รีเซต

แน็ก ชาลี ยอมรับเคยจีบ เก๋ไก๋ เล่านาทีเผชิญหน้าโจรถือมีด กวาดของเกลี้ยงบ้าน

แน็ก ชาลี ยอมรับเคยจีบ เก๋ไก๋ เล่านาทีเผชิญหน้าโจรถือมีด กวาดของเกลี้ยงบ้าน
มติชน
12 ธันวาคม 2564 ( 10:40 )
67

แน็ก ชาลี ยอมรับเคยจีบ เก๋ไก๋ เล่านาทีเผชิญหน้าโจรถือมีด กวาดของเกลี้ยงบ้าน

แน็ก ชาลี ไตรรัตน์ เล่าเรื่องราวข่าวคราว หลังจากที่ เดินทางมาร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์สยองขวัญ THE GHOST RADIO “THE GHOST RADIO MOVIE PROJECT (WORKING TITLE)” ที่ เดอะ ไนน์ ติวานนท์ ให้ฟังถึงเรื่องที่ตนเองเป็นโรคซึมเศร้าว่า

“สำหรับผมนะ คนที่เป็นโรคซึมเศร้า 100 เปอร์เซ็นต์เลยนะ เป็นกันจริงๆ ไม่ถึง 10-20 เปอร์เซ็นต์หรอก เพื่อนผมเป็นกันเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นโรคเหงากันมากกว่า อยู่คนเดียวแล้วเครียด เบื่อชีวิต พวกที่เป็นหนักๆ เลยคือต้องหาหมอกินยา ก็อยากให้นึกถึงครอบครัว เพราะเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดสำหรับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า นึกถึงเพื่อนๆ ก็ได้ ถ้าเกิดเราทำอะไรไม่ดีไปพวกเขาจะรู้สึกยังไง”

แน็กเป็นถึงขั้นไหน?

“ผมเป็นเวอร์ชั่นที่ไม่ได้เรียกร้องความสนใจ ไม่ได้ไปพยายามให้ใครหนักใจไปกับเราด้วย เราเป็นแล้วเราก็รู้ตัวของเราอยู่ว่าเราจะต้องจัดการกับตัวเองยังไง ผมเป็นมาตั้งแต่อายุ 17 ปีแล้ว แต่ผมรู้ว่าผมจะต้องจัดการยังไงกับชีวิต มีไปหาหมอบ้าง แต่จุดจบของการหาหมอคือการได้กินยา การเป็นโรคซึมเศร้าของหลายๆคน การรักษาจริงๆ ผมว่าน่าจะหาอะไรทำนะครับ หมอเขาก็จะแนะนำให้หาอะไรทำ หรือหลีกเลี่ยงอะไรที่มันจะไปกระตุ้นโรคของเรา สำคัญสุดคืออย่าอยู่คนเดียว และกินยาควบคู่ไปด้วย แต่ผมไม่ชอบกินยาไง”

อาการของเราเป็นอย่างไรบ้าง?

“อาการของผมจะขึ้นเวลาอยู่คนเดียว มันจะทำให้เราเหงามากๆ มากกว่า แต่สำหรับตัวผมแล้วมองเรื่องนี้ว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ คุณต้องจัดการตัวเองให้ได้ คุณได้เกิดมาแล้ว ก็ดูแลตัวเองให้มันดี ถ้าคุณไม่ดูแลตัวเอง คุณก็ไปหาอะไรทำให้มันไม่เบื่อ อย่างผมวิธีแก้ของผมก็คือผมชอบงานก่อสร้างมาก คุณลองตื่นเช้าๆ แล้วทำงานหนักๆ พอกลางคืนเดี๋ยวมันก็หลับไปเอง หายเครียดเอง แต่สุดท้ายมันก็หนีไม่พ้นมันก็จะกลับมาอยู่ดี มันก็แล้วแต่ว่าเราจะจัดการยังไง ตัวผมยังมีแม่ มีครอบครัวและที่สำคัญสุดชีวิตผมชอบคิดว่าถ้าเราแก่ เรามีเงินซักก้อนหนึ่ง เราจะไปซื้อที่เพื่อเลี้ยงสัตว์ อนาคตของผมมองว่าจะทุ่มชีวิตให้กับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นหมา แมว วัว ควาย ถ้าเรามีเงินเราก็พยายามช่วยชีวิต ไถ่มันให้ได้มากที่สุด ดูแลมันให้ได้มากที่สุด”

ความสัมพันธ์เรากับเก๋ไก๋?

“ไม่มีอะไรเลย ผมไม่อยากให้โยงมาก กลัวเขาจะโดนชาวเน็ตเกลียดไปมากกว่านี้ คือไม่มีอะไร แต่ถามว่าผมจีบไหมผมจีบจริงครับ ผมติดตามเขา แล้วรู้สึกว่าเขาเป็นผู้หญิงน่ารัก เรียบง่าย พอได้รู้จักกันเขาก็นิสัยดีมากๆ ผมทักไปหาเขา คุยกัน ก็ยอมรับว่าไปจีบเขา เขาก็รู้ตัวว่าผมจีบ”

จีบติดไหม?

“ไม่ครับ มันหลายๆ อย่าง แค่นี้เด็กก็เกลียดกันเยอะมากแล้ว ไม่อยากโยงให้เขาโดนถล่มไปมากกว่านี้ จีบเขามานานแล้ว ตั้งแต่ที่มีข่าว”

แล้วที่เราโพสต์ว่าหนีไป คนตีความว่าไม่อยากให้มาคบกับเราเพราะเรานิสัยไม่ดี?

“ไม่ใช่เรื่องเรานิสัยไม่ดีอย่างเดียว ผมก็พิมพ์ตลกๆ จากที่ผมได้เคยคุยน้องเป็นคนดีมาก น่ารัก นิสัยดีและเขากตัญญูมากๆ ก็ไปไม่ถึงไหน ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยกันแล้วครับ หยุดคุยไปแล้ว ด้วยหลายๆอย่าง ที่ไปคุยแล้วเรารู้สึกว่ามันอาจจะทำงานกันไม่ได้ เขาก็ทำงานของเขา ถ้าเราเข้าใจฐานแฟนคลับของเขาเราจะรู้เลยว่าเด็กๆต้องการอะไร เด็กๆไม่ได้อยากเห็นอะไร ซึ่งถ้าผมยังฝืนอยู่ ผมยังไปตามจีบ คนจะเกลียดเขาเยอะมากกว่านี้ กลายเป็นว่าเด็กๆที่รักเขา ที่เขาสร้างมาอาจจะเป็นผลเพราะผม ถ้าผมยังอยู่ยังตามวุ่นวายกับเขา เด็กๆอาจจะหายไปมากขึ้นก็ได้ ทุกวันนี้เด็กๆ ยังตามด่าผมยันพ่อแม่อยู่เลยนะ พวกแฟนคลับเขา ตอนนั้นที่มีข่าวคือแฟนคลับด่าผมยันพ่อแม่เลย แต่ผมก็คิดว่าไม่เป็นไร ถ้าเป็นคนอื่นคงฟ้องจนรวยไปแล้ว เพราะนักแสดงสมัยนี้เขาฟ้องกันเงียบๆ ไม่มีใครรู้ด้วยนะ ถ้าผมฟ้องตอนนั้นได้เป็นหมื่นคน หมื่นคนคูณสองแสนคิดดูสิว่าได้เท่าไหร่”

ท้อไหม?

“ไม่ท้อ ชีวิตผมอยู่คนเดียวมาตลอดอยู่แล้ว แล้วผมก็มีนิสัยที่ชอบใครผมก็ทักไป ผมไม่มีแฟนไง ผมก็ทักไปคุย หรือใครทักมาเราก็ตอบหมดทุกคน”

เก๋ไก๋ว่าไงกับเรื่องนี้?

“ผมพยายามไม่พูดเรื่องนี้กับใคร เข้าใจว่าเด็กๆ เขารักสไปร์ทกับเก๋ไก๋ยังไง เราเห็นอยู่ แต่ละคนก็โดนด่ากันหมด ผมเห็นอยู่ว่าเก๋เขาโดนด่าหนักมาก ตอนที่ผมเข้าไปยุ่งกับเขา”

อนาคตอยากสานสัมพันธ์ต่อไหม?

“อนาคตไม่ทราบจริงๆ ด้วยหลายๆอย่าง ผมรู้สึกว่าต่างคนต้องทำงาน ตัวเขาก็ต้องมีฐานของเขา ก็เลยต้องจบกัน ตอนนี้ยังไม่ได้ไดเร็กต์ไปหาใครอีกเลย วันหนึ่งถ้าเราเจอคนที่ใช่ อยู่ด้วยกันแล้วไม่มีปัญหา ไม่ต้องมาเถียงมาทะเลาะกันเราก็ไปกับเขาได้ บางทีตัวผมอาจจะเป็นคนเยอะเกินไป นิสัยไม่ดีด้วย เลยทำให้ทุกวันนี้ไม่มีใครทนคบผมได้ก็เป็นได้”

ก่อนหน้านี้ขโมยขึ้นบ้าน ตอนนี้ได้ทำรั้วใหม่ยัง?

“ที่ผ่านมาผมไม่ทำรั้วบ้านเลยนะ เพราะบ้านผมติดคลอง ผมชอบที่ได้เห็นตัวเงินตัวทองวิ่งผ่านไปผ่านมา ได้เห็นนกมากินเศษอาหารหมา แต่ตอนนี้ผมต้องทำแล้ว เพราะว่าเป็นห่วงคุณแม่”

เสียทรัพย์สินไปเยอะ?

“เยอะมาก ผมไม่รู้ว่าใครจะเชื่อไหม ว่ามันเป็นร้อยชิ้น คิดนะถ้าเดี๋ยวขโมยถึงร้อยชิ้นแล้วจะไปแจ้งความ แต่พอขึ้น 20 ครั้งข้างบ้านทนไม่ไหวไปจัดการแจ้งให้แล้ว ตอนนี้ทำรั้วแล้วแต่ยังไม่มีประตู กำลังจะทำประตูเพิ่ม ทุกวันนี้คนรอบตัวเป็นห่วงผมกันมากๆ เพราะมันดูอันตรายมาก คิดเอาถ้าคุณเดินลงมาบ้านตัวเองแล้วเจอผู้ชายข้างเครื่องซักผ้า ถือมีดอยู่ ผมเจอแบบนี้มา2 ครั้งแล้ว”

“คนอาจจะตกใจ วิ่งหนี หรือว่าโพสต์อะไรไปแล้วแต่ผมเป็นคนคิดเยอะ คิดลึก ผมก็อยากจะให้โอกาส ไม่ได้ให้โอกาสโจรนะ แต่ผมอยากให้โอกาสครอบครัวเขา เราไม่รู้ว่าเขามีลูก มีพ่อแม่ไหม พ่อแม่เขาอาจจะโคตรดีก็ได้ ลูกเขาอาจจะกำลังเรียนหนังสือ เลยไม่อยากโพสต์เอาหน้าเขามาลงเพราะมันกระทบถึงคนอื่นๆไปด้วย ก็ให้ตำรวจเขาจัดการไป”

“เคยตื่นเช้ามาของหายไปหมดบ้านก็มี ผมจะคิดแค่ว่าไม่เป็นไร ครอบครัวเราปลอดภัยก็พอแล้ว ผมเป็นคนไม่หวงของด้วย มอเตอร์ไซด์คันเป็นล้านใครอยากเอาไปใช้ผมก็ให้เอาไปใช้เป็นเดือนเป็นปี ผมไม่เคยหวงเลย มันน่าจะเป็นนิสัยที่ไม่ดีของผม จากนี้ก็ต้องป้องกันบ้านให้ดีๆ”