หนังเล่าถึงฮอลลี่ (Hilary Swank) เธอแต่งงานกับเจอร์รี่(Gerard Butler) ผู้ชายอบอุ่นชาวไอริช เธอรักเจอร์รี่มาก แต่เรื่องเลวร้ายที่ไม่มีใครต้องการให้เกิดอย่างมะเร็งก็พรากชีวิตเจอร์รี่ไป เธอคิดว่าเธอโดดเดี่ยวและไม่เหลือใครอีกแล้ว วันหนึ่งเธอมีโอกาสได้อ่านจดหมายที่เจอร์รี่ทิ้งไว้ให้ จดหมายนั้น ไม่ได้มีไว้แค่ทำให้ฮอลลี่หายเศร้าและหายคิดถึงเท่านั้น แต่ยังเป็นแนวทางให้เธอได้รู้จักทางเดินชีวิตของตัวเองอีกด้วย เธอได้รับจดหมายฉบับแรกเมื่ออายุ 30 ปี เธอได้รับเซอร์ไพรส์จากเค้กและเครื่องบันทึกเสียงที่เจอร์รี่เตรียมไว้ให้ หลังจากนั้นเธอก็ได้รับจดหมายในรูปแบบต่าง ๆ อีก และทุกฉบับจะลงท้ายว่า ปล.ผมรักคุณ เสมอผมต้องขอบอกแบบนี้ก่อน ว่าผมเองไม่ใช่คนที่ชอบดูหนังโรแมนติกแต่อย่างใดครับ เพราะว่าหนังโรแมนติกส่วนมากก็มีพล็อตเรื่องที่ไม่ได้ต่างกันแล้วก็รู้สึกว่ามันไม่ค่อยบรรเทิงใจสักเท่าไหร่ครับ แต่เพื่อนของผมก็แนะนำให้ดู เพราะเรื่องนี้มันมีอะไรมากกว่าความรักทั่วไป และนี่จะเป็นความรู้สึกที่ผมต้องเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับหนังรักใหม่สิ่งที่เป็นความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่องนี้คือสามีที่เสียชีวิตไป แต่เหมือนว่าเขาจากไปแค่เพียงร่างกาย เพราะยังมีจดหมายมาหรือการติดต่อจากเขาโดยที่เค้าเตรียมไว้ก่อนตายครับ และส่งให้กับภรรยาที่รักของเขาเสมอ หนังกำลังจะสื่อให้เห็นว่าการที่เขาจากไปเค้าก็จากไปแค่ตัว แต่หัวใจและความรู้สึกของเค้าก็ยังคงอยู่เสมอ และรูปแบบจากการติดต่อก็จะไม่ซ้ำกัน เหมือนเป็น Mission ให้ไปทำภารกิจต่าง ๆ น่ารักไปอีกแบบการดำเนินเรื่องหนังต้องการสื่อให้เห็นในช่วงแรกว่าฮอลลี่มีพฤติกรรมเหมือนจมปรักและงมงายอยู่กับสิ่งที่จบไปแล้ว ไม่มีความพยายามจะเดินหน้าต่อจนกระทั่งเธอได้รับจดหมายจากเจอร์รี่ สามีสุดที่รักที่เสียชีวิตไปแล้ว ครั้งแรกจะได้เป็นเครื่องบันทึกเสียง และลำดับต่อมาก็จะเป็นจดหมายในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้เธอเหมือนมีหวังในชีวิตมากยิ่งขึ้น ซึ่งความพิเศษของจดหมายฉบับต่อ ๆ มาก็จะนำพาเธอไปยังที่ต่าง ๆ พบเจอคนต่าง ๆ ที่เจอร์รี่เองก็พยายามดึงเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมีเป้าหมายคือช่วยเยียวยาความรู้สึกและทำให้ฮอล์ลี่สามารถใช้ชีวิตได้อยู่ได้ด้วยตนเองอย่างเข้มแข็งและแข็งแกร่ง ยิ่งผมดูก็ยิ่งรู้สึกว่ามันจะมีผู้ชายสักกี่คนที่รักผู้หญิงคนหนึ่งมาขนาดนี้นักแสดง Hirary Swank ผู้รับบทฮอลลี่ แค่เพียงเธอคนเดียวเรียกได้ว่าเอาอยู่ทั้งเรื่องครับ เพราะว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้เดินเรื่องด้วยการแสดงของฮอลลี่แค่เพียงคนเดียวเท่านั้น การแสดงของเธอค่อนข้างดูมีเสน่ห์และเท่าที่ดูบทที่ได้รับค่อนข้างยากพอตัวเลย เพราะการที่จะแสดงออกทั้งต้องมีความสุข สักพักก็จะเริ่มเศร้า วันต่อมาเหงาและคิดถึงพระเอกไปด้วยในเวลาเดียวกัน บางครั้งบางสถานการณ์ก็ไม่สามารถแสดงออกได้ และการแสดงออกทางสายตาและการสื่ออารมณ์ทำออกมาได้ดีและได้ประทับใจมากคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังให้แง่คิดที่ดีเพื่อเป็นการเดินต่อไปและก้าวต่อไปของชีวิต หากใครที่รู้สึกสูญเสียคนที่รักไปแบบไม่มีวันกลับอาจจะทำให้รู้สึกอินมากกว่าคนอื่น แต่สำหรับคนที่อกหักก็สามารถดูภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เพราะว่ามีแง่คิดในการก้าวข้ามความเจ็บปวดของการอกหักได้เช่นกันข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ชีวิตต้องก้าวต่อไปแม้ว่าจะไม่มีคนที่รักอยู่ข้างกาย เหมือนนางเอกในเรื่องเธอสูญเสียคนที่รักไปอย่าไม่มีวันกลับด้วยโรคมะเร็งถึงแม้ว่ามันจะเสียใจและเจ็บช้ำแค่ไหน เธอก็ทำได้แค่ต้องก้าวต่อไปเพราะความตายเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหลีกหนีกันได้พ้น2. ความรักของเจอร์รี่จะมีผู้ชายสักกี่คนที่จะวางแผนทำเรื่องแบบนี้หลังจากที่ตัวเองตาย มีเหตุผลเดียวคือเขาต้องการให้ภรรยาของเขามีชีวิตเดินหน้าต่อไปได้ เพราะเขานั้นรู้ดียิ่งกว่าใครว่าภรรยาของเขาเป็นคนอย่างไร สิ่งที่เขาทำคือยังแคร์และเป็นห่วงเสมอ แม้ว่าเขาเองตายไปก็ไม่รับรู้อะไรอีกแล้ว แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ใจชีวิตของคนข้างหลังหนังเรื่องนี้ค่อนข้างเปลี่ยนมุมมองหนังรักในความคิดผมไปพอสมควร บางครั้งความรักก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่ว่าจะต้องยังมีชีวิตอยู่ความรักคือความหวังดีและความปรารถนาดีที่เกิดจากความรู้สึกและหัวใจจริง ๆ เครดิตภาพปก WarnerBros / เครดิตภาพที่1 WarnerBros / เครดิตภาพที่2 WarnerBros / เครดิตภาพที่3 WarnerBros