สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วกับรีวิวหนังจาก Netflix วันนี้มีเรื่อง The Forgetten Battle สงครามที่ถูกลืม มาฝากกันค่ะ เป็นหนังสงครามที่ควรค่าแก่การดู จริงไม่จริง ต้องไปดูกันเอง แต่บอกได้เลยว่าตั้งแต่ปล่อยสตรีมมิ่งมาสามวันก็ติดอันดับ 1 Netflix U.S. อย่างต่อเนื่อง ส่วนบ้านเราตอนนี้กำลังอยู่อันดับสิบ เป็นหนังสัญชาติดัตช์ที่นำเหตุการณ์จริงมาเล่า เรื่องการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยเนเธอร์แลนด์ให้เป็นอิสระภาพ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง บริเวณแม่น้ำสเกลต์ ในเมืองซีแลนด์ ทางใต้ ของเนเธอร์แลนด์ เป็นหนังที่มีทั้งดราม่า ทั้งแอ็คชั่น ตามสไตล์หนังสงคราม ว่ากันว่าเป็นหนัง Dunkirk ดันเคิร์ก เวอร์ชั่นดัตซ์ เกริ่นมาซะอยากดู สนุกมันส์ ลุ้นระทึกแค่ไหน เชิญไปอ่านรีวิวกันก่อนค่ะ The Forgetten Battle | สงครามที่ถูกลืม | De Slag Om De Schelde (2021) จากค่ายหนัง Levitate film ผลงานของผู้กำกับ มัตไทจ์ส ฟาน ไฮจ์นิงเงน (Matthijs van Heijningen) กับนักเขียนบท เพาลา ฟาน เดอร์อุสต์ (Paula van der Oest) หนังได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์จริง เป็นเรื่องราวการต่อสู้ครั้งสำคัญช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ในปี ค.ศ. 1944 ที่ฝ่ายพันธมิตร (อังกฤษ แคนาดา และอเมริกา) ต้องการคืนอิสระภาพให้ยุโรปจากการเข้ายึดครองของเยอรมัน หลังจากที่สามารถคืนอิสรภาพให้ฝรั่งเศสและเบลเยี่ยมได้สำเร็จ ฝ่ายพันธมิตรต้องเร่งหาท่าเรือเพื่อส่งเสบียงให้กองทัพ ซึ่งท่าเรือที่ว่านั่นก็คือท่าเรือแอนต์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม แต่ติดปัญหาไม่สามารถเข้าถึงแอนต์เวิร์ปได้ เพราะเส้นทางน้ำบริเวณแม่น้ำสเกลต์ เมืองซีแลนด์ (เนเธอร์แลนด์) ยังถูกเยอรมันตั้งป้อมอยู่ ซึ่งปฏิบัติการครั้งนี้เกี่ยวโยงกับสมาชิกกลุ่มต่อต้านชาวดัตช์ ทหารนาซี และนักบินเครื่องร่อนของอังกฤษ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ทหารฝ่ายพันธมิตรจะสามารถคืนอิสรภาพให้เนเธอร์แลนด์ได้อย่างไร ต้องไปติดตามกันต่อใน The Forgetten Battle สงครามที่ถูกลืม สามารถรับชมได้ทาง Netflix ผ่านกล่อง TrueID TV ไม่มีพากย์ไทย แต่มีซับไทย 👉 ไฌจ์ส บลูม Gijs Blom รับบทเป็น ฟาน สตาเวเรน ทหารหนุ่มนาซีชาวดัตช์ เป็นคนที่ศรัทธาในลัทธิสังคมนิยม อยากให้มีความเท่าเทียมกันในสังคมจึงเข้าร่วมเป็นทหารนาซี แต่ในภายหลังเมื่อได้เผชิญกับสถานการณ์จริงอันโหดร้ายของสงคราม ความคิดของเขาก็เปลี่ยนไป หนุ่มหน้าหล่อ ไฌจ์ส แสดงดี สีหน้า แววตา แสดงอารมณ์ ความรู้สึกออกมาได้ชัดเจน 👉เจมี แฟลตเทอร์ส Jamie Flatters รับบทเป็น วิลเลียม นักบินเครื่องร่อน หนุ่มอังกฤษผู้มีใจฮึกเหิม กล้าหาญ พร้อมออกรบทั้งที่ชั่วโมงฝึกบินยังมีไม่มาก แต่สามารถบินแบบม้วนลำได้ เขามีสัญญากับพ่อที่เป็นทหารระดับสูงว่าจะกลับบ้านอย่างปลอดภัยในวันคริสต์มาส หนังเรื่องนี้พาคุณไปรู้จักเครื่องร่อน (Glider) ที่ใช้เป็นอีกหนึ่งอาวุธสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง 😱👉ซูซาน แร้ดเดอร์ Susan Radder รับบทเป็น เทินเซีย ฟิสเซอร์ ข้าราชการชาวดัตช์ที่ทำงานในศาลากลางให้นายกเทศมนตรี อาศัยอยู่กับพ่อ ดร. ฟิสเซอร์ (Jan Bijvoet) และน้องชาย ดีร์ก (Ronald Kalter) เทินเป็นชาวดัตช์อีกคนที่หวังให้ฝ่ายสัมพันธมิตรคืนอิสรภาพให้ฮอลแลนด์ คอยปกป้องดีร์ก น้องชายที่แอบต่อต้านพวกเยอรมันอย่างลับ ๆ บุคลิกเป็นคนมุ่งมั่น ใจกล้า มุมานะ รักพ่อและน้องชาย สาวซูซานแสดงได้ดี ประทับใจความสวยแบบเรียบง่าย ดูได้เรื่อย ๆ ไม่เบื่อ 👉ทอม เฟลตัน Tom Felton รับบทเป็น โทนี่ หัวหน้านักบินเครื่องร่อน ที่เป็นคนบังคับเครื่องร่อนนำทหารร่วมชาติมุ่งหน้าไปยืดเมืองอาร์เนมคืน หลายคนคงรู้จักหนุ่มทอมกันดี กับบท มัลฟอย ในเรื่อง Harry Potter เรื่องนี้เราจะได้เห็นหนุ่มทอมรับบทเป็นหัวหน้านักบิน ที่เหล่านักบินให้ความเคารพนับถือ ถึงมาสั้น ๆ แต่การแสดงก็ไม่หน่อมแน้มนะคะ การเล่าเรื่องทำให้อยากรู้ ปะติดปะต่อเรื่องได้น่าสนใจ หนังเริ่มเรื่องจากภาพอนิเมชั่นเล่าเรื่องเส้นทางการต่อสู้ของฝ่ายพันธมิตรในการปลดปล่อยยุโรป ตรงนี้คิดว่าทำได้ดี 👍 ในเรื่องมีสามตัวละครหลักคือสมาชิกกลุ่มต่อต้านชาวดัตช์ ทหารนาซี และนักบินเครื่องร่อนชาวอังกฤษ หนังจะเล่าเรื่องเกี่ยวที่มาที่ไปของตัวละครแต่ละตัว สลับไปสลับมา คิดว่าหนังทำดี ดูแล้วไม่งง บวกกับความที่ไม่รู้เนื้อหาของเรื่องมาก่อน ทำให้หนังน่าติดตาม ยิ่งทำให้อยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ดูจบแล้วอาจมีความคิดนิดนึงว่า ความสัมพันธ์ของแต่ละตัวละครค่อนข้างอ่อน และเป็นไปแบบผิวเผิน แต่บทสรุปตอนท้ายของทั้งสามคน คิดว่าค่อนข้างลงตัว ชอบที่เป็นเรื่องที่อิงจากเหตุการณ์จริงทำให้ยิ่งอยากดู ตัวหนังถ่ายทอดได้ดี ทั้งในสมรภูมิรบที่เต็มไปด้วย ความลำบาก ความกลัว ความอึดอัด ความโหดร้ายของสงคราม ซีนในชีวิตประจำวัน ที่ข้าศึกสามารถมาเคาะประตูบ้านได้ทุกเมื่อ หนังก็ทำดี เข้าถึงอารมณ์คนดู แต่อาจจะยาวไปบ้าง ดูแล้วบางช่วงรู้สึกอยากดูซีนสงครามมากกว่า หนังมีการสอดแทรกความรู้ทางประวัติศาสตร์สงคราม WW2 เรื่องเส้นทางการต่อสู้ของฝ่ายพันธมิตรเพื่อปลดปล่อยยุโรป และล้มล้างเยอรมัน ความแปลกใหม่ของหนังเรื่องนี้คือมีการพูดถึงเครื่องร่อน ที่นำมาใช้ในการสู้รบ ซึ่งมีหนังไม่กี่เรื่องที่หยิบประเด็นนี้มาพูดถึง ส่วนตัวคิดว่าเรื่องราวเกี่ยวกับ WW2 เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ ดูกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ จำลองเมืองซีแลนด์ ย้อนไปในปี ค.ศ. 1944 ได้เหมือนจริง เป็นหนังสงครามในปี ค.ศ. 1944 ดังนั้นภาพเมืองซีแลนด์ (ฮอลแลนด์) จึงต้องจำลองให้ย้อนกลับไปประมาณ 70 กว่าปีที่แล้ว ซึ่งตัวหนังทำออกมาได้สมจริง มุมกล้องสวย ถ่ายทอดได้ครบทุกอารมณ์ของแต่ละซีน ทั้งเศร้า รันทด หดหู่ กลัว พร้อมสู้กลับ เป็นผลงานของ Lennert Hillege NSC ตากล้องชาวดัตช์ ซึ่งการันตีด้วยรางวัลลำดับภาพยอดเยี่ยมจากงาน Nederlands Film Festival 2021 ส่วนตัวประทับใจหลาย ๆ ฉาก ทั้งซีนเครื่องบินตกในน้ำ หรือซีนการลงโทษของนาซี ดูแล้วเวิ้งว้าง หดหู่ จัดว่าเป็นโปรดักชั่นคุณภาพสมกับเป็นหนังร่วมสร้างกับ Netflixซีนสงครามลุ้นระทึก ดราม่าสมจริง รันทด หดหู่ ซีนสงคราม มาครบทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ทางบกนี่ยิงกันตูมตาม ระเบิดสนั่น คนที่กลัวก็กลัว คนที่โหดก็โหดพร้อมฆ่าได้ทุกเมื่อ ทางอากาศ เครื่องบิน บินมาพร้อมกันเป็นฝูงเลย ซีนนี้ Epic มากคิดว่าคนที่ได้เห็นภาพนั้นคงจะตื่นตาตื่นใจไม่น้อย ส่วนทางน้ำก็ลุ้นระทึก แต่ตรงนี้นิดหนึ่งติดใจว่าใกล้กันมาก ทำไมมองกันไม่เห็น ผ่าม!! 😱 แต่โดยรวมถือว่าซีนสงครามดูทุ่มทุน ดูเรียล โชว์ความดราม่า ลุ้นระทึก ให้ได้สะเทือนอารมณ์ไม่เบา https://www.instagram.com/p/CTxw3T2oQ-Z/?utm_source=ig_web_copy_linkเสื้อผ้าหน้าผมย้อนยุค เสียงประกอบชวนลุ้น ฝีมือระดับรางวัลทั้งคู่ หนังจำลองเสื้อผ้าหน้าผมของชาวเมือง ทหารฝ่ายพันธมิตรและฝ่ายเยอรมัน ภาพถ่ายในอดีต ได้สมจริง เพียงแต่ตอนดูอาจจะมีสับสนบางช่วงระหว่างทหารเยอรมันหรือทหารฝ่ายพันธมิตร แต่ดูไปเรื่อย ๆ ความสับสนก็กระจ่างไปเอง 👍 เอฟเฟกต์แผลที่หน้าที่ตัว ขาขาด โดนยิง รวม ๆ ทำดี จนได้รับรางวัลการออกแบบแต่งกายยอดเยี่ยม จากเวที Nederlands Film Festival 2021https://www.instagram.com/p/B3oVAO8lpbU/?utm_source=ig_web_copy_link ปฏิเสธไม่ได้ว่าเสียงเพลงประกอบก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังน่าติดตามและเพิ่มอรรถรสในการรับชม ซึ่งหนังก็ทำออกมาได้ดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเสียงลากเรือ เสียงยิงปืน เสียงระเบิด สมจริง หนังได้รับรางวัลลำดับเสียงยอดเยี่ยม จากงานเดียวกันกับรางวัลเครื่องแต่งกายให้คะแนน 8/10 ถ้าจะให้เทียบกับหนังสงครามอย่างดันเคิร์ก ก็คงต้องบอกว่าห่างกันอยู่พอสมควร ทั้งตัวเนื้อเรื่อง และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ยังไม่เข้มข้นเท่า แต่บทสรุปของตัวละครแต่ละตัวค่อนข้างลงตัว ให้คะแนน 8/10 ใครชอบหนังสงครามก็จัดว่าดูได้ กับเวลา 2 ชั่วโมง 7 นาที สามารถรับชมได้ทาง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีทีวีhttps://www.instagram.com/p/CVILHlAIheG/?utm_source=ig_web_copy_linkเรื่อง : The Forgetten Battle | สงครามที่ถูกลืม | De Slag Om De Schelde (2021) ผู้กำกับ : มัตไทจ์ส ฟาน ไฮจ์นิงเงน (Matthijs van Heijningen)นักแสดงนำ : ไฌจ์ส บลูม, เจมี แฟลตเทอร์ส, ซูซาน แร้ดเดอร์, ทอม เฟลตันแนว : แอ็คชั่น ผจญภัย ระทึกใจ หนังสงคราม อิงจากเหตุการณ์จริงระยะเวลาการรับชม : 2 ชั่วโมง 7 นาที ช่องทางการรับชม : Netflix ผ่านกล่อง TrueID TVเครดิตภาพNetflix YouTube : วีดีโอ1simonleephillips : ภาพปกmatthijsvanheijningen : ภาพ1 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 / ภาพ6 / ภาพ7 / ภาพ8 / ภาพ10 / ภาพ11 gijsblom : ภาพ2Levitatefilm : ภาพ9 / ภาพ12 / ภาพ13 บทความรีวิวหนังอื่น ๆ- Halloween นี้ชวนดู Demon Slayer ดาบพิฆาตอสูร - Halloween นี้ชวนดูหนังแอ็คชั่นทริลเลอร์สุดมัน Captain Phillips- รีวิวหนัง The Insidious Chapter 3 วิญญาณตามติด 3 หนังสุดหลอน- รีวิวซีรีส์ รหัสพันล้านดอลลาร์ The Billion Dollar Code- รีวิวหนัง The Guilty แนวสืบสวน ระทึกขวัญ พากย์ไทยทาง Netflix อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี