จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์คือศัตรูตัวฉกาจ ที่สามารถคร่าชีวิตคนทั่วทั้งโลกได้เพียงแค่เสี้ยววินาที และหนทางเดียวที่คุณจะมีชีวิตรอดได้ก็คือ ความมืดผมว่าคอหนังน่าจะคุ้นเคยหนังที่มีพล็อตแนวเอาชีวิตรอดกันมาพอสมควรแล้วล่ะ ไม่ว่าจะเป็นการบุกป่าฝ่าดง เหวลึก หนีเสียง หนีการมองเห็น แต่ซีรีส์สัญชาติเบลเยียมเรื่องนี้ เล่นใหญ่จัดหนักด้วยการพาคุณหนีรอดจากดวงอาทิตย์ที่เป็นตัวการสำคัญในการคร่าชีวิตมนุษย์ทั่วโลก ซึ่งหนทางที่คุณจะสามารถมีชีวิตอยู่รอดได้ก็คือ ใช้เครื่องบินในตอนกลางคืนเพื่อบินหนีดวงอาทิตย์ไปทางทิศตะวันตกโดยไร้จุดหมายปลายทางที่แน่นอน แต่มันก็ไม่ได้ง่ายแค่นั้นสิครับ อย่าลืมว่าเครื่องบินไม่สามารถบินได้ตลอดเวลา มันยังต้องการเชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน ทำให้เครื่องบินลำนี้ต้องแวะเติมน้ำมันตามประเทศต่าง ๆ แล้วเรื่องโกลาหลก็ค่อย ๆ เกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็นปัญหาของเครื่องบิน แบ็คกราวน์และอารมณ์ของผู้โดยสารแต่ละคนบนเครื่องที่สอดแทรกด้วยสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างถาโถมเข้ามา ปลายทางของเครื่องบินลำนี้จะเป็นอย่างไร บอกได้เลยว่าคุณจะนั่งดูจนจบ 6 ตอนรวดแบบไม่ลุกไปไหนแน่นอนเหตุการณ์ทุกอย่างมันเริ่มขึ้นที่สนามบินบรัสเซล ประเทศเบลเยียม เริ่มเรื่องด้วยการเผยให้เห็นถึงพื้นหลังที่มาของผู้โดยสารแต่ละคนบนเครื่อง รวมไปถึงกัปตัน และลูกเรือว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง จนกระทั่งมีนายทหารหนุ่มคนหนึ่งจากนาโต (เทแรนซิโอ) ได้เข้ามาปล้นปืนจากตำรวจสนามบิน แล้ววิ่งเข้าไปจี้เครื่องบินลำหนึ่ง ขณะที่ผู้โดยสารกำลังบอร์ดดิ้งกันอยู่ และสั่งให้นักบินนำเครื่องออกโดยทันทีและให้บินไปทางทิศตะวันตกเท่านั้น เพื่อหลบหนีจากดวงอาทิตย์ ทำให้บนเครื่องบินลำนี้มีผู้โดยสาร เพียงไม่กี่คนเท่านั้น แต่หลากหลายสัญชาติ ซึ่งหนังก็จะค่อย ๆ เผยให้เราได้รู้เกี่ยวกับภูมิหลังและปมในใจของผู้โดยสารแต่ละคนบนเครื่องบินลำนี้จุดเด่นหลัก ๆ ของซีรีส์เรื่องนี้เลยก็คือ การเล่าเรื่องที่กระชับไม่ยืดเยื้อ และการสร้างบรรยากาศให้เราไม่สามารถเดาได้เลยว่าตัวละครแต่ละตัวนั้นมันจะดีหรือเลว ถ้าพูดกันง่าย ๆ เลยก็คือเราไม่สามารถเชื่อใจใครได้เลยสักคนเดียว แม้แต่ตัวกัปตันเองที่เป็นคนขับเครื่องบินซีรีส์เรื่องนี้มีเพียง 6 ตอนเท่านั้น โดยจะแบ่งการเล่าเรื่องในแต่ละตอนตามคาแร็คเตอร์หลักของตัวละครทั้ง 6 คน ได้แก่ ซิลวี, ยาคอป, มาธิว อายาซ, ริก และ เทแรนซิโอ แต่ในแต่ละตอนนั้นก็ไม่ได้ลงลึกไปซะทีเดียว โดยเป็นการเล่าเพียงแบ็คกราวน์ของพวกเขาเท่านั้น และก็กลับมาดำเนินตามเส้นเรื่องหลัก ผมว่าซีรีส์เรื่องนี้แค่ได้ฟังพล็อตเรื่องก็น่าติดตามแล้วล่ะ ยอมรับเลยตั้งแต่ Netflix ปล่อยทีเซอร์ตัวแรกออกมา ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอเรื่องนี้อย่างใจจดใจจ่อ ชนิดที่ว่านับวันรอกันเลยทีเดียว ผมว่าพล็อตของมันดูน่าสนใจ แล้วก็แตกต่างไปจากเรื่องอื่นพอสมควรเลย แต่ไม่ถึงขั้นที่ Sci-Fi จนเกินไป แต่ก็ต้องยอมรับว่ายังมีช่องโหว่อยู่บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ผมสามารถมองข้ามมันไปได้ เพราะว่าอะไรรู้ไหมครับ เพราะว่าหนังมันกระชับ เล่าเรื่องไว จนไม่มีเวลาให้ผมคิดตามยังไงล่ะ นอกจากนี้แล้วเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ผมชอบจากเรื่องนี้ก็คือ การเล่าเรื่องผ่านตัวละครที่มีความาหลากหลายทางเชื้อชาติ ซึ่งมันก็จะสอดแทรกความเป็นชาตินิยมได้น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวหลังจากที่ผลตอบรับของซีรีส์เรื่องนี้ดีขนาดนี้ ผมว่าการที่มันจะคลอดซีซั่นต่อไปออกมานั้นเป็นเรื่องที่ไม่ยากเลย แถมมันยังมีการปูเรื่องราวรอเอาไว้แล้วด้วย ใครที่ยังไม่เคยดู คุณสามารถรับชมซีรีส์ Into the Night ทั้ง 6 ตอนได้ทาง Netflix และทางกล่อง TrueID TVขอขอบคุณภาพทั้งหมดจาก Official Trailer Netflix