รับชมภาพยนตร์ “Time Cut – เจาะเวลาฆ่าอดีต” ได้ทาง Netflix (มีพากย์ไทย) https://youtu.be/a8F6yN56zB0?si=CleT_Qx2GTJBWCDc เรื่องย่อ “ลูซี่ ฟิลด์” (รับบทโดย เมดิสัน เบลีย์) เธอมีพี่สาวที่เป็นหนึ่งในเหยื่อของฆาตกรต่อเนื่อง ทุกวันนี้ก็ยังตามจับมันไม่ได้จนผ่านไป 20 ปี วันครบรอบวันตายของ “ซัมเมอร์ ฟิลด์” (รับบทเป็น แอนโทเนีย เจนทรี) พี่สาวที่ลูซี่ไม่เคยแม้แต่จะได้เห็นหน้ากันมาก่อน ได้ไปเคารพหลุมศพ ณ สถานที่เกิดเหตุ จนกระทั่งลูซี่ได้ไปเห็นอุปกรณ์เทคโนโลยีบางอย่างที่มันสามารถย้อนเวลาเธอไปในช่วง 16 เมษายน ปี 2003 หรือก็คือช่วงที่ฆาตกรออกอาละวาดเหยื่อครั้งแรก นั่นจึงทำให้ลูซี่ได้เจอกับซัมเมอร์แบบตัวเป็น ๆ จึงเกิดความลำบากใจว่าเธอจะปล่อยให้เส้นเวลาทำหน้าที่ของมันเหมือนเดิมหรือเปลี่ยนแปลงอดีตเพื่อช่วยเหลือพี่สาวของตัวเองกันแน่ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! นักแสดงหลักในภาพยนตร์ Time Cut – เจาะเวลาฆ่าอดีต https://www.instagram.com/p/C_yXVWlSbIb/?img_index=1 เมดิสัน เบลีย์ รับบทเป็น ลูซี่ ฟิลด์ น้องสาวของซัมเมอร์ ฟิลด์ https://www.instagram.com/p/DAGR8Q0s0N2/?img_index=1 แอนโทเนีย เจนทรี รับบทเป็น ซัมเมอร์ ฟิลด์ พี่สาวของลูซี่และเป็นหนึ่งในเหยื่อของฆาตรกรต่อเนื่อง https://www.instagram.com/p/Coixdrtsb-n/?img_index=1 กริฟฟิน กลัค รับบทเป็น ควินท์ แอบรักซัมเมอร์และคอยช่วยเหลือลูซี่ รีวิวหลังจากดูจบ สิ่งที่ชอบสำหรับเรื่องนี้เลยก็คือ การเล่าเรื่องที่กระชับ รวดเร็ว ไม่ปล่อยให้คนดูอย่างเราดูไปน้ำลายยืดไป แต่เพราะมันไปเร็วมาก จนรู้สึกว่ามันขาดความบันเทิงไปมากเลย แต่เนื้อเรื่องมันไม่ได้แย่หรอก แค่แบบว่าเราก็คาดหวังความสนุก ไม่ว่าจะเป็น ฉากการไล่ล่าของฆาตกร , ฉากวิ่งหนีจากฆาตกร เป็นต้น ซึ่งแอบรู้สึกว่าตัวภาพยนตร์แอบเล่าเรื่องจางไปมาก ทั้งที่ภาพยนตร์จัดไปอยู่ในหมวดหมู่ Horror , Thriller , Sci-Fi แต่ดูเหมือนจะเน้นไปที่ Sci-Fi อย่างเดียวมากกว่า บอกตามตรงแอบเศร้าใจนิดหน่อย และเรื่องที่น่าเสียดายอีกอย่างคือ ตัวภาพยนตร์ไม่ได้เล่นประเด็นความสัมพันธ์ของพี่น้องมากเท่าที่ควร ขยี้ไปได้หน่อยเดียว เราเลยรู้สึกอินกับความสัมพันธ์กับตัวละครไปนิดหน่อยเอง แต่ดีอีกอย่างหนึ่งคือมีปมของตัวละครเข้ามา พอมันเคลียร์ปมปุ๊ป ก็เข้าใจตัวละครมากขึ้น แต่ก็แอบเสียใจอยู่ดี คาดหวังจะได้เห็นความน่ารักของ 2 พี่น้องซะหน่อย ถึงแม้จะมีฉากน่ารักน้อยแต่พวกเขาก็พูดคุยกันบ่อยอยู่เหมือนกัน ก็พอจะถูไถได้อยู่ เรื่องน่าเสียดายต่อมา ฆาตกรโดนเนิร์ฟไปเยอะมาก ดูอ่อนสุด ๆ ดูจะทำอะไรไม่ได้เลย แบบว่าแกจะมีทำไม แต่อย่างน้อยปมของตัวฆาตกรก็ทำให้เราเดาทางผิดเหมือนกันนะ ไม่คิดว่าจะเล่นแบบนี้ ก็แอบรู้สึกตกใจอยู่เหมือนกัน เพราะด้วยมีความผสม Sci-Fi ไปด้วยมันเลยแบบคาดไม่ถึงนั่นเอง บ่นไปแล้วขอย้อนกลับมาชมบ้าง อย่างที่บอกไปว่าการดำเนินเรื่องคือเร็ว กระชับ เข้าเนื้อหาไว ตัวละครไม่ยึกยักไปมาจนเรื่องมันจะเฉื่อยหรืออะไร คือไม่มีเลย ตัวละครมีความมุ่งมั่นกับเป้าหมายมาก (แต่นั้นแหละมุ่นเกินไปก็ไม่ดี) งานภาพของเรื่องนี้เราชอบนะ การเกลี่ยสีและ mood&tone มันสบายตามาก ก็เลยไม่ได้รู้สึกถึงความ Horror หรือ Thriller เท่าไหร่ นักแสดงเล่นกันได้ดีมาก ถึงแม้จะขาดความสนุกของการไล่ล่าแต่เพราะเราได้ดูทั้งความสัมพันธ์ ทั้งการพูดคุยของตัวละครเลยทำให้รู้สึกอยากเอาใจช่วย อยากรู้ว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินไปแบบไหน เรียกได้ว่าเรื่องนี้มีทั้งชื่นชมและข้อติ โดยรวมแล้วเราก็มองว่าแอบรู้สึกเฉย ๆ มันก็ไม่ได้แย่มากและก็ไม่ได้สนุกมากขนาดนั้น เป็นการดูแก้เบื่อ สำหรับคนที่อยากจะหาเรื่องที่ดำเนินเรื่องเร็วและกระชับ สรุปคะแนน องค์ประกอบโดยรวม : ⭐⭐⭐ การดำเนินเรื่อง : ⭐⭐⭐⭐ งานภาพ : ⭐⭐⭐⭐ การแคสติ้ง : ⭐⭐⭐⭐ ความรู้สึกร่วมในการรับชม ⭐⭐⭐ รวม : 3.6 ⭐ ไปในทางด้านที่ค่อนข้างเฉย ๆ แต่ก็ไม่ได้แย่มากและก็ไม่ได้สนุกมากเช่นกัน เน้น Sci-Fi ซะมากกว่า แต่ก็ชื่นชอบพล็อตเรื่องอะไรแบบนี้ เครดิตรูปภาพ ภาพปก มีรูปภาพที่ 1 จาก director_hannah.macpherson รูปภาพประกอบที่ 1 จาก director_hannah.macpherson รูปภาพประกอบที่ 2 จาก madisonbaileybabe รูปภาพประกอบที่ 3 จาก _antoniagentry_ รูปภาพประกอบที่ 4 จาก griffingluck รูปภาพประกอบที่ 5 , รูปภาพประกอบที่ 6 , รูปภาพประกอบที่ 7 , รูปภาพประกอบที่ 8 จาก madisonbaileybabe เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !