รีเซต

"ก๊อต จิรายุ" แชร์ประสบการณ์ฝึกสติ ผ่านการเรียนรู้ลมหายใจ สู่ความสุขที่ไม่มีต้นทุน

"ก๊อต จิรายุ" แชร์ประสบการณ์ฝึกสติ ผ่านการเรียนรู้ลมหายใจ สู่ความสุขที่ไม่มีต้นทุน
CreateHatari
15 มีนาคม 2568 ( 13:00 )
13

หากเอ่ยถึงนักแสดงชายคุณภาพของไทย แน่นอนว่าชื่อของ “ก๊อต-จิรายุ ตันตระกูล” ต้องติดอยู่หนึ่งในนั้นอย่างแน่นอน ซึ่งกว่าที่จะได้มาซึ่งดีกรีระดับแถวหน้าของวงการฯ แบบนี้ เจ้าตัวเผยว่าต้องผ่านการฝึกฝนในหลายๆ ด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่เป็นพื้นฐานของทุกสิ่ง ที่หนุ่มก็อต ให้ความสำคัญคือ เรื่องของ “สติ” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการใช้ชีวิต

"ก๊อต จิรายุ" แชร์ประสบการณ์ฝึกสติ ผ่านการเรียนรู้ลมหายใจ สู่ความสุขที่ไม่มีต้นทุน

โดย “ก็อต” ได้มาเล่าให้ฟังถึงจุดเริ่มต้นของการที่หันมาสนใจเรื่องการฝึกสติ ในงาน Soul Connect Fest 2025 ที่จัดขึ้นที่ สามย่านมิตรทาวน์ ในวันที่ผ่านมา จัดโดย สำนักสร้างเสริมระบบสื่อและสุขภาวะทางปัญญา (สำนัก 11) สสส. ร่วมมือกับภาคีเครือข่าย ว่า

“จุดเริ่มต้นของความสนใจของการเรียนรู้เรื่องสติของผมนั้น ได้เริ่มจากการเรียนรู้เรื่องลมหายใจก่อน เพราะช่วงแรกๆ ของการเข้ามาเป็นนักแสดง  ผมต้องเรียนแอคติ้งคลาส ซึ่งนักแสดงที่เข้าคลาสนี้จะต้องเรียนรู้เรื่องการเคลื่อนไหวร่างกายในหลายรูปแบบ เพื่อให้เราพร้อมในการที่จะต้องไปรับบทเล่นเป็นหลายๆ คน  จึงต้องรู้จักที่จะควบคุมกล้ามเนื้อของตัวเอง ซึ่งก่อนที่จะไปเรียนรู้เรื่องร่างกายทั้งหมดนั้นต้องเริ่มจากที่จุดเล็กๆ คือลมหายใจก่อน แล้วก็ไล่ไปทั้งร่างกาย จึงทำให้ได้เกิดการสังเกตตัวเองทั้งหมด วันนั้นเองที่ได้พบคำตอบว่า เฮ้ย!! ความผ่อนคลายนี้มันคือความสุขที่ได้มาเปล่าๆ เลยนะ ไม่ต้องไปกินน้ำหวานแล้วมีความสุข ไม่ต้องไปเที่ยวทะเลแล้วเราจะสุข เราไม่ต้องไปไหนเลย ไม่ต้องจ่ายตังค์ ไม่มีต้นทุนอะไรเลย เพียงแต่นั่งแล้วผ่อนคลาย  ก็ฉุกคิดขึ้นมาว่าแล้วทำไมพวกเราถึงต้องทำอะไรที่วุ่นวายกันจังนะ เพื่อที่จะได้มาซึ่งความสุข

อีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้ผมได้ตื่นรู้คือ วันนั้นที่เรียน ผมต้องเล่นเป็นมนุษย์ในหลายรูปแบบ พูดให้เข้าใจง่ายคือจะจัดแบ่งคนเป็นใน3 ชนชั้น ชนชั้นผู้นำ ชนชั้นกลาง และ ผู้ตาม โดยวิธีคิด  วิธีใช้ชีวิต  วิธีกิน วิธีควบคุมจิตใจ และ อารมณ์ ของมนุษย์ 3 รูปแบบนี้ต่างกันอย่างสิ้นเชิง  วันนั้นผมนั่งงงเป็นไก่ตาแตกเลยว่า ตัวผมเองจัดอยู่กลุ่มไหน และก็ได้พบตัวเองว่าผมอยู่กลุ่มล่าง เหมือนเราถูกฝึกมาโดยธรรมชาติ ใช้ชีวิตมาในรูปแบบผู้ตามเป็นอัตโนมัติ ชุดความคิดใดๆ วิธีการใช้ชีวิตต่างๆ  ที่ขับเคลื่อนชีวิตมาตลอดทั้งชีวิต จนแทบไม่รู้ตัวว่าเราเป็นแบบนี้ หากไม่ได้เข้าคลาสวันนั้นจะไม่รู้เลยว่าชุดความคิดของเราแบบไหนที่รันชีวิตเราไปแบบออโต้  หลังจากนั้นจึงเริ่มศึกษาว่าคนที่อยู่ข้างบนเราเค้ารู้อะไร แล้วเรายังไม่รู้อะไร จนกลายเป็นว่าเราไปศึกษาคนในกลุ่มต่างๆ  ต่อยอดไปจนถึงศึกษาคนที่ไม่จัดอยู่ในกลุ่มเหล่านี้ไปเรื่อยๆ ทำให้เรากระเทาะเปลือกว่าเราไม่จำเป็นต้องติดอยู่กับระบบอัตโนมัติที่หล่อหลอมเรามาก่อนหน้านี้ เราสามารถเลือกได้นะ  

ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการเรียนรู้ นำพาไปสู่การฝึกฝน โดยจุดเริ่มต้นที่บอกคือสมหายใจ นำไปสู่การเรียนรู้เรื่องสติ ซึ่งคำว่าสติสำหรับผมแล้วเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับชีวิต การฝึกสติคือการเอาสติมาอยู่ในลมหายใจ และลมหายใจนั้นต้องไม่ยึดติดกับเรื่องราวใด หรือสิ่งใด การฝึกสติของผมพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือแบ่งออกเป็น 2 แบบ  หนึ่งคือการไปข้างนอก สองคือการกลับมาข้างใน  การไปข้างนอก เช่นการออกกำลังกาย กับอีกแบบคือการไม่ต้องไปไหน แต่เอาจิตใจเรามาดำดิ่งลึกลงไปอยู่กับลมหายใจที่มันลงไปที่ท้อง และออกมาจากท้องผ่านจมูก นี่คือการดูลมหายใจ นี่แหละครับคือสิ่งที่ผมบอกว่าไม่ต้องมีต้นทุนอะไรเลย และทำให้เกิดการผ่อนคลายได้อย่างแท้จริงครับ”