รีวิว Zero Day (เจาะระบบโลกสะเทือน) มินิซีรีส์การเมืองน้ำดีสุดเข้มข้นที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ Zero Day (เจาะระบบโลกสะเทือน) เรื่องราวความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอเมริกาหลังจากที่จู่ๆ ก็ถูกโจมตีทางไซเบอร์จนทำให้ระบบทุกอย่างชัตดาวน์ไปนาน 1 นาที ส่งผลให้มีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิตหลายพันคน เหตุการณ์นี้ได้สร้างความหวาดผวาให้กับประชาชน ด้วยเหตุนี้ทางรัฐบาลจึงได้ตัดสินไปทาบทาม George Mullen (รับบทโดย Robert De Niro) อดีตประธานาธิบดีผู้รักชาติให้มารับหน้าที่เป็นหัวหน้าปฏิบัติการซีโร่เดย์ หน่วยงานพิเศษที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อสืบสวนหาคนร้ายผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีทางไซเบอร์ในครั้งนี้ ซึ่งสิ่งที่พิเศษก็คือหน่วยงานนี้ได้รับอำนาจล้นพ้นให้สามารถจับกุมและสืบสวนผู้ต้องสงสัยได้โดยไม่ต้องใช้หมายจับ ส่งผลให้ตกเป็นประเด็นทางสังคมที่มีทั้งกลุ่มคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย โดยทางที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Zero Day (เจาะระบบโลกสะเทือน) ตัวอย่าง Zero Day (เจาะระบบโลกสะเทือน) รีวิว Zero Day (เจาะระบบโลกสะเทือน) สำหรับซีรีส์เรื่องนี้นั้นที่จริงเข้ามาได้ซักพักแล้ว และตัวผมเองก็ดูจนจบไปตั้งแต่ตอนที่มันพึ่งเข้ามาแล้ว เพียงแต่ยังไม่มีเวลามารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันเลยอาจจะดีเลย์ไปซักนิดนึง แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังอยากหยิบมารีวิวอยู่ดี เพราะซีรีส์เรื่องนี้ถือเป็นซีรีส์แนวการเมืองที่สนุกอีกเรื่องเลยอยากแนะนำให้ทุกคนได้ไปลอง บทของซีรีส์เขียนมาค่อนข้างดี แบบดูแล้วรู้เลยว่าเขาตั้งใจทำกันมากๆ รายละเอียดยิบย่อยในเรื่องก็เยอะมาก มีจุดหักมุมพลิกผันอยู่หลายครั้ง สิ่งที่ชอบคือเขาเลือกสร้างตัวละครพระเอกมาให้เป็นนักการเมืองฝ่ายขวา หรือก็คือพวกรักชาติยิ่งชีพ อเมริกามาก่อนเป็นอันดับ 1 หากยกตัวอย่างง่ายๆ ก็คงเป็นแบบทรัมป์ ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของอเมริกา แต่ถึงจะรักชาติเหมือนกัน แต่คาแรกเตอร์ของตัวพระเอกในเรื่องนั้นต่างจากทรัมป์โดยสิ้นเชิง พระเอกในเรื่องเราจะเป็นแนวหนักแน่น มีอดุมการณ์ มีสิ่งที่ยึดถือและพยายามที่จะไม่ข้ามเส้นนั้นไป ทว่าการที่เขามารับตำแหน่งที่มีอำนาจล้นมือก็เปรียบเสมือนบททดสอบของเขาว่าจะรักษาอุดมการณ์ของตัวเอง หรือจะเลือกทำในสิ่งที่ควรทำ จุดนี้แหละที่ทำให้ซีรีส์สนุกขึ้นมาก แต่มันยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากเส้นแบ่งเรื่องความถูกต้องแล้ว พระเอกยังต้องเผชิญกับปมในใจจากอดีตที่เขาเคยทำผิดพลาดเอาไว้ ซึ่งมันจะส่งผลต่อตัวเขาในเรื่องหลังจากที่ได้รับโอกาสมาทำงานทางการเมืองอีกครั้ง อีกทั้งยังมีเรื่องอาการสูญเสียความทรงจำระยะสั้นของเขาที่ส่งผลต่อการทำงานและการตัดสินใจเช่นกัน แถมเขายังเอาประเด็นนี้มาทำให้คนดูได้ตั้งคำถามไปตลอดเรื่องว่าสรุปแล้วเขาเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งเขาทางลงในตอนท้ายแบบคลุมเครือให้เราได้คิดเองว่าสรุปแล้วพระเอกแค่มีอาการทางจิตเพราะปมในดีต+กับอายุที่มากขึ้น หรือว่าเป็นเพราะถูกโจมตีโดยเทคโนโลยีสุดล้ำที่ทำลายเซลล์ประสาทกันแน่ อันนี้ที่เล่ามาคือแค่ปมของพระเอกเท่านั้นนะ ในเรื่องยังมีตัวละครอีกหลายตัวมากๆ โดยแต่ละตัวก็มีปมปัญหาของตัวเองทั้งสิ้น บอกแล้วว่าบทเขาเขียนมาดีและละเอียดมาก เพราะนอกจากปมของตัวละครทุกตัวที่วางมาดีแล้ว เส้นเรื่องหลักที่เกี่ยวกับการเมืองก็ทำออกมาได้ดีมากเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์แนวการเมืองที่เนื้อหาเข้มข้นมากๆ เรื่องหนึ่ง ใครที่ชอบแนวนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วก็น่าจะหลงรักซีรีส์เรื่องนี้ได้ไม่ยาก ทว่าความดีงามของซีรีส์เรื่องนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น เพราะนอกจากเส้นเรื่องที่แข็งแรงแล้ว ทีมนักแสดงในเรื่องที่แคสต์มาก็สุดยอดมากๆ เช่นกัน นักแสดงนำอย่างป๋าโรเบิร์ตนี่สามารถแบกซีรีส์ทั้งเรื่องได้แบบสบายๆ แถมยังได้ประกบคู่กับ Jesse Plemons ที่ขึ้นชื่อเรื่องการแสดงอยู่แล้วมันเลยยิ่งดีไปใหญ่ ซึ่งที่ยก 2 คนนี้มาคือแค่น้ำจิ้มเท่านั้น เพราะถ้าเขียนถึงทุกคนมันคงจะยาวเกินไป เอาเป็นว่าแสดงดีกันทุกคน ในพาร์ทของการแสดงนี่ไม่มีอะไรจะติเลย ส่วนสุดท้ายคือด้านงานภาพและการโปรดักชั่น ส่วนนี้เองก็ทำได้ดีงามมากเช่นกัน งานภาพถ่ายออกมาดีเกือบทุกซีน การตัดต่อและการลำดับภาพก็ดีงามมาก ตัดต่อดีจนบิ้วให้เรารู้สึกระทึกและตื่นเต้นตามไปด้วย งามโปรดักชั่นก็จัดหนักจัดเต็มเหมือนกัน ถือเป็นซีรีส์น้ำดีมากๆ ทุกคนไม่ควรมองข้ามจริงๆ อย่างไรก็ตาม ถึงจากที่เขียนมาทั้งหมดจะมีแต่คำชม แต่ก็ต้องยอมรับว่าผมไม่ได้ชอบมันไปเสียทั้งหมดจนไร้ที่ติ เพราะในส่วนของบทที่แม้จะเป็นการเมืองเข้มข้น แต่ผมก็ยังรู้สึกว่าหลายอย่างมันยังดูซอฟต์ไปหน่อย ไม่ได้ดาร์กหรือโหดอะไรมากมาย เขาเน้นให้ดูแบบสบายๆ สนุกๆ และเป็นซีรีส์ชาตินิยมจ๋าเลย ทำมาเพื่อชาวอเมริกาขนานแท้ แต่คนชาติอื่นก็ดูแล้วสนุกไปด้วยได้นะ ใครที่อยากหาอะไรสนุกๆ ดู ซีรีส์เรื่องนี้ก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดี เนื่องจากมันสั้นๆ เป็นมินิซีรีส์ที่มีแค่ 6 ตอนเท่านั้น แถมยังมีพากย์ไทยอีกด้วย เอาเป็นว่าทุกคนไปดูกันเองดีกว่าจะได้รู้ว่ามันสนุกจริงอย่างที่ผมบอกไหม สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ ฝากกดแชร์ และกดติดตามเพื่อจะได้เห็นบทความใหม่ๆ ของผมในอนาคตด้วยนะครับ ช่องทางในการติดตาม กลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก บทความอื่นๆของ ละเลงหนัง รีวิว Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) ซีรีส์ดราม่าเคล้าน้ำตาจากเกาหลี ชีวิตรักหม่นๆ ของคนในแวดวงหนัง ความรู้สึกหลังดู The White Lotus ซีซั่น 3 ตอนแรก การกลับมาของซีรีส์เสียดสีสังคมน้ำดี และผลงานการแสดงครั้งแรกของ Lisa รีวิว Captain America: Brave New World (กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่) การเปิดตัวกัปตันคนใหม่ที่พอถูไถ ดูได้สนุกเพลินๆ แต่ยังไม่ดีพอจนน่าจดจำ รีวิว Cassandra คาสซานดร้า ซีรีส์บ้านอัจริยะสุดหลอนชวนขนลุก ทำมาดีเกือบหมดแต่ดันสะดุดช่วงท้ายเรื่อง รีวิว Bogota: City of the Lost (โบโกตา: เมืองคนหลง) หนังแอ็กชันอาชญากรรมเรื่องใหม่ของ "ซงจุงกิ" ที่พอดูแก้เบื่อได้สนุกเพลินๆ รีวิว Companion (คอมแพเนียน) หนังไซไฟระทึกขวัญรสชาติจัดจ้าน ผลงานน้ิำดีตั้งแต่ต้นปีที่ทุกคนไม่ควรพลาด รีวิว The Trauma Codes: Heroes on Call (ชั่วโมงโกงความตาย) ซีรีส์ตีแผ่ชีวิตหมอห้องฉุกเฉินที่ดูโคตรเพลินแถมยังได้ความรู้ [มีพากย์ไทย] รีวิว Apple Cider Vinegar (ไอดอลแอปเปิ้ลไซเดอร์) ซีรีส์จากเรื่องจริงของหญิงสาวที่โกหกว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ผลงานน้ำดีเรื่องใหม่ ที่ทุกคนไม่ควรพลาด แหล่งที่มาจาก NetflixMENA, NetflixDE, Netflix, NetflixFR ภาพปก: 1 ภาพประกอบ: 1 / 2 / 3 / 4 วิดีโอ: ZERO DAY | Official Trailer จาก Youtube: AfricaOnNetflix เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !