รีเซต

ได๋ ไดอาน่า เหนื่อยแต่สู้!  เตือนอย่าประมาทกับโควิด-19  ตัวเลขพุ่ง

ได๋ ไดอาน่า เหนื่อยแต่สู้!  เตือนอย่าประมาทกับโควิด-19  ตัวเลขพุ่ง
ข่าวสด
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 12:12 )
61

ได๋ ไดอาน่า เหนื่อยแต่สู้! เตือนอย่าประมาทกับโควิด-19 ตัวเลขพุ่ง

พิธีกรสาวคนเก่ง ได๋ ไดอาน่า จงจินตนาการ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบงาน เปิดตัวพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขอบเปลือกตา “OCuSOFT” (อ๊อกคิวซอฟท์) ณ สยามพารากอน เมื่อวันก่อน(23 กพ65) ถึงสถานการณ์ของผู้ติดโควิดที่อยู่ภายใต้การดูแลของเพจ "เราต้องรอด" ที่ตนเองเป็น ผู้ร่วมก่อตั้ง

"ต้องบอกว่าสถานการณ์ ถ้าเราดูจากตัวเลขมันมากขึ้นกว่าทุกๆวันที่ผ่านมา จริงๆถ้าเราลองดูนะคะ จะเห็นว่ารอบก่อนตัวเลขที่มากที่สุดคือวันที่ 13 สิงหาคม 2564 ตอนนั้นตัวเลขยังไม่เยอะเท่ากับตอนนี้

เพราะฉะนั้นจะบอกว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่น่าเป็นห่วงมากๆ แต่ภายใต้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง ก็ยังมีอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอุ่นใจได้บ้าง คือจำนวนผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว มีมากกว่ารอบก่อน แล้วอัตราที่เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤตน้อยกว่ารอบก่อนเยอะมาก"

เห็นยอดขึ้นเร็วตกใจไหม? "ไม่ตกใจกับยอดที่ขึ้นมาเร็ว มันเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าพอถึงเวลาที่เราในฐานะคนหน้างานที่จะต้องรับมือกับสถานการณ์จริงๆมันก็คอขวดค่ะ อย่างตอนที่เราขึ้นเวที หลังบ้านก็กำลังมีปัญหาเรื่องของการจ่ายยาฟาวิพิราเวียร์

เพราะก่อนหน้านี้ทุกเคสจะสามารถขอยาฟาวิพิราเวียร์ได้ แต่ปริมาณยามีจำกัด เพราะฉะนั้น เราต้องพยายามทำความเข้าใจกับผู้ป่วยว่าหากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่ได้มากนัก ก็จะให้ดูแลตัวเองเบื้องต้นไปก่อน เป็นไข้ก็กินยาแก้ไข้ เจ็บคอกินยาแก้เจ็บคอ แล้วก็กินยาวิตามินซี ฟ้าทลายโจร ดูแลตัวเองเบื้องต้นไปก่อนในระหว่างรอการประสานงาน

เพราะว่าในบางครั้งในการที่จะประสานงานไปที่หน่วยงานต่างๆ ต้องเข้าใจว่า 2-3 วันมานี้ ปริมาณเคสเยอะมาก เพราะฉะนั้นอาจจะไม่ทันท่วงที อย่ารอนะคะ อยากให้ทุกคน ถ้ามีอาการให้ทานยาดักไว้ก่อน แล้วก็อย่าหลอกตัวเอง

ถ้าสมมุติมีอาการห้ามคิดเด็ดขาดเลยว่าฉันไม่เป็นหรอก ให้คิดไว้เลยว่าเป็นแน่นอนเพื่อที่จะได้ป้องกันตนเอง จริงๆอยากจะบอกว่า 7 ถึง 10 วันที่ผ่านมานี้ ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อน เพื่อนของเพื่อน พี่น้องสื่อ คนในวงการ ที่ติดแล้วเขามีความกังวลว่า เอ๊ะ ฉันอาจจะไม่ได้ติดจริงก็ได้ เดี๋ยวลองไปตรวจโควิด rt pcr ก่อน พอ atk ขึ้น2ขีดปุ๊ป ไป rt pcr ก่อน แล้วระหว่างที่รอผล rt pcr ก็จะใช้เวลาประมาณ 24 ชั่วโมงใช่ไหมคะ

ระหว่างนี้ถ้าเราเริ่มสตาร์ทกินยาก่อนมันจะดีกว่าไหม เพราะฉะนั้นอยากจะบอกทุกคนว่า ถ้ามีอาการอย่ารอ กินยาบรรเทาอาการของตัวเองไปก่อน ถ้าสมมุติว่าเราไม่ได้มีโรคประจำตัวอะไรมาก และส่วนมากจะสามารถหายเองได้ภายใน3-5วัน แต่ถ้ามีโรคประจำตัวหรือว่าไม่เริ่มทานยา มันก็จะมีโอกาสที่มันจะรุนแรงกว่าเดิมได้"

ปัญหาที่เจอส่วนใหญ่ตอนนี้คืออะไร? "น่าจะเป็นปัญหาเรื่องคอขวด อย่างที่พี่น้องสื่อมวลชนก็รู้ว่าเรายังไม่เคยหยุดทำงานเลยตั้งแต่ 25 เมษายนปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้ เพราะฉะนั้นระบบทุกอย่างที่เราเซ็ตเอาไว้อยู่แล้ว มันก็คือจากสแตนด์บายก็กลับมารันตามปกติ เพียงแต่ว่าปริมาณที่เราคาดการณ์ไว้พอมาจริงๆโหมันมาหนักเลย

เพราะว่า "เราต้องรอด" สำหรับผู้ป่วยที่ต้องการยาสำหรับทำ home isolation บางคนเขาก็กลัว เขาจะรับผิดชอบต่อสังคม เขาก็ไม่กล้าออกจากบ้าน พี่จะให้หนูออกไปซื้อยาได้ยังไงก็กลัวจะเอาไปติดกับคนอื่น ก็โอเคงั้นอยู่บ้านเดี๋ยวเราจะส่งยาให้

สำหรับยาสามัญประจำบ้านที่บางคนไม่ได้ซื้อติดไว้ อันนี้เราก็ต้องช่วยส่งให้ เราก็จะมีหน่วยงานของ กทม. เราก็จะติดต่อโดยตรงที่จะประสานงานในการทำเอกสารแล้วก็รายละเอียดต่างๆเพื่อขอทำ home isolation ให้กับผู้ป่วย"

ศูนย์พักคอยมันล้นไปขนาดไหนแล้ว? "ยังศูนย์พักคอยของเรามันมีทั้งหมด3ศูนย์ด้วยกันนะคะ มีพี่เขตประเวศน์ ตอนนี้ก็เต็ม เขตห้วยขวาง ตอนนี้ก็เต็ม อย่างเขตคันนายาว ตอนนี้ก็ล้น อย่างที่ทุกคนก็คงจะเห็นใน Facebook อยู่แล้วนะคะ เราก็จะบอกตลอดว่าเต็ม

แต่พอเราบอกไปแบบนั้นบางคนเขาก็จะไม่เชื่อ จริงๆคือตอนนี้เราก็ได้มีการเอาเตียงออก แล้วก็เอาที่นอนปิกนิกมาปู เพื่อที่เราสามารถบริหารจัดการเคสได้ เพราะเนื่องจากว่าเราก็ต้องเข้าใจว่าบางคนเขาจะต้องแยกกักตัวจริงๆ แล้วเขาไม่มีที่ไป เราก็แค่เอาเตียงออกแล้วก็เอาที่นอนปิกนิกใส่ไป

เพราะฉะนั้นมันเป็นเรื่องที่เราจะต้องบริหารจัดการ แล้วก็ได้มีการประชุมหารือท่านอธิบดีกรมการแพทย์ ว่าเราจะร่วมมือกันยังไง เพราะทั้งกรมการแพทย์เองและ กทม.เอง เราก็กำลังหารือร่วมกันว่าอาจจะมีการเปิดศูนย์พักคอยเพิ่ม เราจะสื่อสารกันยังไงเพื่อให้ประชาชนทุกคนไม่อยู่ในความวิตกว่า ทำไมหน่วยงานถึงยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีได้ เพราะฉะนั้นก็อยากจะเรียนไว้ก่อนเลยว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน อยากให้มีการดูแลตัวเองก่อนอย่าพึ่งรอใคร"

กังวลไหมว่าจะช่วยเหลือคนไม่เต็มที่? "จริงๆตอนนี้อาสาสมัครก็เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากที่ก่อนหน้านี้ขอไปทำงานของตัวเอง แต่ตอนนี้ก็เริ่มเติมกำลังคนของเราให้เข้ามาแล้ว ก็สแตนด์บายทุกคนเอาไว้ อย่างที่บอกว่าเรายังไม่เคยหยุดทำ เพราะฉะนั้นทุกอย่างที่เราสแตนด์บายเอาไว้ เราก็แค่ปรับโหมดเข้าสู่การทำงาน ก็เหนื่อยหน่อยค่ะ แต่ก็ยังสู้ไหว"

ก่อนหน้านี้บอกว่าทำงานจนไม่ได้นอน ทุกวันนี้ได้นอนบ้างหรือยัง? "ได้นอนไปช่วงก่อนปีใหม่แป๊บนึง ตอนนี้ก็กลับมาไม่ค่อยได้นอนอีกแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรค่ะ เหมือนกับว่าเราแค่ต้องตบๆระบบให้มันเข้าหลังบ้านให้มันได้ แล้วโฟลในการทำงานก็จะได้ดีขึ้น เหมือนกับว่าเราจะต้องประสานทุกหน่วยงานให้ได้มากที่สุด เพื่อให้ทุกอย่างมันสามารถเดินได้แบบไม่สะดุด"

อย่างเคสที่ศูนย์พักคอยไม่สามารถช่วยเหลือได้เรามีวิธีการรับมือยังไง? "ถ้าศูนย์พักคอยไม่สามารถรับได้ เราก็ต้องรับไว้ก่อน เนื่องจากว่าเราไม่สามารถที่จะให้ผู้ป่วยที่อาการหนักที่ไม่สามากเข้าถึงการรักษาได้อยู่โดยที่ไม่มีคนดูแล เราก็จะรับเขาเข้ามาก่อนแล้วค่อยว่ากันในวันรุ่งขึ้นว่าพรุ่งนี้เช้าเราจะประสานเขาไปที่ไหน ถึงแม้ว่าโอมิครอนจะดูเหมือนไม่รุนแรง

แต่ก็ยังมีผู้ป่วยที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนและผู้ป่วยที่มีอาการที่รุนแรงอยู่ กลุ่มนี้ยังคงหาเตียงยาก เตียงเหลืองเตียงแดงไม่ได้หาง่าย เพราะฉะนั้นมันก็เป็นเรื่องของการบริหารจัดการ แล้วก็การประสานงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เราสามารถช่วยเหลือทุกคนได้อย่างทันท่วงที"

ตอนนี้เริ่มมีเคสคนนอนข้างถนน รู้สึกยังไงที่เห็นเคสแบบนี้? "รู้สึกว่าเขาอยู่ที่ไหนเดี๋ยวไปหา คือมันไม่หนักเท่ากับรอบก่อนที่ดึงความรู้สึกของเราให้ดิ่งไปมาก รู้สึกว่ารอบก่อนหน้านี้เราเจอคนเสียชีวิตทุกวันแต่ตอนนี้มันเป็นประมาณว่าเคสนี้ที่ไหนคะนอนอยู่ข้างถนนใช่ไหม

ถึงศูนย์เราจะเต็มแค่ไหนแต่พื้นก็ยังว่าง เพราะฉะนั้นแทนที่เขาจะไปนอนพื้นถนน มาพื้นเราก็ได้ มาพื้นเรา เรามีข้าวให้มีน้ำให้ มีที่นอนให้ ให้เขานอนพักผ่อนให้สบายแล้วพรุ่งนี้เราค่อยประสานได้ ถามว่ามันบริหารจัดการได้ไหม มันไม่ได้แย่เหมือนก่อนเหมือนกับว่าเราซ้อมกันมาเยอะแล้ว"

อยากให้คนระวังตัวยังไง? "ขออนุญาตพูดสองแบบแล้วกันนะคะ อย่างแรกเลยจำได้ไหมว่าผู้ป่วยผู้ติดเชื้อในประเทศไทยเป็นหลักหมื่น เพราะฉะนั้นทุกคนกลัวกันมากไม่กล้าออกไปไหนเลย แต่ทุกวันนี้เดินไปที่ห้างสรรพสินค้าตามร้านอาหารต่างๆคนอยู่กันเยอะแยะมากมายโดยที่ลืมไปแล้วหรืออาจจะไม่สนใจแล้ว ไม่เป็นไรหรอกโควิด คนนั้นคนนี้ก็ติด ตอนเนี่ยเหมือนกับว่าโควิดมาลุยเราเรื่อยๆ บางคนติดจนหายแล้วก็อาจจะยังไม่รู้ตัว

จะบอกว่าบางคนตรวจatk ไม่ขึ้น rt pcr ไม่ขึ้น เลยไปตรวจภูมิ ปรากฏว่าภูมิขึ้น แล้วคุณหมอแจ้งว่าเนี่ยคุณติดโควิดจรหายแล้ว แบบนี้ก็จะมีเยอะ เพราะฉะนั้นเนี่ยสบายใจได้ว่า ติดหรือยัง(หัวเราะ) เพราะฉะนั้นอยากจะให้ทุกคนนำมายเซ็ตเดิมที่เราเคยกลัวหวาดระแวงกันยังไง บางคนอาจจะบอกว่าเว่อร์หรือเปล่า มาสร้างความวิตกหรือเปล่า คือคนที่แข็งแรงก็ไม่เป็นไรไงคะ

เพราะคนที่แข็งแรงร่างกายสามารถดูแลและขจัดเชื้อออกไปได้ แต่อย่าลืมว่าเรามีคนที่บ้านหรือคนแก่ที่บ้านที่เราต้องดูแลหรือเปล่า พ่อแม่เราแข็งแรงเปล่า เด็กเบบี๋ที่เขาไม่สามารถที่จะพูดได้ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน กลุ่มเปราะบางต่างๆ เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนดูแลตัวเองให้ดีที่สุด

ส่วนที่สองคือตอนนี้สถานการณ์ของตัวเลขมันเพิ่มขึ้นเยอะมากๆ เพิ่มขึ้นทุกๆวัน ลองคิดดูนะคะว่า 2หมื่น ติดกัน3-4วัน เคสที่ตกค้างอยู่ในระบบมันจะเยอะขนาดไหน เพราะฉะนั้นบางทีการที่เราจะรอประสานงานอย่างเดียวมันอาจจะไม่ทันใจ

อยากจะย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า หากคุณไม่ได้มีอาการเยอะมากดูแลตัวเองไปก่อนในระหว่างนั้นก็ประสานไปด้วย อย่ารอเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าเจ็บคอไม่เป็นไร ฉันรอประสานก่อน เป็นอะไรให้ทานยาตามอาการไปก่อนเลยค่ะเพื่อที่ว่าเราจะได้เซฟฮอสพิเทลหรือโรงพยาบาลให้กับผู้ป่วยที่จำเป็นจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์จริงๆ"

ตัวเราเจอเคสทุกวันต้องดูแลตัวเองขนาดไหน? "เชื่อไหมคะ ทุกครั้งที่เพื่อนโทรมาจะชอบพูดว่า อะไรวะ ทำไมพี่ได๋ไม่ติด ต้องบอกแบบนี้ว่าเราทำงานอยู่ในศูนย์พักคอย เรารู้ว่าอันนี้คือคนที่ติดอันนี้คือคนที่ไม่ติด เราก็จะสามารถระวังตัวเองได้

แต่ทุกวันนี้คนเราใช้ชีวิตกันอย่างปกติเลยทำให้คนที่ใช้ชีวิตปกติน่ากลัวกว่าการทำงานในศูนย์พักคอย เพราะว่าเราไม่รู้ว่าซ้ายขวาหน้าหลังใครติดบ้าง ก็อยากจะให้ทุกคนดูแลตัวเองถ้าหากยังไม่เป็น ให้ซื้อยาสามัญประจำ บ้านและติดฟ้าทะลายโจรเอาไว้ที่บ้าน เพราะเราไม่รู้ว่ามันจะมาถึงเราเมื่อไหร่ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนด้วยนะคะ เพราะมันจะไม่จากเราไปง่ายๆและไม่จบไปง่ายค่ะ"

น้าเน็กเป็นยังไงบ้าง จากดราม่าที่เกิดขึ้น? "ต้องบอกว่าหลังจากที่เจอกันวันนั้นน้าเน็กก็โทรมาบอกว่าถ้ามีอะไรเดี๋ยวน้าจะเป็นคนคุยเอง เพราะก่อนหน้านี้ก็จะมีสื่อมาขอสัมภาษณ์ก็จะบอกว่าไม่สะดวกตอบ เพราะน้าเน็กจะตอบเอง ส่วนได๋ ถ้าถามว่ารู้สึกยังไง คือไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว ก็ดีใจที่ได้ทำรายการแบบนั้น เพราะเรารู้สึกว่าเราอยู่ในจุดที่สามารถเชื่อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง แล้วเราสามารถใช้ตัวเองเป็นกระบอกเสียงได้อย่างแท้จริง รู้สึกดีใจ และดีใจที่สอง ก็คือดีใจที่มีเพื่อนใหม่ ก็คือ ไพรวัลย์"

ขอบคุณรูปจากไอจี : ladydna