ชวนชม Love Scout (2025) รับจ้างจัดหารัก สวยงามน่าค้นหามาพร้อมพลังดาราที่ดึงดูดสายตาพาใจฟูฟ่องล่องลอยด้วยเสน่ห์ของ "ฮันจีมิน" และ "อีจุนฮยอก" ที่มาแบบล้นเหลือ รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ถ้าถามถึงนักแสดงเกาหลีฝ่ายหญิงในดวงใจผู้เขียนอาจจะเป็นเธอคนนี้ที่ผู้เขียนโดนเธอตกมาตั้งแต่ได้ดูซีรีส์ One Spring Night (2019) เธอคือฮันจีมินและอีกคนคือกงฮโยจินที่ผู้เขียนโดนตกจาก When the Camellia Blooms (2019) แต่เนื่องจากฮันจีมินมีงานซีรีส์มากกว่ากงฮโยจินที่งานจะเน้นไปทางภาพยนตร์มากกว่าซึ่งแน่นอนว่าหนังเกาหลีไม่ค่อยมีโอกาสผ่านตามากเท่าซีรีส์หรือละครโทรทัศน์ กลายเป็นว่าผู้เขียนสามารถตามเก็บงานของทั้งสองคนแล้วก็เป็นทางฮันจีมินที่มีงานให้เก็บได้มากกว่าจนกลายเป็นว่าผู้เขียนไม่สามารถเก็บเธอไว้ (ในใจ) ทั้งสองคนถ้าให้เลือกที่หนึ่งในใจเพียงหนึ่งเดียวคงต้องเลือกฮันจีมิน แล้วก็เป็นทางฮันจีมินที่มีงานออกมาให้ติดตามได้ต่อเนื่องกว่าทางกงฮโยจินที่ช่วงหลังรับงานน้อยมาก แล้วต้นปี 2025 นี้ทั้งสองคนก็มีงานละครซีรีส์ที่ออกอากาศทางบ้านเขามาให้ติดตามที่บ้านเราพร้อมๆกัน จึงเป็นที่มาของบทความนี้ที่ขอว่ากันที่งานของฮันจีมินก่อนเพราะออกอากาศก่อนหนึ่งวันกับนักแสดงที่ไม่ว่ายังไงผู้เขียนก็ไม่มีทางพลาด คังจียุน (ฮันจีมิน) ซีอีโอที่ประสบความสำเร็จของบริษัทจัดหาพนักงานด้วยการสรรหาผู้บริหารฝีมือดีให้เปลี่ยนที่ทำงานที่เรียกกันว่า Head Hunter และเธอทุ่มเทให้กับงานจนชีวิตยุ่งเหยิง ประกอบกับเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมีระเบียบจนกลายเป็นว่าเธอทำงานหนักเกินไปเพราะไม่มีการบริหารเวลาให้ดีที่เพื่อนซี้ที่เป็นเพื่อนร่วมงานคือซอมีแอ (อีซังฮี) พยายามหาเลขามาบริหารเวลาให้คังจียุน แต่ก็ตามนั้นเมื่อไม่มีใครทนความเป็นคังจียุนได้จนหาเลขามาทำงานให้ไม่ได้อีกจนกระทั้งเมื่อมีงานหนึ่งที่คงจียุนต้องติดต่อนักวิจัยระดับสูงให้ย้ายบริษัท แต่มีผู้จัดการฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคลของบริษัทนั้นขัดขวางไว้ทำให้คังจียุนไม่พอใจอย่างยิ่งเขาคนนั้นคือยูอึนโฮ (อีจุนฮยอก) พ่อเลี้ยงเดี่ยวผู้แสนดีที่ใครเห็นก็ต้องรักแต่การประสานงากันทำให้คังจียุนเกลียด แต่แล้วการถูกกลั่นแกล้งภายในบริษัทของยูอึนโฮก็ทำให้เขาตกงานแล้วความไม่บังเอิญก็ทำให้เขาได้รับงานเป็นเลขาของคังจียุนแล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนที่เธอเกลียดกลายมาเป็นเลขาที่จะทำหน้าที่จัดการชีวิตให้เธอ เหมือนเป็นรูปแบบพื้นฐานแต่ยังทำงานได้ผลเมื่อเกาหลีหยิบเอาหน้าที่การงานที่ไม่มีใครคิดมาเล่าเป็นพื้นฐาน เอาจริงนี่คืองานที่เกาหลีหรือที่ไหนก็เอามาเล่นบ่อยมากกับเรื่องความรักที่พัฒนาในที่ทำงานหรือความรักระหว่างผู้บริหารกับเลขาที่ขี้เกียจรำลึกแล้วว่าเคยได้รับรู้เคยดูมากี่ครั้ง แต่จุดเด่นอย่างหนึ่งของเกาหลีคือการนำเสนออาชีพหรือหน้าที่การงานแปลกๆหรืออาจจะไม่แปลกแต่คนคิดไม่ถึงมาเล่าได้อย่างเข้าใจลึกซึ้งถ่องแท้ อย่างเรื่องนี้คือบริษัทสรรหาพนักงานผีมือดีเพื่อยื่นข้อเสนอให้ย้ายบริษัทที่เรียกง่ายๆว่าการซื้อตัว ทำให้จุดเริ่มต้นน่าสนใจก่อนด้วยการเปิดหัวบอกให้คนดูรู้ว่าอาชีพนี้ทำงานยังไงเพื่ออะไรอะไรคือจรรยาบรรณของอาชีพนี้ที่บางคนอาจมองไม่เห็นเพราะจรรยาบรรณมันเป็นเรื่องส่วนบุคคล นั่นทำให้เรื่องเปิดตัวดีกับผู้หญิงบ้างานคนหนึ่งที่ไม่คิดจะทำอย่างอื่นนอกจากงานแม้กระทั่งข้าวยังไม่กิน แล้วเอาเรื่องนี้มาเป็นพื้นฐานของความรักที่จะพัฒนาต่อไปที่ดูยังไงก็ยังเป็นเรื่องเดิมๆที่เคยๆแต่ไม่รู้ทำไมเมื่อเกาหลีเอาเรื่องเคยๆมาทำมันยังสนุกอยู่ดี ความรักที่พัฒนาจากความเหม็นขี้หน้าที่พาความอบอุ่นหัวใจมาพร้อมดราม่าที่ซ่อนไว้ให้ต้องติดตาม แน่นอนว่านี่คืองานโรแมนติกคอมมิดี้ที่มีความโรแมนติกนำที่แค่เห็นโปสเตอร์ก็พอรู้แต่ไอ้ครั้นจะมีแค่เรื่องโรแมนติกผสมอารมณ์ขันเล็กบ้างใหญ่บ้างมันก็จะไม่มีสีสันอื่นใดนอกจากสีชมพู สิ่งที่เป็นและทำให้เรื่องน่าติดตามว่าหนทางข้างหน้าอีกยาวไกลคนดูจะได้เจอได้ลุ้นอะไรก็คือดราม่าของทั้งสองคนที่เบื้องหลังซึ่งสองตอนนี้ฝั่งนางเอกมีมาแล้วสองเรื่องที่สร้างความน่าติดตามอย่างหนัก ส่วนพระเอกก็น่าเห็นใจในความเป็นพ่อที่ดีของเขาและอยากรู้ว่าเขาจะไปทางใดต่อนอกจาการที่ผู้บริหารสาวสวยที่เหม็นขี้หน้าเลขาสุดหล่อผู้แสนดีจะลงเอยกันยังไงจะเดินผ่านสถานการณ์ต่างๆหลังจากนี้ไปได้แบบไหน แน่นอนเมื่อว่ากันที่ชายผู้แสนดีมันก็มีความรู้สึกอบอุ่นในใจที่เห็นชัดว่านางเอกต้องการสิ่งนี้มาเติมเต็มไม่น้อยที่ต้องชื่นชมคนเขียนบทที่วางรากฐานตรงนี้ไว้อย่างดี ทั้งยังไม่พอยังมีเรื่องการแข่งขันเชิงธุรกิจที่มีเบื้องหลังที่น่าดูชมผ่านสองตอนที่เรียกได้ว่าครบรสครบอารมณ์โดยแท้ ด้วยพลังดาราของ "ฮันจีมิน" ที่ทำให้ไม่อาจละสายตาได้เพราะใช้เสน่ห์ได้ฟุ่มเฟือยมาก ถ้าว่ากันที่ชื่อชั้นนี่คืองานที่มาเพื่อขายชื่อฮันจีมินอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะชื่ออีจุนฮยอกในบทพระเอกเอาจริงยังห่างไกลจากระดับฮันจีมิน แต่ก็เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของทางสตูดิโอ SBS ที่มักใช้นักแสดงหญิงชั้นหนึ่งมาประกบกับนักแสดงชายที่ชื่อเสียงยังไม่ถึงระดับดีหนึ่งประเภทหนึ่งในช่วงหลัง เช่น The Judge from Hell หรืออาจย้อนไปถึง Good Partner ก็ใช่ซึ่งมันก็ดีที่เปิดโอกาสให้พระเอกแถวสองแถวสามได้แจ้งเกิดในงานที่คนต้องดู ซึ่งกับเรื่องนี้ฮันจีมินที่เป็นจุดขายหลักมีพลังดาราที่เปล่งประกายสามารถดึงดูดสายตาในทุกวินาทีที่ขึ้นจอด้วยเสน่ห์ล้นเหลือ จนอาจเรียกได้ว่าใช้เสน่ห์ได้ฟุ่มเฟือยมากอะไรจะขยันโปรยเสน่ห์ปานนั้นแต่ที่ต้องชมคืออีจุนฮยอกที่ยอมรับว่าไม่ชินกับเขาในบทแบบนี้ แต่ก็คู่ควรให้เมื่อเวลาผ่านไปสาวสวยรวยเสน่ห์อย่างฮันจีมินจะตกหลุมรักและลงเอยด้วยได้อย่างไม่น่ากังขาเพราะมีพร้อมทุกอย่างในความเป็นพระเอกทั้งหน้าตาและความอบอุ่น อาจมีลำเอียง (ไม่) หน่อยที่จะบอกที่แค่ดู "ฮันจีมิน" ก็คุ้มค่าแต่ว่าก็มีอะไรมากกว่านั้น แม้จะผ่านไปเพียงสองตอนคงไม่เกินเลยที่จะบอกว่าถ้าท่านชอบฮันจีมินแค่ดูฮันจีมินก็คุ้มค่าแล้วและผู้เขียนไม่ลำเอียงเลยที่จะบอกว่านี่คืองานที่ต้องดูที่ท่านชอบฮันจีมินอย่างผู้เขียน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ยังมีอะไรให้สนุกมากกว่านั้นที่คงต้องบอกว่ามาครบทุกอารมณ์ทั้งดราม่าที่น่าเห็นใจและอารมณ์ขันที่ทำให้ยิ้มได้เรื่อยๆ นั่นเพราะถ้าว่ากันที่การเสนอตัวเป็นงานโรแมนติกคอมมิดี้สองตอนที่ผ่านไปนี้ถือว่าได้ผล โอเคที่ความโรแมนติกยังไม่มาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะยังเป็นช่วงปูพื้นฐานเพื่อที่จะเดินหน้าไปตามแนวทางที่ควรเป็นกับงานแนวนี้ที่มักดีต่อใจและที่เห็นก็ดีต่อใจบ้างแล้ว ส่วนสิ่งที่ตามมาถือว่าเป็นเครื่องเคียงที่ขาดไม่ได้เพราะเกาหลีต้องมีดราม่าแถมยังเป็นละครความยาวหลายตอนจะเล่าแนวเดียวก็จะไม่มีอะไรน่าติดตาม ซึ่งตอนนี้ก็มารอดูว่าเบื้องหลังการแข่งขันที่นางเอกเป็นและเรื่องพ่อของเธอจะส่งผลยังไงจะได้ลุ้นได้สนุกขนาดไหนแต่ที่ไม่ต้องลุ้นคือความโรแมนติกมาให้ชุ่มชื่นหัวใจแน่นอน ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4,5,6,7 จาก Instagram sbsdrama.official เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !