จากการตีความของผู้กำกับ ลีห์ แวนเนลล์ ที่อยากจะเล่าเรื่องราวให้มนุษย์หมาป่าในภาคนี้ กลายเป็นหนังที่เรียกคะแนนความสงสาร ให้กับครอบครัวของเขา ที่เราจะเห็นผู้หญิงคนนึงจับมือลูกของเธอและภาพพื้นหลังเป็นสีดำกลางป่าเขาผ่านหมอกจางๆ กำลังวิ่งหนี บอกเล่าเรื่องราว ความรัก ความเจ็บปวด กับบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถ หยุดยั้งหรือห้ามมันได้ ให้กลายเป็นที่มาของสัตว์ร้าย สุดคลาสสิคอย่าง มนุษย์หมาป่า ในเรื่องนี้ ที่เราจะไม่ได้เห็น ด้านความเท่ และ ดูดีอยู่ข้างเดียว ของการแปรงร่าง เป็นมนุษย์หมาป่า เหมือนในเรื่องที่ผ่านๆมา แต่เรื่องนี้ยังคงให้เห็น ความก่ำกึ่งระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ที่กำลังถูกด้านมืดกลืนกิน จนลืมสัญชาตญาณ ความเป็นมนุษย์ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! จากความน่าสนใจในผลงานที่เคยกำกับ เรื่อง มนุษย์ล่องหน มาก่อนหน้านี้ ทำให้เป็นตัวกระตุ้นอย่างดี ว่าเรื่องนี้จะเป็นแบบไหน บวกกับเราก็เป็นหนึ่งในขวัญใจเจ้าประจำ มนุษย์หมาป่า มาก็หลายเรื่องตัวอย่างเช่น แวมไพร์ทไวไลท์ หรือว่า แวนเฮลซิ่ง ซึ่งเราก็จะเห็นเขาแปลงร่างออกมาแบบเท่ๆ ให้เราได้ทึ่งกับรูปลักษณ์ที่เผยโฉมออกมา แต่คงจะไม่ใ่ช่กับ วูลฟ์-แมน เรื่องนี้ เพราะสังเกตุให้ดีๆ เพราะถึงมีสาเหตุจากการโดนกัดหรือโดนขวน เหมือนกัน แต่ผลลัพท์ของเรื่องนี้ออกมาให้เราแปลกใจและแปลกตาดูแล้วขนแขนสแตนอัพ คือให้ความรู้สึกว่าน่ากลัวตั้งแต่แรกเห็น และก็คงจะไม่น่าพิศมัยตั้งแต่แรกเจอ ซึ่งบอกได้เลยว่าชอบมาก เพราะถ้าทำเหมือนกันหมด คนดูก็คงจะรู้สึกเบื่อ เพราะให้ค่ากับภาพลักษณ์มากเกินไป มันดูไม่สมจริง ซึ่งจะแตกต่างกับมนุษย์หมาป่าในภาคนี้ จะมีความใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด คล้ายๆกับการถูกหมากัด แล้วถ้าไม่รีบไปรักษาอาการก็คงจะใกล้เคียงหรือเหมือนๆกัน กับภาพที่ปรากฎในเรื่องนี้ เรื่องราวบอกผ่านสองพ่อลูก เมื่อครั้งที่เขายังเด็ก ที่ได้ใช้เวลาร่วมกันกับพ่อของเขาในกระท่อมชายป่าชนบทแห่งหนึ่ง ที่มีวิวหลักล้านไกลสุดลูกหูลูกตา และทำให้เราได้เห็นไปด้วยพร้อมกัน ก่อนที่พวกเขาจะไปออกล่าสัตว์ สิ่งที่หนึ่งที่เขารู้อยู่แก่ใจ ว่าในป่าแห่งนี้ ยังมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่ และเขาต้องจัดการมันให้ได้สักครั้ง โดยที่ไม่ได้บอกให้ลูกของเขารู้ ว่ามันยังมีอยู่จริงหรือไม่ จนกระทั่ง เบลค (รับบาทโดย คริสโตเฟอร์ แอ๊บบอท) โตพอ ที่จะแยกตัวออกมาก่อนที่ภายหลังเขาจะรู้ว่า พ่อของเขาเสียชีวิตแล้ว โดยที่ยังไม่ทราบสาเหตุจริงๆ ว่าตายหรือหายสาปสูญกันแน่ อันนี้จะเรียกว่าเป็นจุดพลิกผันของตัวละคร เลยก็ว่าได้ ที่เราพอจะคาดเดาได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับพ่อของเขากันแน่ ซึ่งถ้าเรามองย้อนไปที่ต้นเรื่อง เราจะเริ่มสะกิดใจแล้วว่ามันต้องใช่แน่เลย บทเด่นบทนำไม่ใช่ใครหลังจากกลางเรื่องเป็นต้นไปได้นักแสดงฝ่ายหญิง ชาร์ลอตต์ (จูเลีย การ์เนอร์) เป็นตัวสานต่อ ให้เนื้อเรื่องดำเนินต่อไปอย่างระทึกอกสั่นขวัญหายกับสิ่งที่เธอไม่อาจคาดคะเนได้ว่า จะทำอย่างไรต่อไปกันสิ่งที่เกิดขึ้น กับคนรักของเธอ รวมทั้งขณะเดียวกัน ก็ต้องปกป้องลูกของเธอไม่ให้ มีอันตรายไปพร้อมกันด้วย เราจะได้เห็นพัฒนาการการเปลี่ยนแปลงไปทีละนิดของการกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่า ที่ค่อยๆให้เราได้เห็นได้ติดตามและขนลุกไปตามๆกัน จนกลายเป็นมนุษย์หมาป่าในที่สุด สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการเผชิญหน้าตรงๆ ในขณะที่จิตสำนึกส่วนลึกๆยังคงจำได้ ให้เรารู้สึกลุ้นไปด้วยว่านางจะโดนขย้ำไหมกับฉากนี้ มันชั่งปวดร้าวไปกับความรู้สึกที่หดหายไปของคนรักกลายเป็นสัตว์ป่าหื่นกระหายกลิ่นคาวเลือดอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่ทุกเรื่องของหนังสยองขวัญที่อยากจะเชียร์ให้ดู แต่มันคือหนังคลาสสิค ที่ไม่น่าพลาด ดูได้ไม่ถึงกับเลือดสาดคาจอ อย่างหนังเทอร์ริไฟเออร์ แต่แฝงความอบอุ่นนิดๆ ความห่วงใยหน่อยๆ ให้เราได้สัมผัสถึงเจตนาในการสื่อของภาคนี้ ป.ล กับฉากสวยๆวิวดีๆ อากาศสดชื่น ชวนอยากให้ฝุ่น พี เอ็ม บ้านเราจางหายไปไวๆ จังเลย TT ภาพประกอบบทความ universal picture (1) blumhouse (2)(3)(4)(ภาพปก) เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !