รีวิวหนัง "Freakier Friday ศุกร์สยอง สี่ร่างสลับรุ่น" อรรถรสเพลินยืนหนึ่ง ดุจสร้างภาคต่อเพื่อดักแก่

นี่จะเป็นช่วงเวลาที่ทำให้รู้สึกเหมือนถูกดักแก่ยังไงก็ไม่รู้ เพราะเป็นโมเมนต์ที่เต็มไปด้วยคอนเทนท์หวนอดีต รำลึกถึงวันวาน ถูกปลดปล่อยออกมาต่อเนื่องกันแทบจะทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่าถ้าใครทันดูภาคก่อนหน้าที่ของหนังเล่านี้..ก็คือไม่เด็กแล้วจริง ๆ และในวีคนี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่จะมาจับแก่พวกคนเจนเอ็กซ์-เจนวายอีกหนใน "Freakier Friday ศุกร์สยอง สี่ร่างสลับรุ่น" ภาคต่อหนังสลับร่างหรรษาของดิสนีย์ ที่หวนกลับมาสู่จอใหญ่ในรอบ 22 ปีเต็มแบบพอดิบพอดีเลย
หลายปีหลังจาก เทส กับ แอนนา ผ่านพ้นช่วงแห่งวิกฤตแห่งตัวตนกันมาแล้ว ตอนนี้แอนนามีลูกสาวหนึ่งคนและกำลังจะรับลูกเลี้ยงอีกหนึ่งคน จากการพบรักครั้งใหม่กับคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวเช่นเดียวกับเธอ แต่ในระหว่างที่พวกเขาเผชิญกับความท้าทายมากมายของการที่สองครอบครัวต้องกลายเป็นทองแผ่นเดียวกัน เทสและแอนนาก็ค้นพบว่าการสลับร่างอาจจะเกิดขึ้น..อีกครั้ง และในครั้งนี้มันน่าจะโกลาหลยิ่งกว่าเมื่อในอดีตที่พวกเธอเคยพานพบผ่านมา
ถ้าหากว่าย้อนกลับไปในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ในปี 2003 แล้วละก็ โลกกำลังได้รู้จักกับหนังสลับร่างฉบับรีเมคปัดฝุ่นใหม่ อย่าง Freaky Friday กันเป็นวงกว้าง นี่คือหนังที่ดัดแปลงสร้างมาจากนิยายแฟนตาซีครอบครัวของ แมรี่ รอดเจอร์ส ที่แม้ว่าจะเคยถูกสร้างเป็นหนังมาแล้วหลายเวอร์ชัน แต่ฉบับยุค Y2K อันนี้เป็นที่น่าจดจำเป็นที่สุด และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เรื่องราวนี้ได้รับการพัฒนาสานต่อออกมาเป็นภาคที่ 2 คลอดออกมาเป็น Freakier Friday ที่ร้อยเรียงเรื่องราวต่อเนื่องจากในอดีต แม้ว่าเวลาจะผ่านล่วงเลยไปหลายปีแล้วก็ตาม
"นิชา แกนาตรา" ผู้กำกับหญิงสายเกิร์ลพาวเวอร์ส กระโจนมารับหน้าที่ดูแลงานสร้างหนังเรื่องนี้ โดยที่ดิสนีย์ได้จ้าง "จอร์แดน เวสส์" มือเขียนบทดาวรุ่งเจนวาย ที่แจ้งเกิดมาจากซีรีส์ Dollface มาทำหน้าที่ละเลงสร้างเรื่องในภาคต่อครั้งนี้ ในแง่ของบทหนังก็ถือว่า Freakier Friday ยังคงใช้เส้นเรื่องบทพื้นฐานของต้นฉบับมาใช้อยู่ เพียงแต่ว่าหยิบเอาตัวละครดั้งเดิมมาแต่งเติมมิติและชั้นเชิงให้มีชีวิตไปต่อได้สวย ๆ ด้วยสีสันที่เปล่งประกาย กลายเป็นสูตรสำเร็จที่ยังคงเวิร์กและใช้ได้เหมือนเคย เป็นสิ่งที่อาจจะดูซ้ำ ๆ แต่ปรับแต่งออกมาได้น่าเชยชมแบบมีสไตล์
ขณะที่วิสัยทัศน์ในแง่งานสร้างของ นิชา แกนาตรา ก็ค่อนข้างเคารพต้นฉบับเช่นเดียวกัน หนังเรื่องนี้ก็ไม่ต่างกับการมาเพื่ออัปเกรดเวอร์ชันให้ทันสมัยขึ้น ผ่านเรื่องราวของสาว ๆ ที่เติบโตกันไปอีกขั้น ซึ่งท่วงท่าทำนองนี้ไว้วางใจผู้กำกับหญิงคนนี้ได้เลย เธอสร้างใส่ความเป็นผู้หญิง ความเป็นแม่ และความเป็นครอบครัว ประกอบรวมร่างกันออกมาได้อย่างกลมกล่อมและอบอุ่นด้วยดี บนกลิ่นอายพื้นฐานของความดิสนีย์จ๋า ๆ ที่แทบไม่ได้สร้างความใหม่ใด ๆ ให้คนดูเลยก็ตาม
แต่กระนั้นก็กลายเป็นว่าหนังแบบ Freakier Friday นี่แหละ ที่เป็นคอนเทนท์ที่ขาดหายไปจากวงการหนังไป ณ ห้วงเวลาหนึ่งแล้ว เป็นหนังทุนสร้างระดับปานกลางที่ไม่ค่อยมีใครสนใจอยากจะลงทุนสร้าง เป็นหนังพล็อตง่าย ๆ ที่บางสตูดิโอไม่กล้าเสี่ยงจะสร้างออกมาฉายโรง นี่จึงกลายเป็นการทวงคืนและเรียกเสน่ห์ของหนังทำนองนี้ได้หวนกลับมาเติมหัวใจฟูฟ่องได้อีกครั้ง หลังจากที่มันค่อนข้างแห้งหายไปบนบ็อกซ์ออฟฟิศทั่วโลกมานานหลายปีแล้ว
ทางด้านองค์ประกอบงานสร้างและเทคนิคต่าง ๆ ก็คือสูตรดั้งเดิมความเป็นหนังดิสนีย์จริง ๆ เพราะนานทีพวกเขาจะได้มีโอกาสได้หวนกลับมาหยิบจับสร้างอะไรแบบนี้ หนังชีวิตฟุ้ง ๆ ที่ไม่ได้เว่อวังระดับเจ้าชายเจ้าหญิง หรือไม่ได้ระเบิดภูเขาเผากระท่อมใส่กัน ทำให้ทุก ๆ เม็ดของหนังเรื่องนี้หวนกลับมาอยู่ในพื้นที่เซฟโซนที่ทำให้อบอุ่นด้วยดี หยอดใส่เสน่ห์ของงานออกแบบโปรดักชัน สร้างฉาก และเซ็ตมุมแบบง่าย ๆ ที่คุ้นเคย ร่วมด้วยเสื้อผ้าหน้าผมสไตล์หนังสาว ๆ ของดิสนีย์ที่ให้ได้หวนคืนฟีลวันวานได้เบา ๆ
และแน่นอนว่าไฮไลต์เด็ดของ Freakier Friday ก็คือทีมนักแสดง เพราะได้ตัวมัมคนดีคนเดิม และอีกหลาย ๆ คน หวนกลับมารับบทเดิมที่ได้แก้กระหายความคิดถึงแบบยกใหญ่ "เจมี ลี เคอร์ติส" กับ "ลินด์เซย์ โลฮาน" ยังคงสดใสเหมือนเดิม มีแค่เพียงอายุของพวกเธอทั้งนั้นที่เปลี่ยนผันไปตามเวลา ทักษะและอินเนอร์การแสดงของพวกเขายังหมัดใจคนดูและยึดพื้นที่หนังเรื่องนี้เอาไว้ได้อย่างทรงพลัง เป็นคู่ขาที่ทำการแสดงออกมาได้ระดับมืออาชีพ
ลีลาการสลับร่างสลับบทย้อนวัยของพวกเธอก็ยังจัดจ้านด้วยดี เพราะยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้น ก็ได้หวนกลับไปเป็นเด็กสาวอีกครั้ง มันก็ไม่ต่างกับพรจากสวรรค์ที่ประทานมาให้ พวกเธอทั้งคู่จึงจัดหนักจัดเต็ม และเป็นคู่ดูโอ้ที่ทำให้คนดูเพลิดเพลินไปกับการแสดงของคนทั้งสอง แบบที่ไม่อาจจะละสายตาได้เลย พร้อมกับยังช่วยผลักดันให้ "จูเลีย บัตเตอร์ส" กับ "โซเฟีย แฮมมอนด์" ดารารุ่นน้องที่เข้ามาเสริมอีกคู่ ไม่จมไม่หายไปจากหนัง เป็นแพ็ค 4 คนที่รวมพลังความเป็นหญิงบนจอใหญ่ได้อย่างทรงประสิทธิภาพที่ชวนมอง
"แมนนี จาซินโต" ก็เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และกล้ามมัดแน่น ๆ ของเขา พร้อมกับทีมนักแสดงดั้งเดิมชุดใหญ่ที่โผล่มาสร้างสีสันและเป็นอีสเตอร์เอ้กให้กับบรรดาคนแก่ที่เคยทันดูเมื่อเวอร์ชันที่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น "มาร์ค ฮาร์มอน", "คริสตินา ไวดอล", "เฮลีย์ ฮัดสัน", "ลูซิล ซุง", "ไรอัน มัลดารินี", "สตีเฟน โทโบโลวสกี" และพ่อหนุ่มหล่อผมบลอนด์ในตำนาน "แชด ไมเคิล เมอร์เรย์" ที่เปล่งประกายเป็นแคสติ้งที่น่าจดจำอีกเรื่องของปีนี้เลยทีเดียว
เอาเป็นว่า Freakier Friday ที่หวนกลับมาสานต่อเรื่องราวอลเวงของพวกเธออีกครั้งในหนนี้ ไม่ได้มีหน้าที่แค่เพียงดักแก่คนบางกลุ่มเท่านั้น แต่เป็นหนังที่หวนมาเพื่อสร้างความบันเทิงที่ทำให้หัวใจรู้สึกพองโตได้อีกหน โดยที่ไม่จำเป็นต้องย้อนกลับไปดูภาคที่แล้วก่อนก็สามารถเพลินไปกับสตอรี่ล่าสุดนี้ของพวกเธอได้เช่นกัน อาจจะยังไม่ใช่หนังที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านแต่อย่างใด ๆ แต่ประสิทธิภาพของหนังเรื่องนี้ค่อนข้างทรงพลังกับแฟน ๆ หนังที่เคยติดตามทันจากภาคก่อน กลั่นกรองออกมาเป็นหนังที่พรั่งพรูด้วยอรรถรส ความคิดถึง และความอบอุ่นคุ้นเคย เป็นการเรียกคืนเสน่ห์ที่โหยหาและมันได้หายไปสักพัก เป็นการคัมแบ็กที่กำลังกลมกล่อมดี
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Freakier Friday ศุกร์สยอง สี่ร่างสลับรุ่น
- ประเภท: แฟนตาซี / ตลก / ครอบครัว
- ผู้กำกับ: นิชา แกนาตรา
- นำแสดงโดย: เจมี ลี เคอร์ติส, ลินดซีย์ โลฮาน, จูเลีย บัตเตอร์ส, โซเฟีย แฮมมอนด์ส
- ความยาว: 100 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 7 สิงหาคม 2025
Movie.TrueID METRIC: Freakier Friday ศุกร์สยอง สี่ร่างสลับรุ่น
- ⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.8/10)
- การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8.4/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.8/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7.0/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa