วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา เป็นหนังสือรวมเรียงความ เรื่องสั้น และบทกวี จากการประกวดงานเขียนเรื่องเล่าจากบ้านเรา ประกอบด้วยระดับชั้นประถม มัธยม มหาวิทยาลัย และบุคคลทั่วไป ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา (จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย) จัดทำโดยสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา เป็นหนึ่งในกิจกรรมสร้างความเข้าใจ และบอกต่อเรื่องราวดี ๆ ในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ โดยเลือกวิธีเล่าผ่านงานวรรณกรรม ที่ชวนอ่าน เรียบง่าย ทว่าจริงใจ ผู้อ่านจะได้เข้าใจสภาพความเป็นอยู่ วิถีชีวิต ตลอดจนวัฒนธรรม ของผู้คนในพื้นที่แบบแนบเนียน ไม่รู้สึกยัดเยียด ผ่านเรียงความ และตัวละครในเรื่องสั้น หรือบทกวี ซึ่งจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 4 ภาพโดยผู้เขียนเรื่องเล่าจะช่วยสร้างความเข้าใจได้อย่างไร?ย่อมเกิดคำถามว่า เรื่องเล่าจะช่วยสร้างความเข้าใจได้อย่างไร? ในเมื่อบางเรื่องก็เป็นเรื่องแต่ง ในหนังสือเล่มนี้ อ.สถาพร ศรีสัจจัง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (พ.ศ.2548) ได้เขียนเป็นบทความซึ่งลงตีพิมพ์ในเล่มชื่อว่า เมื่อ “เรื่องเล่า” กลายเป็นพลังแห่งอำนาจ : จาก ‘เรื่องดีๆ’ ถึง ‘เรื่องเล่า’ – “จากบ้านเรา” ใจความตอนหนึ่งว่า... “...ดร.ธงชัย วินิจจะกุล นักกิจกรรมรุ่น “6 ตุลาฯ” (2519) นักวิชาการสาขาประวัติศาสตร์ร่วมสมัยของไทย (ข่าวว่าเป็นอาจารย์สอนหนังสือและทำวิจัยอยู่ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ประเทศสหรัฐอเมริกา – (ถ้าจำผิดก็ขออภัย) ก็เคยให้นิยามความหมายคำ “เรื่องเล่า” ไว้อย่างน่าสนใจว่า: “เรื่องเล่าเป็นเรื่องราว (ซึ่งมีความหมายถึงเรื่องจริงและเรื่องแต่ง) ที่ถูกคัดเลือกหรือเลือกสรรจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยการอธิบาย จัดลำดับความรู้ และสร้างความสัมพันธ์ ระหว่างชุดลำดับเหตุการณ์ (A series of Event) ที่ถูกคัดเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผลอย่างมีลักษณะต่อเนื่อง และนำเสนอข้อมูลซึ่งมี โครงเรื่องหรือ plot เป็นตัวกำหนดความหมาย ความเข้าใจ และการรับรู้ โดยการสร้างความสัมพันธ์ของเหตุการณ์ในลำดับเวลาชุดเดียวกัน โดยมีจุดเริ่มต้น กึ่งกลาง และจุดจบ และการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยย่อย (part) กับองค์รวม (Whole)” (“ผู้ร้ายในประวัติศาสตร์ไทย กรณีพระมหาธรรมราชาผู้ร้ายกลับใจหรือถูกใส่ความโดย plot ของนักประวัติศาสตร์” ใน ไทยคดีศึกษา : “รวมบทความทางวิชาการเพื่อแสดงมุทิตาจิตอาจารย์พันเอกนิออน สนิทวงศ์ ณ อยุธยา”. กรุงเทพฯ:อมรินทร์พริ้นติ้ง กรุ๊ป จำกัด, 2533 หน้า 185.) ภาพโดยผู้เขียนเรื่องเล่าชวนอ่าน ดั่งมอบดอกรักเรื่องเล่าในหนังสือเล่มนี้ ผู้อ่านจะได้พบความหลากหลายของอารมณ์ และกลยุทธ์การเล่าเรื่อง เพราะมีทั้งรุ่นเล็ก ระดับประถม ที่เขียนเรียงความด้วยภาษาซื่อ บอกเล่าเรื่องราวใกล้ตัวอย่างตรงไปตรงมา อย่างเรียงความเรื่อง ‘อยู่กับยาย’ ของน้องพณิชยา เพ็ชรเทพ ตอนหนึ่งว่า “...ยายเดินจูงวัว ส่วนฉันก็เดินถือเสบียงและน้ำ ระหว่างทางฉันก็เดินเล่นมากับลูกวัว ฉันแค่อยากจะลูบหัวมัน แต่มันก็วิ่งหนีไปตลอด เราเดินมาจนถึงทุ่งนา พระอาทิตย์กำลังขึ้นพอดี ช่างเป็นภาพที่สวยงามมาก ยายจูงวัวไปปักที่ริมคันนา และยายก็เริ่มใช้แกะเก็บข้าวทีละรวง...” เรื่องนี้ผู้อ่านซึ่งเป็นคนนอกพื้นที่จะเห็นได้ว่า ชายแดนใต้ ไม่ได้มีแค่ทะเล และสวนยางพารา การทำนา ก็คือหนึ่งในอาชีพหลัก และการเก็บข้าวของชาวชายแดนใต้ ใช้แกะ เครื่องมือคล้ายกรรไกร เก็บที่ละรวง ไม่ได้เกี่ยวทั้งกออย่างภาคกลาง ภาคอีสานในระดับบุคคลทั่วไปก็มากด้วยฝีไม้ลายมือ อ่านสนุก ได้อรรถรส ครอบคลุมทั้งวัฒนธรรมพุทธ จีน อิสลาม ผู้อ่านจะได้เห็นฉากย่านการค้าชาวจีน ความร่วมมือของชนสองศาสนาในกิจกรรมต่างๆ พิธีเข้าสุหนัต หรือขลิบปลายอวัยวะเพศชายว่ามีความเชื่ออย่างไร เป็นต้น ภาพโดยผู้เขียนวันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา เมื่อคุณอ่านแล้วคำบางคำที่ว่า เด็กพื้นที่พูดไทยยังไม่ชัดเลย จะเขียนหนังสือออกมาได้อย่างไร มลายหายไป และความรู้สึกดี ๆ จะเข้ามาแทนที่ แต่อย่างที่บอก ผลงานในหนังสือมีงานเขียนหลายระดับแตกต่างกันในช่วงวัย แต่ได้แยกหมวดหมู่ชัดเจนแล้ว ผู้อ่านจึงจะได้รับรสในหลายๆ มุมมอง และหลายอารมณ์การเล่าเรื่อง สนใจอ่านหนังสือ วันที่ความรักผลิบาน ณ บ้านแห่งเรา สามารถติดต่อขอรับฟรี! ได้ที่ สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม http://ocac.go.th/ โทร. 02 209 3734