เปิดทำเนียบ 10 หนังยอดเยี่ยม ประกาศศักดาว่าดีที่สุดในรอบทศวรรษ
ข่าวสารวงการหนัง 10 หนังดีในรอบทศวรรษ
10 หนังดีในรอบทศวรรษ - ...ทศวรรษนี้กำลังจะผ่านไป วงการภาพยนตร์ทั่วโลกมีหนังออกฉายมากกว่าหมื่นเรื่อง ในยุคนี้เราได้เห็นประสบการณ์การดูหนังที่แปลกใหม่เพิ่งขึ้น เกิดปรากฏการณ์ที่ทำให้บ็อกซ์ออฟฟิศแทบจะถล่มทลาย ตลาดหนังแต่ละแห่งทั่วทุกมุมโลกเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เพราะเทคโนโลยีการสร้างหนังที่พัฒนาและแนวคิดที่มีแต่ความคิดสร้างสรรค์ ทำให้มีหนังหลายเรื่องที่ประกาศศักดาความยอดเยี่ยม แม้จะได้หรือไม่ได้รางวัลไปครองบ้างก็ตาม
และนี่คือหนังที่เข้าข่ายยอดเยี่ยมในด้านต่างๆ ตลอดทั้ง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ละเรื่องมีความโดดเด่นคนละด้าน บางเรื่องใช้เวลาถ่ายทำนานข้าวทศวรรษ บางเรื่องทำเงินแบบไม่คาดเงิน บางเรื่องก็สร้างสถิติใหม่ๆ ให้กับวงการภาพยนตร์ และนี่คือหนังทั้ง 10 เรื่องที่คัดสรรมาแล้วว่ายอดเยี่ยมที่สุดในทศวรรษนี้
Boyhood (2014)
แค่วิธีการสร้างหนังเรื่องนี้ก็เป็นที่กล่าวถึงไปอีกหลายทศวรรษ เพราะหนังดราม่าเจริญวัยเรื่องนี้ ใช้เวลากว่าจะเสร็จสมบูรณ์ถึง 12 ปี เผยให้เห็นพัฒนาการของเด็กชายคนหนึ่งที่เติบใหญ่ขึ้นทุกๆ ปี ผ่านแนวคิดที่หลักแหลมของผู้กำกับ "ริชาร์ด ลินเคลเตอร์" ทำให้หนังมีเอกลักษณ์ที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งของทศวรรษ ขณะที่โครงการต่อไปของผู้กำกับผู้นี้...แว่วว่าจะใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว
Toy Story 3 (2010)
ต้องบอกว่าเป็นหนังตระกูล "ทอย สตอรี่" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด ด้วยความที่เป็นฉบับปิดไตรภาคของชุดนี้ พร้อมกับทิ้งระยะห่างจากภาคที่แล้ว ทำให้แฟนๆ หนังที่เติบใหญ่ขึ้นไปอีกวัย ยังคงหวนคิดถึงเหล่าของเล่นมีชีวิตที่พวกเขาโตมาด้วย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าหนังมีฉากจบที่ทรงพลัง ต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังต้องน้ำตาไหลซึมออกมาได้ เป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบว์แดงแห่งยุคของพิกซาร์
La La Land (2016)
ถึงแม้จะพลาดรางวัลออสการ์ไปแบบคาดสายตา แต่ความยอดเยี่ยมของหนังเพลงเรื่องนี้บอกชัดเจนถึงคุณภาพที่แน่นเปี่ยม เห็นภายนอกอาจจะดูเป็นเพียงหนังรักร้องเพลงธรรมดาๆ แต่แก่นแท้เป็นหนังที่สอดแทรกประเด็นความสัมพันธ์ของคน พ่วงด้วยบทเพลงที่น่าจดจำ รวมทั้งมุมมองและการใช้เทคนิคด้านภาพที่น่าทึ่งของผู้กำกับ "เดเมียน ชาเซลล์" หนังเรื่องนี้ทำให้เขาขึ้นไปอยู่แถวหน้าของวงการ
Frozen (2013)
"เล็ท ดิท โก, เล็ท ดิท โก!" ตลอดทศวรรษที่ผ่านมาคงไม่มีใครฮัมเพลงนี้ไม่ได้ แอนิเมชันเรื่องดังที่ฮิตเกินความคาดหมาย สร้างสรรค์ตัวละคร "เจ้าหญิงเอลซา" กลายเป็นอีกหนึ่งผู้ทรงอิทธิพลในยุคปัจจุบัน หนังที่ทำรายได้ทะลุพันล้านทั่วโลก และเพิ่งเข็นภาคต่อออกมา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เอลซาได้เกิดและต้องเป็นดวงประดับในทศวรรษนี้ เด็กๆ ยกให้เธอเป็นขวัญใจ เพลงดัง หนังก็ดัง ทุกอย่างช่างสมบูรณ์แบบไปทุกๆ ด้าน
The Avengers (2012)
นี่คือหนังชุดประวัติศาสตร์ของวงการหนังระดับโลก แค่ในทศวรรษเดียวก็สามารถผลิตออกมาได้ครบ 4 ภาคจบสมบูรณ์แบบ หนังรวมเหล่าซูเปอร์ฮีโร่มาร์เวล ที่ทำรายได้ทั่วโลกรวมกันได้กว่า 7.7 พันล้านเหรียญ คงต้องยกความดีความชอบและความยอดเยี่ยมให้กับภาคแรกของหนังชุดนี้ ทุกคนต่างตื่นตาตื่นใจกับทุกฉากที่หนังถ่ายออกมา ยังขนลุกทุกครั้งที่ได้เห็นการรวมตัวกันของฮีโร่คนโปรด ถ้าจะว่าถึงสิ่งสำคัญของทศวรรษนี้ ก็ต้องมีหนังเรื่องนี้รวมอยู่ด้วย
Black Panther (2018)
นี่คือการฉีกกฎเดิมๆ ของการสร้างหนังซูเปอร์ฮีโร่ ไม่ใช่เพียงแค่มีตัวละครส่วนใหญ่เป็นนักแสดงผิวสี แต่ยังสร้างโลกใหม่ขึ้นมาประดับวงการคอมิกส์ ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักกับดินแดนลับแล "วากานดา" และยังยอดเยี่ยมถึงขนาดได้เข้าชิงรางวัลใหญ่บนเวทีออสการ์อีกด้วย หนังทำเงินทั่วโลกไปมากกว่า 1.3 พันล้านเหรียญ แม้จะเป็นส่วนหนึ่งในเส้นเรื่องของจักรวาลมาร์เวล แต่ก็มีเทคนิคที่ฉลาดในการสร้างให้มีเอกลักษณ์ในตัวเอง
Once Upon a Time in Hollywood (2019)
ผลงานลำดับที่ 9 ของผู้กำกับ "เควนติน ทาแรนติโน" ก็กลับมาคืนฟอร์มช่วงท้ายยุคได้อีกครั้งนี้ นี่เป็นการดัดแปลงและเล่าถึงเหตุอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ได้อย่างมีชั้นเชิงและน่าหลงใหล แนวคิดที่แตกต่างจากหนังโทนคล้ายกัน และคนดูยังได้กำไรกับการถูกแอคติ้งชั้นครูของนักแสดงแถวหน้า ไม่แปลกใจที่หนังความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงจะได้ใจนักวิจารณ์และคนดู โดยเฉพาะช่วง 20 นาทีสุดท้ายของหนัง...มันคือตำนาน
Inception (2010)
แน่นอนว่าชื่อของ "คริสโตเฟอร์ โนแลน" ต้องมีติดเข้ามาเป็นหนึ่งในท็อปของทศวรรษนี้ และหนังเรื่องนี้คือที่สุดของแนวคิดที่เป็นอิทธิพลของผู้กำกับรุ่นใหม่ หนังแอคชั่นที่แฝงด้วยเทคนิคการสร้างและเทคนิคพิเศษที่ไม่ธรรมดา ฉีกกฎเกณฑ์เดิมของการสร้างหนัง ด้วยความเป็นอัฉจริยะเฉพาะด้านของเขา ทำให้ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในหนังในดวงใจของคนดูในยุคนี้ และทุกครั้งที่ผู้กำกับคนนี้กลับมากับผลงานใหม่ ก็ยังคงเสิร์ฟ "ความว้าว" อยู่ตลอดเวลา
The Revenant (2015)
เป็นหนึ่งที่ต้องยกความดีความชอบให้กับการแสดงของ "ลีโอนาร์โด ดิคาปรีโอ" พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการแสดงต้องมาจากอินเนอร์และเลือดของนักแสดงอย่างจริงจัง ทำให้เขาคว้ารางวัลออสการ์ตัวแรกมาครองได้สำเร็จ หลังจากที่เคยเข้าชิงมาแล้ว 4-5 ครั้ง หนังผจญภัยเอาตัวรอดที่ยังมีเทคนิคด้านภาพโดดเด่นเช่นเดียวกัน แม้บางฉากจะไม่มีไดอะล็อกคำพูดเลยสักคำ แต่ท่าทางและสิ่งแวดล้อมต่างๆ ก็บีบคั้นอารมณ์คนดูได้อย่างอยู่หมัด
Mad Max: Fury Road (2015)
ต้องใช้เวลาถึง 20 ปี กว่าจะเข็นภาคต่อออกมาได้ และกลายเป็นผลลัพธ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก "จอร์จ มิลเลอร์" ถ่ายฟุตเทจออกมาถึง 470 ชั่วโมง แต่ต้องตัดบั่นทอนให้เหลือ 2 ชั่วโมง กับการไล่ล่าระทึกบนถนนในดินแดนป่าเถื่อน นี่คือหนังแอคชั่นซัมเมอร์ที่ดีที่สุดในทศวรรษนี้ ไม่ว่าจะเทคนิคงานสร้าง เทคนิคพิเศษ รวมทั้งเพลงประกอบที่รบเร้าถึงหูชั้นใน ไม่แปลกใจที่หนังคว้ารางวัลออสการ์ได้มากถึง 6 ตัว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
5 ที่สุด หนังทำเงินสูงสุดในปี 2019 ที่ ทรูไอดี มูฟวี่
----------------------------------------------------