รีวิวหนัง "O'Dessa โอเดสซา" มิวสิคัลร็อกแอนด์โรลแห่งโลกดิสโทเปียที่ละโมบโลภมากไปนิด

โลกดิสโทเปีย ห้วงอารมณ์แบบมิวสิคัล ความพลุ่งพล่านแห่งวัยรุ่น กับจังหวะร็อกแอนด์โรล องค์ประกอบต่าง ๆ เหล่านี้จะมาประกอบรวมร่างออกมาเป็นคอนเทนท์หนังได้อย่างไร กลายเป็นโจทย์ที่ต้องมาค้นหาคำตอบในหนังนอกสายตาเรื่องใหม่ "O'Dessa โอเดสซา" เป็นอีกหนึ่งผลงานที่เปล่งประกายให้กับดาราดาวรุ่งเบอร์ต้น ๆ แห่งยุค ที่เต็มไปด้วยลูกเล่นอันมีสไตล์ผสมเข้ากับความงงงวยกึ่งแมสกึ่งอินดี้ของหนังเรื่องนี้
โอเดสซา เด็กสาวบ้านไร่ที่ตัดสินใจออกจากเซฟโซนที่แห้งแล้งของตัวเองออกมาตามหาสมบัติอันล้ำค่าที่เป็นมรดกตกทอดของตระกูล พร้อมกับกีตาร์ตัวโปรดของบรรพบุรุษ ที่เธอหอบหิ้วมายังเมืองที่วิปลาศและเต็มไปด้วยอันตราย หลังจากการล่มสลายลงของโลกใบเดิม ที่นั่นเธอได้ค้นพบว่าพลังแห่งความรัก พร้อมกับปลุกจิตวิญญาณอันแรงกล้าในเสียงดนตรี ที่กลายเป็นบททดสอบแห่งโชคชะตาที่เธอไม่อาจเลี่ยงไปได้
"เจเรมี แจสเปอร์" อดีตผู้กำกับดาวรุ่งที่ได้แจ้งเกิดปุ๊บก็เงียบหายไปเลย นี่จึงกลายเป็นผลงานใหม่ของเขาในรอบ 6-7 ปี นับตั้งแต่เฉิดฉายจากการสร้างหนังชีวิตมิคสิคัลเรื่องยาวเรื่องแรกใน Patti Cake$ เมื่อปี 2017 นี่จึงเป็นชิ้นงานที่เขาเพิ่งจะกลับมาอีกครั้ง ด้วยการรับหน้าที่กำกับและเขียนบทหนังเองเหมือนเคย ที่ต้องบอกตรง ๆ ว่าคอนเซ็ปต์หนังเรื่องนี้ค่อนข้างทะเยอทะยานและไม่แปลกใหม่ที่กว่าจะผลิตออกมาได้สำเร็จ เพราะมันต้องผ่านหลากหลายกระบวนการเพื่อให้ออกมาสมบูรณ์ที่สุด
ฝีมือการสร้างหนังของผู้กำกับรายนี้ยังค่อนข้างน่าสนใจ แม้ว่าจะยังไม่ได้มีประสบการณ์ในงานเชิงพาณิชย์มากเท่าไหร่ แต่เขาก็สามารถหยิบเอาเสน่ห์ของความเป็นซินีมานำมาจัดใส่องค์ประกอบได้ค่อนข้างได้จริตและมีรสนิยมไม่น้อย ถึงแม้ว่าในส่วนของงานเขียนบทหนังของเขาจะยังค่อนข้างเป็นอะไรที่ค่อนข้างห่างไกลความเข้าอกเข้าใจของผู้ชมไปสักหน่อยก็ตาม อาจจะกล่าวได้ว่า O'Dessa เป็นหนังที่ค่อนข้างละโมบโลภมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ ที่จับนู้นนี่ที่ดูไม่ค่อยเข้ากันสักอย่างมายำเป็นเมนูชามใหม่
แล้วนั่นก็กลายเป็นจุดบอดที่สุดของ O'Dessa เรื่องนี้ เพราะองค์ประกอบของบทหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความตื่นเขินไปทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นประเด็นหลักของเรื่อง ข้อความที่หนังต้องการสื่อสาร หรือการสร้างมิติต่าง ๆ ในกับตัวละครและหนังที่ค่อนข้างผิดที่ผิดทางไปเกือบทั้งหมด เป็นการจับพล็อตจากเรื่องนั้นเรื่องนี้มาผสม ๆ ปนเปกันแบบเละเทะ แล้วยังมีการโยงเข้าสู่ช่วงมิวสิคัลและการร้องเพลง ที่กลายเป็นว่าทุกส่วนตีกันมั่วไปหมดทุกอย่าง ค่อย ๆ ผลักคนดูออกจากเรื่องไปโดยปริยาย
แค่เปิดฉากมา 5 นาทีแรกก็รู้เลยว่า O'Dessa ไม่ใช่หนังในกระแสที่เหมาะกับทุกคนแน่นอน นี่คือหนังนัวร์ ความนัวร์ที่เกินมาจากส่วนผสมที่ปนเปื้อนเละเทะตีกันมั่วไปหมดของหนังเรื่องนี้เอง แม้ว่าวิสัยทัศน์ในงานกำกับของเจเรมี แจสเปอร์ จะยังค่อนข้างใช้ได้อยู่ โดยเฉพาะการวางคอนเซ็ปต์ที่ไม่ได้คำนึงถึงความละมุนเชื่อมต่อไปถึงเนื้อหาของหนังอะไรเท่านั้น แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนังเรื่องนี้มีงานออกแบบโปรดักชันที่น่าสนใจ ใช้ลูกเล่นของแสงสีเข้ามาเป็นประกอบเรื่องราวให้จัดจ้านขึ้น แต่องค์ประกอบเหล่านี้ก็ไม่ได้ทำให้ภาพรวมของหนังดีขึ้นนัก
เข้าใจว่าหนังพยายามจะสร้างเอกลักษณ์ที่จัดจ้านให้กับตัวเอง ที่ดีไซน์คอสตูมออกมาให้ออกมาในแบบหนังโลกดิสโทเปียทั่ว ๆ ไป แต่ทว่าฝีมืออาจจะยังไม่ถึงขั้นที่เฉียบคมสักเท่าไหร่ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาเสื้อผ้าหน้าผมของหนังเรื่องบางส่วนเป็นความแปลกตาชวนขบขันเกินไป และยังไม่มีส่วนใด ๆ ที่ชวนดึงดูดใจให้ผู้ชมอยากจะติดตามหนังเรื่องนี้ต่อ เพราะหลาย ๆ องค์ประกอบของหนังช่างหย่อนย้วยไปทั้งหมด
ในพาร์ททางการแสดง "เซดี ซิงก์" เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่น่าค้นหา เอาจริง ๆ เธอก็คือคนเดียวลำพังที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้คนเดียว ถึงองค์ประกอบแขนและขาของหนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยร่องรอยที่ไม่สมบูรณ์แบบเลยสักนิดเดียวก็ตาม แต่เธอก็แสดงให้เห็นว่าสามารถรับมือกับบทบาทที่หลากหลายได้ ทั้งดรามา ทั้งโรแมนซ์ ทั้งจับกีตาร์แบบเท่ ๆ มันคือความเปล่งประกายเดียวที่ค้นพบได้ในหนังเรื่องนี้จริง ๆ
เพราะนักแสดงสมทบคนอื่น ๆ อย่าง "เรจินา ฮอลล์", "เคลวิน แฮร์ริสัน จูเนียร์" หรือ "เมอร์เรย์ บาร์ทเล็ตต์" ก็ไม่สามารถมาช่วยเติมเต็มใด ๆ ได้ เพราะบทบาทที่ยังไร้มิติและตื้นเขินในทุกคาแรกเตอร์หนังเรื่องนี้ที่ไม่สามารถบิวท์ด้านต่าง ๆ ออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้เลย กลายเป็นว่ามีเพียงเด็กสาวตัวน้อย ๆ คนเดียวลำพังที่ยืนตระหง่านรับหน้าที่นำแสดงอย่างโดดเดี่ยวในหนังที่ค่อนข้างไม่มีแก่นสารเรื่องนี้
ดังนั้นโดยสรุปแล้ว O'Dessa จัดได้ว่าเป็นหนังที่ค่อนข้างทะเยอทะยานในทิศทางที่น่าผิดหวัง คอนเซ็ปต์ของหนังค่อนข้างน่าสนใจ แต่ยังไร้ซึ่งแรงดึงดูดความสนใจและขาดการสื่อสารถึงคนดูอย่างไร้สิ้นเชิง เหมือนเป็นหยิบเอา The Hunger Game มาผสมกับ Scott Pilgrim vs. the World ที่ยังไม่สามารถถึงแก่นของเรื่องได้อย่างถ่องแท้ งานสร้างงานศิลป์อาจจะรู้สึกน่าสนใจ แต่กลับไม่สามารถไปได้ควบคู่กับพล็อตเรื่องได้เลย ที่บอดสุด ๆ ก็คงจะเป็นบทหนังที่ยังสะเปะสะปะไปหมด แม้ว่าน้องเซดีจะเปล่งปลั่งมาก แต่สุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็เหมือนนั่งดูตัวอย่างหนังขนาดยาวกว่า 100 นาที ที่ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ๆ
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง: O'Dessa โอเดสซา
- ประเภท: มิวสิคัล / ดรามา / แฟนตาซี
- ผู้กำกับ: เจเรมี แจสเปอร์
- นำแสดงโดย: เซดี ซิงก์, เคลวิน แฮร์ริสัน จูเนียร์, เรจินา ฮอลล์, เมอร์เรย์ บาร์ทเล็ตต์
- ความยาว: 106 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 20 มีนาคม 2025 (ทาง Disney+ Hotstar)
Movie.TrueID METRIC: O'Dessa โอเดสซา
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4.6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4.2/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5.2/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰ (4.8/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐✰✰✰✰✰✰✰ (3.3/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa