในหลวงรัชกาลที่ 9 คือเพลง ยามเย็น ,Still On My Mind และพรปีใหม่เป็นอีกหนังจากค่าย GDH ที่เต็มไปด้วยความสุข ความซาบซึ้ง ตลอดแทบทุกนาทีของหนังเรื่องนี้ โดยทั้ง 3 เรื่องก็จะให้ความสุข ความสนุกที่ต่างกันไป ในเรื่องแรกจะเป็นความรักของหนุ่มสาว ส่วนเรื่องที่สองจะเป็นความสัมพันธ์ของครอบครัว และเรื่องที่สามเป็นความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ซึ่งนอกจากหนังเรื่องนี้จะเต็มไปด้วยฉากตลก ชวนขำที่มีตลอดทั้งเรื่องแล้ว หนังยังมีฉากดราม่าที่ทรงพลัง และชวนให้เราน้ำตาซึมได้เช่นกัน แต่ความพิเศษของหนังเรื่องนี้ คือการได้นำเพลงพระราชนิพนธ์ มาเป็นเพลงประกอบหนัง ที่นอกจากทำให้เราได้รับรู้ถึงที่มาของแต่ละบทเพลงแล้ว เรายังได้ซาบซึ่งถึงความหมาย และพระปรีชาสามารถของในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยเฉพาะเพลง พรปีใหม่ ที่เป็นเพลงที่อยู่ในช่วงท้ายเรื่องของหนัง ทำให้เรารู้สึกว่า ไม่ว่าจะเป็นหนังเรื่องนี้ หรือบทเพลงนี้ ล้วนแต่เป็นของขวัญล้ำค่า ของคนไทยทุกคนอย่างแท้จริง ขอขอบคุณรูปภาพจาก https://www.majorcineplex.com/news/pohn-jak-fah-minireviewhttps://www.youtube.com/watch?v=68lVS8ZJ3Fkhttps://www.imdb.com/title/tt2603308/mediaviewer/rm712667648