ถ้าหากเพื่อน ๆ ได้ติดตามอ่านบทความของเจย์มาคงจะรู้ว่าเจย์เป็นคนที่หลงไหลคลั่งรักการชมหนังและซีรีส์เป็นอย่างมากแต่วันนี้เจย์ขอมาในบทความที่ฉีกไปจากแนวเดิมสักหน่อยเพราะได้มีโอกาสไปเบิกเนตรเข้าถึงรสชาติชีวิตจากการชมหนังสารคดี The Man Who Walk Around the World ซึ่งเป็นผลงานจากทีมผู้สร้าง Something™ Originals ที่พาให้เจย์ได้ดำดิ่งเข้าไปในโลกของ Johnnie Walker แบรนด์ระดับไอคอนของโลกโดยได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Anthony Wonke มาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการสร้าง เสี่ยวเจย์อยากจะกราบอ้อมอกอ้อมใจพวกท่านเหลือเกินที่ทำผลงานชิ้นนี้ออกมาชี้ทางสว่างให้เจย์ได้มองโลกของวิสกี้ในรูปแบบที่แตกต่างไปจากเดิมมากและแน่นอนว่าเมื่อคนอย่างเจย์ได้ไปเจอของดีอย่างนี้ต้องนำมาแบ่งปันให้เพื่อน ๆ ได้อ่านแน่นอน ว่าแต่หนังเรื่องนี้จะมีดีอะไรนะถึงสะกดเจย์ได้เบอร์นี้ไปอ่านเรื่องย่อและความเห็นหลังชมกันเลยJohnnie Walker Keep Walking ท่านเคยได้ยินกันบ้างไหม? เจย์เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านที่ได้เข้ามาอ่านบทความนี้น่าจะเคยผ่านหูผ่านตากับคำคมนี้มาบ้างต่อให้ท่านจะไม่ใช่สายดื่มสาย Drink ก็ต้องเคยได้ยินมาบ้างแน่ ๆ นั่นมันยิ่งตอกย้ำแล้วว่า จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ คือแบรนด์ไอคอนที่มีชื่อเสียงระดับโลกบวกกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ง่ายต่อการจดจำไม่ว่าจะเป็นขวดทรงสี่เหลี่ยมกับการแปะฉลากในแนวเฉียงหรือตราสัญลักษณ์รูปคนเดินที่เป็นผู้ชายสวมชุดทักซิโด้ หมวกทรงสูง รองเท้าบู๊ท และถือไม้เท้าอันเป็นเอกลักษณ์ล้วนแล้วแต่สร้างอัตลักษณ์ที่น่าจดจำให้แบรนด์ทั้งสิ้น ซึ่งในสารคดีภาพยนตร์เรื่องนี้จะมานำเสนอเรื่องราวของ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในมุมที่ท่านไม่เคยเห็นไม่เคยได้รู้จักมาก่อนตลอดระยะเวลากว่า 2 ศตวรรษตั้งแต่ John Walker ก่อตั้งร้านขายของชำเล็ก ๆ ด้วยเงินจากการขายมรดกทั้งหมดที่ได้รับจากผู้เป็นพ่อซึ่งที่นี่เองคือจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์อันยาวนานของแบรนด์ Johnnie Walker จอห์น วอล์กเกอร์ ได้ริเริ่มพัฒนาวิสกี้โดยใช้ทักษะการปรุงชามาปรับสูตรให้กลายเป็นเบลนด์วิสกี้รสเลิศซึ่งได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่ดื่มกันโดยทั่วไปในถิ่นสก็อตแลนด์และในภายหลังก็ได้กลายมาเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในอังกฤษอันเนื่องมาจากในยุควิกตอเรียนั้นบรั่นดีซึ่งเคยเป็นที่นิยมในหมู่ชาวอังกฤษขาดตลาดเพราะไร้องุ่นในฝรั่งเศสเกิดโรคระบาดในขณะเดียวกันนั้นเองก็เป็นโอกาสทองที่ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จะเข้ามาครองใจชาวอังกฤษได้สำเร็จถือเป็นการขยายฐานผู้บริโภคไปได้ไกลอีกขั้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าผู้ก่อตั้งอย่าง จอห์น วอล์กเกอร์ จะล่วงลับไปแล้วแต่เขาก็ยังคงทิ้งกิจการที่เจริญรุ่งเรืองเอาไว้ให้ทายาทผู้สืบทอดและท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็นำพาให้แบรนด์กลายมาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกหลังจากที่รับชมหนังเรื่องนี้ไปมุมมองของเจย์ที่มีต่อ Johnnie Walker เปลี่ยนไปมาก ตัวเจย์เองต้องขอยอมรับเลยว่าไม่เคยรู้เรื่องราวเบื้องหลังของมันมาก่อนเลยอีกทั้งยังไม่เคยรู้เลยว่าโลกของ Johnnie Walker จะมีหลากสิ่งหลายอย่างให้น่าค้นหาขนาดนี้ เรื่องที่มันมีมากมายหลากหลายชนิดเจย์ว่าพิศวงแล้วแต่เรื่องวิธีการเบลนด์ที่เกิดขึ้นมาจากวิธีการปรุงชานี่ทำเอาเจย์ว้าวมาก ในมุมมองของเจย์ จอห์น วอล์กเกอร์ ท่านถือว่าเป็นบุคคลสำคัญของโลกเลยก็ว่าได้นะเพราะถือว่าท่านได้รังสรรค์หนทางอภิรมย์ให้มนุษย์อีกทั้งแบรนด์นี้ยังได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของทุกสังคมทุกชนชั้นไม่ว่าจะเป็นในหนังใน MV เพลงหรือในสถาบันครอบครัวที่ใช้สังสรรค์กันในหมู่เพื่อนและครอบครัวไปจนถึงสถาบันการปกครองระดับผู้นำประเทศก็ยังใช้ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ นอกจากนี้หนังยังฉายมุมมองที่ Johnnie Walker เป็นมากกว่าสินค้าแบรนด์หนึ่งเพราะมันกลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมของชาวสก็อตแลนด์ต่อมาก็ถูกส่งผ่านไปยังชาวอังกฤษและกลายเป็นอารยธรรมการดื่มที่แพร่หลายไปทั่วโลกสอดคล้องกับสัญลักษณ์ของแบรนด์ ‘ชายผู้ที่เดินหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง’ ใช่ค่ะเขายังคงเดินทางท่องไปทั่วทั้งโลกอย่างไม่หยุดยั้งถึง 200 ปีแล้ว ผ่านเหตุการณ์ในหน้าประวัติศาสตร์มามากมายทั้งสงคราม โรคระบาด หรือแม้กระทั่งภัยธรรมชาติ ตัวหนังไม่เพียงแต่เล่าเรื่องประวัติของ Johnnie Walker เท่านั้นแต่มันยังเล่าถึงการพัฒนาแบรนด์และการเอาชนะใจผู้บริโภคอีกทั้งยังสอดแทรกคำคมให้ขบคิด อาทิ คำคมฉลองการครบรอบ 100 ปีที่ว่า Still Going Strong (ยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่ง)ซึ่งช่วงเวลาในการปล่อยหนังออกมาฉายช่างประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ Covid 19 ระบาด เหมือนทางผู้สร้างอยากจะบอกเป็นนัยถึงผู้ชมที่ได้รับชมว่าให้เดินหน้าต่อไปอย่างแข็งแกร่งและเติบโตไปเรื่อย ๆ ไม่มีที่สุดอย่างที่ Johnnie Walker ทำ ล้ำลึกมากค่ะปรบมือนี่สินะผลงานของผู้กำกับที่มีรางวัล Emmy และ BAFTA การรันตีคุณภาพ Anthony ทำให้หนังเชิงสารคดีที่อาจจะน่าเบื่อในสายตาของคนอื่นสะกดสายตาเจย์ได้แบบไม่ทำให้หลุดโฟกัสเลยทั้งด้านการตัดเข้าเนื้อหาหรือการตัดต่อเองมันไหลลื่นไปด้วยกันเหมือนผ้าแพรม้วนเดียวกันยังไงอย่างงั้นและอีกจุดที่ทำให้เจย์ประทับใจเรื่องนี้มากนั่นก็คือคุณจะได้ฟังผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกพูดภาษาอังกฤษในสำเนียงที่แตกต่างกันออกไป ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้เจย์ยอมรับเลยว่าผู้กำกับหนังเชิงสารคดีคนนี้เขามีของจริง ๆกว่า 200 ปีที่ จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เดินทางท่องไปทั่วทุกมุมโลกและยังคงเดินต่อไปแบบไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งอะไรกันนะที่สามารถทำให้แบรนด์ที่ถือกำเนิดจากร้านขายของชำเล็ก ๆ เดินมาได้ไกลถึงเพียงนี้ หากท่านใดสงสัยใคร่รู้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จของ Johnnie Walker แบรนด์ระดับโลกเป็นอย่างไรกันแน่ สามารถเข้าไปติดตามชมที่ https://trueid.onelink.me/14Ip/53d28cce ทาง True ID ได้นำภาพยนตร์สารคดีสุด Exclusive นี้มาให้ทุกท่านได้ชมกันฟรี ๆ ตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค. 2563 – 20 ม.ค. 2564 สุดท้ายนี้เชื่อเจย์เถอะท่านลองเปิดใจมาดูสักครั้งแล้วมุมมองของท่านที่มีต่อโลกของ Johnnie Walker จะเปลี่ยนไปตลอดกาล ขอบคุณภาพประกอบทั้งหมดจาก True ID - 7 FACT ที่ต้องหาคำตอบใน The Man Who Walked Around the World ภาพยนตร์สารคดีเรื่องเยี่ยมแห่งปี- รีวิว "The Man Who Walked around The World" หนังสารคดีสุดยิ่งใหญ่ ผ่านตำนานสุดตราตรึงใจของ Johnnie Walker จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !