รีเซต

สู้ชีวิต “แนล BNK” ทำงานขายของแต่เด็กขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน

สู้ชีวิต “แนล BNK” ทำงานขายของแต่เด็กขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน
ดาราเดลี่บันเทิง
2 มิถุนายน 2567 ( 14:30 )
123

สู้ชีวิต แนล BNK” ทำงานขายของแต่เด็กขี่มอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน 

       เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งนักร้องวัยรุ่นที่มีแฟนๆ ติดตามมากสำหรับ 

แนลริยา วิภาคกิจ หรือ แนล BNK” ล่าสุดเพจ ดูBNK48 ทุกวันได้เผยไลฟ์ของไอดอลสาวว่าสู้ชีวิตมาก ต้องขับมอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน

      โดยแชร์ว่าน้ำตาแห่งความดีใจกับเรื่องที่ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครฟัง ชีวิตไอดอลที่ต้องต่อสู้ (ในอดีต) ของ แนลริยา วิภาคกิจ : #BNK48 #NallBNK48

++ทำงานไอดอลตั้งแต่มัธยม

       แนลเล่าว่า ตัวเองเริ่มทำงานไอดอลตั้งแต่ช่วงมัธยม เวลาไปทำงานที่กรุงเทพฯ ก็ต้องนั่งรถตู้ไป แล้วก็ต้องกลับมาเรียนด้วย เช่น ถ้าถึงที่เชียงใหม่ตี 4 พอตี 5 ก็ต้องออกไปเรียน ต้องอาบน้ำสถานที่ซ้อมเลย แล้วก็ออกไปเรียน

      ด้วยความที่พักผ่อนน้อย แนลก็เลยหลับในห้อง จนโดนคุณครูด่าเป็นประจำ แต่คุณครูก็คอยเทคแคร์ดี คอยติวให้เวลาสอบ จนรอดมาได้

       +ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปโรงเรียน

แนลไปโรงเรียนโดยที่ไม่มีใครมาส่ง เพราะพ่อแม่ทำงาน แนลเดินทางไปโรงเรียนด้วยการขี่รถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งมันก็อันตราย

แนลยอมรับว่าช่วงนั้นเหนื่อยมาก เมื่อรู้ตัวว่าขี่มอ'ไซค์ไม่ไหวแน่ จึงจอดพักที่ร้านสะดวกซื้อ เพื่อนั่งกินข้าว นั่งหลับ ขอชาร์จพลังสักพัก แล้วค่อยขี่มอ'ไซค์ไปโรงเรียนต่อ แต่ก็เป็นชีวิตที่สนุกมากๆ เช่นกัน

      +ทุกคนเป็นไอดอลด้วยใจจริงๆ

ช่วงที่เป็นไอดอลครั้งแรกทุกๆ อย่างยังไม่ค่อยลงร่องลงรอยเท่าไร เพื่อนสมัยก่อนคืออดทนกันมากๆ ทุกคนเป็นไอดอลด้วยใจจริงๆ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อะไรตอบแทน เช่น เม็ดเงิน แต่ทุกคนก็เต็มที่มากๆ ทุกคนทำด้วยความชอบ

เป็นสังคมที่ดีมาก สร้างหนูจนมีทุกวันนี้ พอกลับไปคุยกับเพื่อนๆ สมัยก่อนที่ทำงานด้วยกัน ก็ยังคุยกันแต่เรื่องเดิมๆ วนไปวนมา เพราะเราผ่านเรื่องอะไรต่างๆ มาด้วยกัน

ตอนนี้เพื่อนๆ ก็แยกย้าย บางคนก็พยายามในเส้นทางนี้ต่อ แต่ก็มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ทำให้เขาต้องพักไป สุดท้ายก็เหลือแค่หนู

       +อยากให้เพื่อนได้เห็นความสำเร็จ

       แนลบอกว่า พยายามติดตามเพื่อนๆ เสมอในโซเชียล เห็นเพื่อนๆ พยายามในลู่ทางของตัวเอง หลายคนได้ไปเกาหลีเลย เพื่อนสู้ชีวิตมาก ที่ผ่านมาเขาพยายามมาตลอด

      ภูมิใจที่เติบโตมาด้วยกัน เพื่อนหลายๆ คนก็ยังไปต่อ ที่ร้องไห้เพราะเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ และไม่ค่อยได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟัง

       อยากให้เพื่อนได้เห็นว่าหนูก็ยืนถึงจุดตรงนี้แล้วนะ อยากประสบความสำเร็จในที่นี้เหมือนกัน อยากให้เพื่อนได้เห็นว่าฉันก็มาไกลเหมือนกันนะ

       จากวันนั้นที่เราเป็นเด็กน้อย อายุตอนนั้นเพิ่งผ่าน 15 มาเอง และเคยคุยกับเพื่อนๆ เรื่องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเหมือนกัน แต่ตอนนี้กระจัดกระจายกันไปเยอะมาก

​​​​​​