รีเซต

ใบเตย ตัดใจไม่ต่อสัญญา ขอ 'เฮีย' ซื้อลิขสิทธิ์เพลง-สกุลอาร์สยาม เดินหน้าอิสระ

ใบเตย ตัดใจไม่ต่อสัญญา ขอ 'เฮีย' ซื้อลิขสิทธิ์เพลง-สกุลอาร์สยาม เดินหน้าอิสระ
มติชน
20 เมษายน 2565 ( 14:06 )
55

‘ใบเตย’ ไม่ต่อสัญญา ขอ ‘เฮีย’ ซื้อลิขสิทธิ์เพลง กับสกุลอาร์สยามออกมาเป็นอิสระ

แม้จะหายป่วยจากโควิดแล้ว แต่กระนั้น ใบเตย อาร์สยาม ที่ไปร่วมบวงสรวงละคร ‘บัลลังก์ลูกทุ่ง’ ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เช้าวันนี้ (20 เมษายน) ให้สัมภาษณ์ว่า ถึงตอนนี้ยังมีอาการไออยู่บ้าง ทัังยังเหนื่อยหอบ ผมก็ร่วงหนัก รวมถึงยังมีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องคอและการใช้เสียงมาก

“ล่าสุดไปเล่นคอนเสิร์ตก็รู้สึกเลยว่าร้องเพลงโคโยตี้ค่ะพี่ ไม่ถึงแล้ว ขึ้นเสียงสูงไม่ได้”

อาการที่เกิดขึ้นนี้ ใบเตยยอมรับว่ารู้สึกกังวล แต่คงต้องทำใจรอ เพราะเท่าที่ปรึกษาแพทย์ได้คำตอบว่าประมาณ 3 เดือนทุกอย่างน่าจะกลับมาโอเค

ใบเตยยังเล่าด้วยว่าตอนป่วยรู้สึกกลัวมาก เพราะเป็นหนัก จึงถึงขั้นร้องไห้

“มันยิ่งกว่าไข้หวัดใหญ่อีกนะ มันทรมาน งงเลย ทำไมครอบครัวเราเป็นกันหนัก”

พอเจอแบบนี้ ใบเตยบอกว่าเธอจึงตัดสินใจบำรุงร่างกาย ด้วยการทานวิตามิน ซึ่งก็เยอะถึงขึ้นวันละ 18 เม็ด

“เพราะใบเตยเจอปัญหาทั้งเรื่องผมร่วง เรื่องเสียง และก็พวกภูมิต้านทานต่างๆ การป่วยครั้งนี้ทำให้รู้ตัวเองเลยว่าใบเตยควรที่จะต้องกินอะไรบ้างแล้ว”

เรื่องผมร่วงใบเตยบอกว่า ที่เธอเจอคือ “ร่วงแบบ แค่แหวกก็หมดหัวเลย อารมณ์แบบต้องใช้มือสาง หรือเวลาสระผม หวีผม แค่ลูบครีมนวดก็หลุดติดมือเป็นช่อ” ซึ่งตอนนี้ก็ดีขึ้นนิดหน่อย

สำหรับเรื่องงาน ที่ล่าสุดรับแสดงละครให้ช่องเวิร์คพอยท์ ใบเตยบอกต้องขอบคุณทางค่ายกับทางเวิร์คพอยท์ซึ่งกว่าข้อตกลงนี้จะเกิด ต้องใช้เวลาคุยกันเป็นปี

“คือมันเป็นเรื่องที่ยากและใช้ระยะเวลาเป็นปีสำหรับการคุยกันของทางผู้ใหญ่ กว่าจะได้ข้อสรุปที่ลงตัว ทั้งเรื่องของเพลง เรื่องลิขสิทธิ์ของแต่ละค่าย รวมถึงเรื่องที่จะแลกเปลี่ยนกัน คือเขาก็สู้รบปรบมือกันมาพอสมควรกว่าจะมีวันนี้ ซึ่งใบเตยรับรู้ รับทราบมาตลอด ก็ดีใจมากค่ะ”

สำหรับสัญญากับอาร์เอส ใบเตยบอกว่าจะหมดในเดือนมิถุนายนนี้ โดยเธอตั้งใจจะผันตัวเองเป็นอิสระ ในส่วนเพลงที่เคยร้องไว้ เธอก็ขอซื้อลิขสิทธิ์มาด้วย

“ซื้อหมดเลยค่ะ เหมา เพราะใบเตยคือนักร้อง ทุกเพลงของใบเตย มันคือเพลงของใบเตย และใบเตยก็คุยกับทางค่ายเอาไว้หมดแล้ว ซึ่งทางนั้นเขาก็โอเค”

การออกมาเป็นอิสระอย่างนี้ ใบเตยบอกว่ารู้สึกใจหาย แต่ไม่ได้มองเป็นการจากลา เพราะว่าก็ยังมีชิ้นงานอีกหลายชิ้นที่ยังมีค้างและจะทำด้วยกันอยู่ อย่างเพลงก็จะมีอีกเพลงที่ออกด้วยกันเป็นเพลงสุดท้าย ขณะเดียวกันก็เริ่มมีที่อื่นติดต่อมาบ้างแล้วเหมือนกัน

เรื่องสกุล ‘อาร์สยาม’ หลังชื่อ ใบเตยบอกว่าเธอจะใช้ต่อไป

“ยังใช้อาร์สยาม ใช้ได้ค่ะ  ซื้อมาหมดแล้ว ซื้อลิขสิทธิ์เฮียมาหมดแล้ว” ใบเตยบอกพลางหัวเราะ

แล้วว่า “เอาจริงๆ ต่อให้ไม่ใช้หรือต่อให้เปลี่ยน ยังไงคนก็ยังคงเรียกใบเตยแบบนั้น เพราะมันคือสิ่งที่ลืมไม่ได้ และตัวใบเตยเองก็ไม่ได้ซีเรียสเลยด้วย”

เมื่อถามถึงกรณีกระเป๋าแบรนด์หรูหายในงานไว้อาลัย แตงโม นิดา ใบเตยถอนหายใจ แล้วบอก “ตัดใจแล้ว เอาจริงๆ เลยนะ ตัดใจตั้งแต่วันนั้นแล้วแหละ เพราะรู้ว่าไม่เจอแน่นอน เนื่องจากวันนั้นคนเยอะมาก และมันก็หายในห้องน้ำด้วย ซึ่งในห้องน้ำมันไม่มีกล้องอยู่แล้ว”

ทัังนี้ใบเตยบอกว่าปกติเธอเป็นคนขี้ลืม และพอทำหายอีกดีเจแมน พัฒนพล สามีก็ “ด่ายับค่ะ” เล่าพลางหัวเราะ

“เขาก็บอกว่า เอาอีกแล้วนะ ไม่เคยระวังอะไรเลย แต่เขาก็รู้อยู่แล้วแหละว่าหายคือหาย หายแน่ๆ”

“เขาก็บอกให้จำ อย่าอ๊อง แต่มันลำบากไงคะ พอเวลาเราถืออะไรหลายๆ อย่างมันก็เลินเล่อ ซึ่งทุกวันนี้คนข้างๆ ใบเตยจะมีสติมากกว่าใบเตย คอยเตือนตลอดว่าอย่าลืม”

“สกิลความลืมก็คือที่สุด ตั้งแต่คบกับพี่แมนปีแรกแหวนเพชรก็หายแล้วค่ะ เนื่องจากเราทำอะไรกันเยอะมากในแต่ละวัน”

สำหรับกระเป๋าใบที่หายไป ใบเตยบอกว่ามูลค่า “แสนสาม แสนสี่ ค่ะ” ซึ่งตอนนี้ก็ได้ซื้อใบใหม่เป็นรุ่นเดียวกันแต่ใหญ่กว่า