“ไม่มีแม่คนไหนไม่รักลูก” คำกล่าวนี้พวกเราทั้งหลายคงจะเคยได้ยินกันมาบ่อยครั้ง เพราะความสัมพันธ์รักในครอบครัวอันแสนอบอุ่นเป็นพื้นฐานแรกของชีวิต มันยากที่จะเชื่อได้ว่า ผู้หญิงที่อดทนลำบากตั้งครรภ์มานานถึง 9 เดือน คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เห่กล่อม เปลี่ยนผ้าอ้อม จนเด็กคนหนึ่งเติบโตมาเป็นตัวเป็นตนนั้น ไม่รักลูกได้อย่างไร?แต่คำกล่าวที่ปฏิเสธได้ยากของชีวิตอีกข้อหนึ่ง ก็คือ “คนเราอาจจะรักคนอื่นได้ แต่ก็รักตัวเองมากกว่า”The Act เป็นซีรีส์ยอดเยี่ยมจากช่อง Hulu สร้างจากเรื่องจริงของคดีมาตุฆาตสะเทือนขวัญในอเมริกา เมื่อปี 2015 ซึ่งกลับกลายเป็นเปิดเผยคดีทารุณกรรมเด็กไปด้วยในคราวเดียวกัน เป็นเรื่องราวชีวิตของ ยิปซี เด็กสาวพิการที่ป่วยสารพัดโรคตั้งแต่เล็ก เธอเป็นทั้งมะเร็งเม็ดเลือด กล้ามเนื้ออ่อนแรง ลมชัก หอบหืด หยุดหายใจขณะหลับ ผมร่วง ฟันหลอ มองไม่ค่อยเห็นและหูไม่ดี ที่สำคัญต้องนั่งรถเข็นและให้อาหารปั่นทางสายยางยิปซีมีแม่ที่เรียนพยาบาล คอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง คือ ดีดี้ โดยสองแม่ลูกสนิทสนมกันมาก และท่าทางสดใสน่ารักมองโลกในแง่ดี ทำให้เป็นที่รักใคร่สงสารของเพื่อนบ้านและชุมชน จนได้รับความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศลต่าง ๆ มาสร้างบ้านที่เหมาะกับคนพิการอาศัยให้ฟรี รวมถึงมีผู้ส่งของขวัญและบริจาคเงินช่วยเหลือ พวกเธอได้ออกรายการทีวี และเป็นแรงบันดาลใจแก่ชาวอเมริกันแต่สุดท้ายแล้วความจริงกลับเปิดเผยออกมา เมื่อวันหนึ่งมีคนร้ายบุกเข้ามาฆ่าดีดี้ และลักพาตัวยิปซีไป ตำรวจสืบสวนจนพบว่าที่จริงแล้ว คนร้ายนั้นคือผู้ชายที่ยิปซีคุยแชทด้วยทางอินเทอร์เน็ต จนตกลงเป็นแฟนกัน ยิปซีขอให้เขามาฆ่าแม่ให้เธอเพื่อที่เธอจะได้เป็นอิสระ เหตุผลก็เพราะว่า ยิปซีไม่เคยป่วยเป็นโรคอะไรเลย แต่แม่ของเธอนั่นแหละที่วางยาเธอ ปลอมข้อมูลวินิจฉัยให้หมอผ่าตัดและถอนฟันเธอผิดๆ บังคับให้เธอต้องนั่งรถเข็นตลอดเวลาเรื่องนี้ช็อคคนอเมริกันมากจริง ๆ นะคะ ออกข่าวกันนานเป็นเดือน ตั้งแต่การตามจับคนร้าย ไปจนยิปซีมาขึ้นศาลในฐานะผู้วางแผนวานฆ่า และเธอต้องติดคุก แม้แต่หลังเข้าไปอยู่ในคุกแล้วก็ยังมีนักจิตวิทยา เช่น Dr. Phil เข้าไปสัมภาษณ์อย่างละเอียด ทีแรกที่ดู The Act เราก็เลยสงสัยอยู่เหมือนกันว่า คดีดังที่ผู้ชมอเมริกันส่วนใหญ่รู้รายละเอียด แบบมีทั้งสารคดี ทั้งหนังสือ หมดสิ้นแล้วอย่างนี้ เอามาทำละครแล้วมันจะน่าตื่นเต้นอย่างไร เพราะทุกคนรู้ตอนจบอยู่แล้วแต่ปรากฏว่า ซีรีส์แทบไม่เล่นตรงนั้นเลย เปิดมาตอนแรกปุ๊บ เฉลยให้รู้ปั๊บว่า ที่จริงยิปซีไม่ได้พิการ สิ่งที่เขาเลือกมาเล่นกลับเป็นความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก วิธีการแสดงสร้างภาพเพื่อโกหกผู้คนว่าพิการ ตัวตนจริงและปลอมที่เด็กแสดงออกกับพ่อแม่ กับเพื่อน กับแฟน กับสังคม (ตามชื่อเรื่อง The Act) พูดง่าย ๆ ว่าเราจะได้เห็นการเติบโตของเด็กสาวที่ถูกทารุณกรรมทั้งทางกายและจิต จนรู้สึกว่าตัวเองไม่มีทางสู้ ปฏิเสธแม่ไม่ได้ ยืนหยัดในความคิดเห็นและความต้องการของตนไม่เป็นดีดี้เป็นตัวละครที่น่าขนลุกมาก เธอน่าจะมีอาการของโรคจิต Munchausen syndrome by proxy หมายถึง คนที่เป็นผู้ดูแลคนป่วย แต่กลับทำร้ายให้คนป่วยนั้นป่วยมากยิ่งขึ้น อาจเพราะชื่นชอบคำชื่นชมยกย่องที่ได้รับในฐานะ “ผู้เสียสละ” ใช้ชีวิตเพื่อคนอื่น ในกรณีนี้ถ้าสมมติว่ายิปซีหายป่วย ดีดี้ก็จะกลายเป็นแม่บ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่งเท่านั้นเราชอบที่เขาถ่ายทอดปัญหาความเป็นแม่ในอุดมคติของผู้หญิง ที่ถูกคาดหวังให้ต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงลูก แม้ว่าจะหย่าไปแล้ว ไม่ได้ค่าเลี้ยงดูอะไรจากสามี อาชีพของตัวเองที่อยากทำก็ไม่ได้ทำ เลยกลายเป็นบ้า มาเรียกคะแนนน่าสงสารน่ายกย่อง ด้วยการวางยาลูกให้ป่วยยิ่งขึ้น เนื่องจากชีวิตไม่มีความภาคภูมิอย่างอื่นแล้ว ถ้าออกไปหาเงินนอกบ้านก็เหมือนทอดทิ้งลูก เป็นแม่ใจยักษ์ (เรากลับไม่มีคำตำหนิว่า พ่อใจยักษ์ สำหรับผู้ชายที่ทิ้งลูกสักเท่าไร) สู้ดีดี้เลี้ยงลูกเอง แล้วรับเงินบริจาคดีกว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือลึก ๆ เธอเกลียดลูก เพราะการมีลูกนั่นแหละเป็นตัวบังคับให้เธอต้องเลี้ยง แทนที่จะได้มีชีวิตของตัวเอง ปัญหามันก็เลยวนเวียนอยู่ในอ่างสิ่งที่ดูเป็นกรรมสนองอย่างสาสมที่สุด คือ ดีดี้บังคับให้ยิปซีคิดอะไรเป็นเด็ก ๆ กว่าอายุอยู่ตลอด เช่น อนุญาตให้ดูแต่การ์ตูนดิสนี่ย์เท่านั้น เธอจะได้ดูอ่อนต่อโลก น่าเอ็นดูสำหรับสังคมตลอดไป จึงนำไปสู่แรงจูงใจในการฆาตกรรมของยิปซี โดยหา Prince Charming เจ้าชายขี่ม้าขาวมาช่วยสังหารแม่มดในชีวิตของเธอ จะบอกว่าเลียนแบบนิทานเรื่องราพันเซลก็คงไม่ผิดนักเรื่องยังก่นด่าความอยุติธรรมและไม่ใส่ใจของสังคม ตั้งแต่เพื่อนบ้าน หมอ เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก สื่อ ตำรวจ ยันศาล จนยิปซีที่เป็นเหยื่อความโรคจิตของดีดี้แท้ ๆ ต้องโทษจำคุกถึง 10 ปี หากมีใครสักคนตรวจสอบจนรู้ความจริง แทนที่จะมัวซาบซึ้งกับการทำบุญให้แม่ลูกผู้แสนน่าสงสาร โศกนาฎกรรมทั้งหมดนี้คงไม่เกิดขึ้นเลยด้านการแสดง แน่นอนที่สุดต้องชมนักแสดงตัวเอกของเรื่อง โจอี้ คิง (Joey King) ผู้รับบทยิปซี เล่นดีเหนือความคาดหมายมากค่ะ ทั้งน้ำเสียง แววตา ท่าทาง ทุกอย่างเหมือนกับยิปซี โรส บลังชาร์ด ตัวจริงในคดีเป๊ะ ลบภาพความติ๊งต๊องจากบทบาทของเธอในหนังวัยรุ่นอื่น ๆ อย่าง Kissing Booth ไปได้เลย เรื่องนี้มีบทยากที่เผยความสามารถของสาวโจอี้ออกมาได้เต็มที่จริง ๆฉากที่บีบคั้นเราที่สุด คือตอนที่ยิปซีฟื้นขึ้นมา หลังแม่บังคับให้กินยาซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ฟันเน่า ฟันร่วง และแม่ก็หลอกไปให้หมอฟันฉีดยาสลบ แล้วถอนฟันเธอทิ้งจนเกือบหมด สาวโจอี้แสดงได้เจ็บปวดมากจนติดตาเลยค่ะ ราวกับว่าเราได้ประสบกับความโหดร้ายนี้ไปด้วยอย่างไรก็ขอแนะนำเรื่องนี้ สำหรับผู้นิยมซีรีส์แนวคดีฆาตกรรม อาชญากรรมเยาวชน และจิตวิทยา เชื่อว่าใครที่ชอบเรื่อง American Murder: The Family Next Door คดีของ คริส วัตต์ส ชายที่สังหารลูก ๆ และภรรยาแบบยกครัว ก็จะตื่นเต้นและระทึกขวัญกับ The Act มากไม่แพ้กัน สามารถเข้าไปดูได้ที่ ช่อง Hulu แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า ไม่เหมาะกับผู้เป็นโรคซึมเศร้านะคะ ขอบคุณภาพจากเว็บไซต์ของช่อง Hulu Official