รีเซต

สาวคู่กรณี ท็อป ณฐกร - ทนายเจมส์ เร่ง จนท.ส่งคดีสู่ชั้นศาล ยัน ไม่ข่มขู่เรียกเงิน

สาวคู่กรณี ท็อป ณฐกร - ทนายเจมส์ เร่ง จนท.ส่งคดีสู่ชั้นศาล ยัน ไม่ข่มขู่เรียกเงิน
ข่าวสด
22 มีนาคม 2564 ( 13:33 )
253

สาวคู่กรณี ท็อป ณฐกร ควง ทนายเจมส์ เร่ง จนท.ส่งคดีสู่ชั้นศาล ยัน ไม่ข่มขู่เรียกเงิน

สาวคู่กรณี ท็อป ณฐกร - จากกรณีที่เป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ หลังมีการแชร์เรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งที่อ้างว่า โดนดาราชายชื่อดัง มาขอคบหาเป็นแฟนอยู่ 2 ปี แต่มารู้ทีหลังว่าฝ่ายชายมีครอบครัวแล้ว แถมภายหลังเกิดมีปากเสียงกันเรื่องถ่ายรูปเล่น จึงทำให้ฝ่ายชายเกิดอารมณ์โมโห และทำร้ายร่างกายด้วยการบีบคอเกือบตาย จนผู้หญิงคนดังกล่าวตัดสินใจไปแจ้งความเอาผิดนักแสดงหนุ่มสายบู๊ “ท็อป ณฐกร”

ในขณะที่ ท็อป ณฐกร ออกมาเปิดใจรู้จัก และเคยศึกษาดูใจผู้หญิงคนดังกล่าวจริงมาประมาณ 2 ปี ยืนยันไม่ได้มีโลกสองใบ และไม่เคยหลอกอีกฝ่าย โดยวันที่เกิดเหตุตื่นขึ้นมาได้เห็นโทรศัพท์ของผู้หญิงวางอยู่ พบว่ามีภาพ และคลิปตนเองในลักษณะถูกแอบถ่ายอีกจำนวนมาก เลยพยายามลบรูปและคลิปวีดิโอ จึงเกิดการแย่งโทรศัพท์กัน แต่ยืนยันไม่มีการทำร้ายร่างกายอย่างที่ถูกกล่าวหา พร้อมยอมรับก่อนหน้าได้ไปเซ็นรับทราบข้อกล่าวหาที่ฝ่ายหญิงแจ้งความแล้ว และยินดีทำตามขั้นตอนตามกฎหมาย

ใขณะเดียวกันก็ได้ดำเนินการแจ้งความกลับผู้หญิงคนดังกล่าว เนื่องจากมีเหตุการณ์บางอย่าง ทำให้ตนเองและลูกชาย รวมถึงอดีตภรรยา ได้รับผลกระทบกับการกระทำของเขา แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะกลัวเสียรูปคดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 22 มี.ค.64 ที่ สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย น.ส.ณัฐฐา (นามสมมติ) ผู้เสียหาย และคู่กรณีของดาราหนุ่ม ท็อป ณฐกร พร้อมด้วย ทนายเจมส์ นิติธร แก้วโต เดินทางมาตามนัดเพื่อไกล่เกลี่ยคดีทำร้ายร่างกาย โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงได้ออกมาสัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

วันนี้เป็นการมาไกล่เกลี่ยใช่ไหม? ทนายเจมส์ - ครับผม คือจริงๆ วันนี้ตำรวจนัดมาทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย แต่ปรากฏว่าเพิ่งทราบจากพนักงานสอบสวน ว่าตัวของผู้ถูกกล่าวหาเนี่ย (ท็อป ณฐกร) ได้มารับทราบข้อกล่าวหาไปแล้วตั้งแต่เมื่อวาน วันนี้เขาก็เลยไม่ได้มา

เรื่องคดีจะคืบหน้าอย่างไรบ้าง? ทนายเจมส์ - เรื่องของคดีก็ดำเนินไปตามกระบวนการครับ ซึ่งคดีนี้มันเป็นคดีตามพ.ร.บ.ศาลแขวง พอผู้ต้องหามาปรากฏตัวหน้าพนักงานสอบสวนแล้ว ต้องสั่งฟ้องภายใน 48 ชั่วโมง ซึ่งก็อาจจะมีการผลัดฟ้องไปอะไรไป ถามกำหนดการเบื้องต้นแล้ว ปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่าจะส่งตัวผู้ต้องหาพร้อมกับสำนวน ประมาณต้นเดือนเมษายน

สรุปจบสุดท้ายของคดี จะยอมความกันได้ไหม?ิ ทนายเจมส์ - คือมันเป็นคดีเบื้องต้นเนี่ย ต้องแจ้งข้อกล่าวหาเป็นคดีระบุโทษไปก่อน แม้จะโทษน้อย แต่ก็ยอมความกันไม่ได้นะครับ เพราะฉะนั้นในกระบวนการก็คือต้องไปจบกันในชั้นศาล เพียงแต่ว่าศาลจะรอลงอาญาหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับพฤติการ แล้วก็มีการบรรเทาความเสียหายหรือเปล่า

ทางอีกฝั่งหนึ่งเขายอมรับไหม ว่าเขาได้ทำร้ายเราจริงๆ? ทนายเจมส์ - อันนี้ผมไม่ทราบเลยครับ ไม่ได้ดูในสำนวนครับ

มีโอกาสได้คุยกันบ้างไหม? ทนายเจมส์ - ไม่ได้คุยเลย ไม่มีโทร.มาติดต่ออะไร ไม่มีครับ
ผู้เสียหาย - ไม่มีค่ะ ไม่มีมีการติดต่อใดๆ มาเลยค่ะ

เราอยากให้เรื่องนี้จบยังไง? ผู้เสียหาย - จริงๆ ก็อย่างที่บอกว่า เคยแจ้งไปว่าที่ออกมาเพื่ออะไร เพื่อปกป้องเกียรติผู้หญิงอย่างที่บอกไปค่ะก็อยากให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมายค่ะ

ก่อนหน้านี้เฃ้ามีการออกมาบอกว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เราได้เห็นไหม? ผู้เสียหาย - ก็ได้ดูตามที่เขาให้สัมภาษณ์อยู่เหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย เราคงไม่ได้มาแจ้งความค่ะ

ในส่วนของรูปที่มีการพูดถึง เขาก็บอกว่าเขาเป็นผู้ที่ถูกกระทำ? ผู้เสียหาย - อย่างที่เคยแจ้งกับนักข่าวทุกที่ไป ว่าถ้ามีรูปเหล่านั้นจริง แล้วพวกพี่ๆ เห็นไหมคะ ว่ารูปเหล่านั้นเปิดเผยในที่สาธารณะมั้ยคะ
ทนายเจมส์ - อันนี้ผมขออนุญาตแจ้งแทนน้องนะครับ คือในการถ่ายภาพเนี่ย ในมุมของน้อง น้องมองว่าจะถ่ายภาพในลักษณะไหนก็แล้วแต่ คือโมเมนต์น่ารักๆ ของคู่รัก ถ้าจงใจจะเอาไปข่มขู่แบล็กเมล์หรือทำให้เสียหาย ภาพมันคงหลุดไปนานแล้ว แต่นี่ 2 ปีที่ผ่านมามันไม่ปรากฏภาพให้เสียหายเลย แล้วก็อีกอย่างหนึ่งที่มีข่าวว่า จะไปข่มขู่เอาเงินอะไรก็แล้วแต่ ผมบอกอย่างนี้ว่าในขั้นตอนของการเจรจา ไปเจรจากันต่อหน้าตำรวจ ไม่เคยไปข่มขู่ คุกคาม ผู้ถูกกล่าวหาว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะปล่อยภาพลับนะ นู่นนี่นั่นอันนี้ไม่มีเลย มีการเรียกร้องค่าเสียหายมั้ย มี...แต่เรียกร้องต่อหน้าตำรวจ ตามขั้นตอนนะครับ โดยมีตำรวจนั่งเป็นพยาน และอยู่กันหลายคนมาก ไม่ได้ทำแบบหลบๆ ซ่อนๆ ครับ

ข้อหาที่เราแจ้งเขามีข้อหาอะไรบ้าง? ทนายเจมส์ - ผมไม่ได้ดูสำนวนนะ เบื่องต้นที่พนักงานสอบสวนแจ้งคือ ข้อหาทำร้ายร่างกาย แต่ผลของการทำร้ายร่างกายต้องไปดูว่าอัยการเห็นพ้องด้วยมั้ย อัยการอาจจะให้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มก็ได้ อันนี้ก็แล้วแต่ว่าทางพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการเห็นไปในทิศทางเดียวกันไหม ถ้าเห็นแย้งกันก็อาจจะต้องให้ทางอัยการสูงสุดหรือกองตำรวจให้ความเห็นมาอีกทีหนึ่งนะครับ

หนักใจไหม? ทนายเจมส์ - ไม่ครับ ไม่หนักใจ ต้องเรียนอย่างนี้ก่อน ผมต้องออกตัวก่อนนะว่าผมเป็นทนายความ ผมไม่ได้อยู่ในห้องกับคู่กรณี เกิดอะไรขึ้น 2 คนเท่านั้นที่รู้ ถูกมั้ยครับ แต่ผมว่ากันตาม พยาน หลักฐานที่มันเกิดขึ้น ส่วนศาลท่านจะพิจารณาอย่างไรนั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง อันนี้หลักฐานเบื้องต้นคือมีรอยบาดแผลจริงนะครับ แพทย์ยืนยันจริงว่ามีการถูกทำร้าย ส่วนผู้ต้องหาหรือผู้ถูกหล่าวหาจะปฏิเสธยังไงอันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขานะครับ เขาก็มีสิทธิ์เอาพยานหลักฐาน เข้ามาพิสูจน์ของเขาเหมือนกัน อันนี้ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขา

ส่วนตัวเรากลัวไหมว่าเรื่องจะยืดเยื้อ ไม่จบ? ผู้เสียหาย - จริงๆตอนนี้ก็มั่นใจในกระบวนการยุติธรรมค่ะ และเชื่อมั่นในทนายและทางตำรวจด้วย เพราะว่าทุกอย่างที่แจ้งความไป เราโดนกระทำจริงๆ ค่ะ

ทางฝั่งโน้นก็เหมือนจะไม่ยอมเหมือนกัน? ผู้เสียหาย - อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ของเขาค่ะ

ทางโน้นได้ส่งทนายมาคุยหรือยัง? ทนายเจมส์ - ยังครับ ถ้าเกิดจะไกล่เกลี่ยทางฝั่งน้องคู่กรณีก็เปิดโอกาสอยู่นะ แต่ถ้าเกิดว่ามันเนิ่นนานไปก็อาจจะดูแล้วมันไม่มีประโยชน์ที่จะเจรจา อันนี้ก็แล้วแต่โอกาสมากกว่า เป็นเรื่องของอนาคตว่าจะคุยหรือไม่คุย หลังจากนี้จะไม่มีการมาเจอกันแล้ว ต่อจากนี้คือจะเป็นกระบวนการของตำรวจที่จะรวบรวมพยานหลักฐานแล้วก็ส่งมอบสำนวนให้พนักงานอัยการ พร้อมกับส่งตัวผู้ต้องหา

อยากให้อีกฝ่ายทำอะไร? ผู้เสียหาย - จริงๆ ในสื่อหนึ่งที่เขาบอกว่าเขาพร้อมยินดีที่จะขอโทษ จริงๆ เรื่องคำขอโทษไม่จำเป็นต้องให้นักข่าวเป็นคนบอก มนุษย์ทุกคนสามัญสำนึกต้องมีว่าการกล่าวขอโทษขอบคุณหรืออะไรก็แล้วแต่มันควรจะต้องพูดเอง ไม่ใช่ว่าเป็นข่าวไปแล้วเพิ่งมาคิดได้

ตอนนี้ตัวเรามีความเครียดมากแค่ไหน? ผู้เสียหาย - ค่อนข้างที่จะเครียด มันไม่สบายใจ ไม่มีใครอยากมีคดีความหรือว่าขึ้นโรงพักแบบนี้ ถามว่าอยากบอกอะไรกับท็อป ทุกอย่างเคยพูดไปหมดแล้วว่าคนเราคบกันควรซื่อสัตย์ต่อกัน แล้วคนที่เป็นสุภาพบุรุษต้องควรให้เกียรติผู้หญิง ทำอะไรถึงจะมากจะน้องควรมีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำ เพราะตอนนี้สิ่งที่เราได้อยู่มันคือการเหมือนโยนความผิด หาหลักฐานอย่างอื่นมาเพื่อโยนความผิดให้เรา

ถ้าอีกฝ่ายติดต่อมาขอโทษเรื่องจะจบเลยไหม? ทนายเจมส์ - อันนี้มันแล้วแต่ตัวของผู้เสียหายว่าเขายอมยังไง แต่ผมมองว่ามันไม่ได้เป็นคดีใหญ่โตอะไรมากมาย เพียงแต่ว่า ณ วันนี้ต้องมาคุยหาจุดจบกัน เพราะไม่อย่างนั้นถ้ามันยืดเยื้อไปแล้ว อย่างน้อยๆ วันนี้การตกเป็นผู้ต้องหาต้องถูกพิมพ์ลายนิ้วมือส่งกองทะเบียนอาชญากรรมนะครับ อันนี้คือจะทำให้เสียประวัติหรือเปล่า สำหรับบางคนที่เขาไม่อยากเสียประวัติก็จะไกล่เกลี่ยให้จบก่อน

ทางฝ่ายโน้นยืนยันว่าคู่กรณีมีการถ่ายคลิปที่ไม่เหมาะสม แต่คู่กรณีบอกว่าไม่ได้ถ่าย ตรงนี้ได้มีการเอาหลักฐานไปให้ตำรวจได้ตรวจสอบไหม? ทนายเจมส์ - ผมเข้าใจว่าไม่น่าจะมีคลิปในลักษณะที่มันไม่เหมาะสม สมมติว่าถ้าจะมีคลิปที่ไม่เหมาะสมคุณจะไม่เห็นเลยเหรอว่ามันมีการถ่าย แต่เท่าที่ถามน้องคู่กรณีบอกว่ามีแค่ภาพ คลิปโป๊เปลือยไม่มี มีแค่ภาพตอนที่ใส่ผ้าขนหนูอยู่แค่นั้นเอง แล้วต้องบอกก่อนว่ามันคนละส่วนกัน

ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องให้ตำรวจตรวจสอบ อีกอย่างหนึ่งคือตำรวจไม่ได้ขอ เพราะคดีของเราคือคดีทำร้ายร่างกาย เขาต้องการแค่ว่ามีหลักฐานถูกทำร้ายตรงไหน ซึ่งก็มีภาพถ่ายที่ปรากฏตามเนื้อตัวร่างกาย แล้วก็ส่งตัวไปให้คนกลางซึ่งเป็นแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ดูลักษณะบาดแผลว่าเกิดจากการถูกทำร้ายหรือทำร้ายตัวเอง

ผู้เสียหาย - ถ้าหากทางตำรวจอยากขอตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ ถามว่าเรายินดีมั้ย จริงๆ เรื่องที่เขาพูดว่าเราไปแบล็กเมล์อะไรเขา เลยอยากถามกลับพี่นักข่าวทุกคนว่าเคยเห็นรูปเหล่านั้นหรือยังคะ รูปเหล่านั้นมันไม่ได้มี มันอยู่ในโทรศัพท์เรา แล้วรูปส่วนตัวอะไรกันมันก็ไม่ได้มีอะไรที่มันดูอนาจารอย่างนั้นอยู่แล้ว

ถ้าเขาขอโทษทางเรายอมไหม? ผู้เสียหาย - จริงๆ ก็รอให้ระยะเวลามาสามสี่เดือนแล้วนะคะ คนเราถ้ารู้จักที่จะขอโทษมันต้องมาประกาศออกสื่อว่าแบบขอโทษฉันทีสิ คุณทำร้ายร่างกายฉัน คุณทำผิดต่อฉัน คือต้องเป็นเราพูดเหรอคะ ตัวเขาไม่ได้คิดได้จากความรู้สึกเขาจริงๆ ที่รู้สึกผิดกับเราบ้างเลยเหรอ ถามว่าถ้าเขามาขอโทษตอนนี้ก็รับคำขอโทษนะคะ