หนังเล่าถึงนาวิกโยธิน 4 นาย พวกเขาถูกซุ่มโจมตีบริเวณภูเขาในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งพวกเขาอยู่ในระหว่างปฎิบัติหน้าที่เพื่อต่อต้านผู้นำอัลกออิดะห์ และยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือใด ๆ เลย พวกเขาต้องพยายามฝ่าฟันในขณะที่วงห้อมล้อมของพวกติดอาวุธและต้องหาทางเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อนภาพยนตร์สร้างจากเหตุการณ์จริงในปี 2005 ซึ่งเป็นการเล่าถึงปฎิบัติการบุกจับกลุ่มแกนนำของผู้ก่อการร้ายและเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือพวกเขาต้องอยู่ภายใต้การห้อมล้อมของศัตรูหนังใช้เวลา ประมาณ 45 นาทีแรกเพื่อปูพื้นและทำให้คนดูรู้จักกับนายทหารที่มีความสำคัญในการเดินเรื่อง เพื่อให้คนดูรู้สึกผูกพันกับทหารเหล่านี้มากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นหนังอัดฉากแอ็กชั่นเข้ามาทั้งห่ากระสุนยิงกันจนหูดับตับแล่บ และหนังยังทำให้คนดูลุ้นไปกับวินาทีชีวิตของการเอาตัวรอดของนายทหาร โดยฉากนี้ลากยาวนานมากกว่า 1 ชั่วโมง ผู้กำกับค่อนข้างเก่งมากในเรื่องของการสร้างความระทึกและทำให้คนดูลุ้นตามไปแบบชนิดที่ว่าลืมหายใจกันเลยก็ว่าได้ในเรื่องของงานภาพหนังมีการถ่ายภาพในจอกว้าง ก็เห็นบรรยากาศรอบ ๆ ของภาพยนตร์ได้อย่างที่เต็มที่ และบรรยากาศที่สวยงามเหล่านั้นก็แฝงไปด้วยความอันตรายจากสงครามที่กำลังเกิดอยู่หากพูดถึงนักแสดงบอกเลยว่าทุกคนเล่นได้สมบทบาทเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะพระเอกหนุ่มมาร์คซึ่งเขาค่อนข้างมีชื่อเสียงในการเล่นและรับบทหนังที่สร้างจากเรื่องจริง การแสดงในทุกๆเรื่องของเขาพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก ผมติดตามผลงานของเขาได้หลาย ๆ เรื่องก็ทำให้ผมรู้สึกว่าอินไปกับการดูเขาแสดงบทบาท และไม่เคยรู้สึกว่าติดภาพลักษณ์เขาจากภาพยนตร์เรื่องเก่าเลย คือทุกครั้งที่เขาแสดงแล้วใหม่เขาก็สามารถสลัดคราบบทบาทในภาพยนตร์เรื่องที่เค้าเคยแสดงได้อย่างปลิดทิ้งภายใน 5 สัปดาห์หลังสามารถทำรายได้ไปถึง 94 ล้านเหรียญ และหนังยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ด้วย และที่สำคัญหนังได้รับคำวิจารณ์ว่าเป็นหนึ่งใน 10 ของภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมได้หลาย ๆ สถาบันคะแนนเนื้อเรื่อง 9/10 แม้ว่า 45 นาทีแรกจะมีความจำเป็นในเรื่องของการปูพื้นตัวแสดงให้คนดูได้รู้จักและอินไปตามกับพวกเขา แต่ผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะนานไปหน่อย แม้ว่ามันจะไม่ได้น่าเบื่อมาก คือผมเองก็ตั้งใจมาดูความแอ็คชั่นและการเอาตัวรอดก็เลยรู้สึกเซ็งนิดหน่อยครับ แต่หลังจากนั้นก็ต้องให้อภัยในความน่าเบื่อช่วงแรกไป เพราะหนังอัดความมันส์และความลุ้นระทึกมาแบบไม่ต้องหายใจหายคอกันเลยข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1.ถ้าไม่มีใครช่วยก็ต้องดูแลกันเอง นี่เป็นเรื่องปกติของการเข้าไปทำภารกิจของทหาร บางครั้งการขอความช่วยเหลือก็อาจจะเป็นไปไม่ได้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและสิ่งที่ทหารต้องมีคือไหวพริบในการเอาตัวรอด และเทคนิคที่จะใช้ในการฟันฝ่ามาให้ได้2.ได้เห็นการฝึกของหน่วยทหารที่หนักมาก ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมพวกนายทหารหน่วยซีล ถึงมีความเก่งกาจมากขนาดนี้ เพราะว่าพวกเขาถูกฝึกหนักแล้วโหดแถมยังลำบากมากๆ และหนังเผยให้เห็นความเสียสละของทหารเพื่อประเทศชาติอีกด้วยสำหรับใครที่ชอบภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงมีบทที่ดีและทำให้คนดูลุ้นไปกับการเอาตัวรอดของพวกกลุ่มทหารซึ่งไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภายนอกเลย ทุกอย่างต้องใช้ประสบการณ์และความเฉลียวฉลาดเท่านั้น ก็ลองมาดูกันนะครับเครดิตภาพปก Facebook Officialเครดิตภาพที่1 Facebook Officialเครดิตภาพที่2 Facebook Officialเครดิตภาพที่3 Facebook Official