“แอน” ตอบวิกฤตช่อง 3 ลั่น! ต้องเรียนรู้ใส่ใจปมดราม่านำสัตว์เลี้ยงเข้าฉาก
“แอน” ตอบวิกฤตช่อง 3 ลั่น! ต้องเรียนรู้ใส่ใจปมดราม่านำสัตว์เลี้ยงเข้าฉาก
เป็นอีกหนึ่งผู้จัดที่มีละครออนแอร์อยู่ 2 เรื่อง ผู้จัดคนเก่ง “แอน ทองประสม” นอกจากนี้ผู้จัดคนเก่งยังได้พูดถึงวิกฤตช่อง 3 ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ว่ากระทบกับงานผู้จัดของตนเองหรือไม่ รวมไปถึงการทำงานที่ต้องเอาสัตว์มาเข้าฉากในละคร หลังเกิดเคสกับน้องแมวที่กำลังเป็นดราม่าดัง
“วิกฤตช่อง 3 ที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร ในรายละเอียดภายในของช่องเราจะไม่ทราบ เพราะว่าเราไม่ได้เข้าไปอยู่ข้างใน แต่ในฐานะที่เราเป็นผู้จัดก็จะรู้แต่ว่าละครจะถูกคัดสรรค่อนข้างละเอียดขึ้น ไม่ได้ว่าอนุมัติได้ง่ายๆ ต้องนำเสนอกันหลายรอบนิดนึง ทุกวันนี้กว่าละครจะออกมาได้แต่ละเรื่องต้องผ่านหลายด่าน แต่ก่อนอาจจะเร็วกว่านี้ แต่ตอนนี้ก็จะช้าลงหน่อย อย่างตอนนี้ของเรามีอยู่ในกระ บวนการที่เตรียมเสนออนุมัติ แต่ยังไม่ได้อนุมัติออกมานะ ปกติเราก็จะเสนอทีละเรื่องอยู่แล้ว แต่ที่เห็นว่าปลายปีเรามี 2 เรื่องชนกันเพราะว่าเป็นเรื่องที่มากองรวมกัน จริงๆ เราทำเสร็จไปตั้งนานแล้ว
ส่วนตัวมองว่ามันเป็นอะไรที่ดี เราก็เห็นด้วยกับมาตรการอะไรบางอย่างของช่อง ชัดเจนไปเลยว่าช่องอยากได้อะไร อยากให้เรานำเสนออะไร แล้วไม่ต้องการให้เราเอาอะไรออกมา ไม่แน่ใจว่าคาแรกเตอร์ของแต่ละผู้จัดก็อาจจะได้โจทย์ต่างกันหรือเปล่า อย่างเราก็จะเป็นรักโรแมนติก ถ้าเรานำเสนอแนวบู๊ไปเขาก็คงไม่อนุมัติ แต่ถ้าเป็นผู้จัดท่านอื่นที่ถนัดบู๊ช่องก็อาจจะอนุมัติก็ได้ เหมือนทางช่องคงอาจจะให้ผู้จัดแต่ละคนมีลายเซ็นคาแรกเตอร์ของใครของมันที่ชัดเจนไปเลย
งบประมาณก็ลดลงเยอะด้วยไปต่างประเทศถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ไป แต่ว่าในคุณภาพที่ทำอยู่ก็เหมือนเดิม ทางช่องก็รักษามาตรฐานในการทำงานอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าอะไรที่ดูเป็นโปรดักชั่นที่ใหญ่มากเกินไป ที่ใช้เงินเยอะๆ ไม่จำเป็นก็เก็บไว้ก่อนเดี๋ยวค่อยว่ากัน แต่ทั้งหมดมันก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรงที่เราจะรับได้ เพราะเราไม่ได้เป็นคนที่ทำบิ๊กโปรดักชั่นอยู่แล้ว เราเป็นละครผู้หญิงที่ไม่ได้ตู้มต้าม แล้วก็ไม่ได้เป็นละครประวัติศาสตร์ใหญ่โต ถ้าอย่างนั้นอาจจะใช้เงินเยอะซึ่งอาจจะกระทบหนักหน่อย ส่วนเราก็ทำไปแบบนี้มินิมอลของเรา ซึ่งก็ยังอยู่ในจุดที่เรารับได้อยู่ ทางออกก็คือทุกคนต้องแข็งแรงถึงจะรอด คือเราต้องแข็งแรงจริงๆ ต้องทำให้อยู่หมัดและทำให้คนดูชอบจริงๆ ถึงรอด
การเอาสัตว์มาเข้าฉากในละคร เราก็เคยทำละครที่มีสัตว์เข้าฉาก ตอนนั้นเป็นน้องหมาในเรื่อง “อกเกือบหักแอบรักคุณสามี” แต่ว่าเขาก็เป็นหมาร่าเริงปกติ ไม่ได้ให้เขามาทำอยู่ในบทบาทที่พิเศษอะไร มันก็เลยไม่ได้มีปัญหา กรณีของเราก็จะมีทางเจ้าของที่ต้องดูแลใกล้ชิด ส่วนสัตว์เองก็ต้องผ่านการตรวจมาแล้วว่าไม่ได้เป็นอันตรายกับใคร แล้วก็เป็นน้องหมาที่ได้รับการฝึก และมีใบชัดเจนว่าถูกเทรนมาอย่างดี ส่วนใหญ่เราจะไม่ได้เอาสุนัขหรือสัตว์ที่ไม่ได้มีประสบการณ์มาเข้าฉาก เพราะว่ามันคุมไม่ได้ ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเพราะเราไม่ได้เอาเขามาทำอะไรที่ยุ่งยาก อีกอย่างเขาก็จะมีระยะของเขาที่โฟกัสได้แค่สั้นๆ เราต้องรีบถ่ายเขาก่อน แล้วเอาเขาไปเก็บ ให้เขาพักให้เขานอนแล้วออกมาใหม่ มันจะมีสูตรของมัน ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของก็จะเป็นคนให้ข้อมูลเรา
แอนเข้าใจมุมมองของทุกฝ่าย สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นอะไรที่เราได้ศึกษาเรียนรู้ว่าต้องระวังยังไง เพราะเราในฐานะที่ประสบการณ์น้อยกว่าผู้จัดท่านอื่นๆ ด้วย เรายิ่งต้องใส่รายละเอียดค่อนข้างเยอะ อย่างสมมติถ้าเราไม่รู้บางอย่างเราอาจจะพลาดก็ได้ แต่ว่าตอนนี้มันอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้แล้ว ถ้าจะทำอะไรที่เกี่ยวกับสัตว์ก็ต้องเรียนรู้”