โหนกระแสวันนี้ ! : “ทนายสายหยุด” รับ “นานา” ปลอมสลิป-เขียนเช็คเอง เพื่อประวิงหนี้ “ดาด้า” จ่อฟ้อง ขอแค่เอาเงินคืน
โหนกระแสวันนี้ ตามติดประเด็น “นานา ไรบีนา” ได้รับการปล่อยตัวชั่
เคยเจอกันมั้ยกับพี่สายหยุด?
ดาด้า : ยังไม่เคยเจอกันเลยค่ะ
พี่สายหยุดรู้มั้ยว่าเขาจะเป็นผู้เสียหายอีกหนึ่งคน?
สายหยุด : ได้ยินชื่ออยู่ แต่ไม่เคยเห็นหน้า จำหน้าบางคนที่เขาเป็นดาราสมัยผมเป็นวัยรุ่น ถ้าคนอื่นผมจำไม่ได้
จริงๆ แล้วตอนแรกพี่สายหยุดจะไม่มา แต่ผมขออนุญาตคุณนานาแล้ว ขอพี่สายหยุดมาได้มั้ย ก็เลยตกลงกันให้พี่สายหยุดมานั่งได้ ดาด้าเสียหายอะไร?
ดาด้า : ช่วงที่เสียเงิน จ่ายให้นานาไป ด้าโอนเงินให้นานาปีที่แล้ว ช่วงพ.ย. มีสองงวดด้วยกัน ต้องย้อนกลับไปก่อนว่าทำไมเราถึงโอนเงินให้นานา ประมาณเกือบ 2 ปี จำเวลาไม่แน่นอน นานาโทรมาบอกว่ามีเรื่องเดือดร้อนมาก กลุ้มใจ ขอปรึกษาหน่อยได้มั้ย แต่จริงๆ เราสนิทกันมา 30 ปี อัปเดตโทรคุยกันทุกวันอยู่แล้ว แต่มีวันนึงเพื่อนโทรมาร้องไห้ บอกว่าอยากเข้าไปหา เราก็บอกเฮ้ย เป็นอะไร มันดึกแล้ว วันนั้นมีพี่บอย มีด้า มีนานา นานาบอกว่าทำยังไงดี เขามีหนี้ 168 ล้าน เราก็ตกใจ ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำยังไงดี มันต้องจ่ายหนี้ก้อนนี้อีก 3 เดือนข้างหน้า ด้าก็ถามว่าแล้วนานามีเงินเท่าไหร่ นานาบอกว่ามีเงินอยู่ 50 ล้าน เราก็ช่วยกันคิดว่าเหลืออีก 100 กว่าล้าน ด้าไม่รู้ว่าที่เขาพูด เขาต้องการให้ด้าช่วยในวันนั้นหรือเปล่า แต่เราบอกว่าเงินเยอะขนาดนั้นเราไม่สามารถช่วยเพื่อนได้หรอก เราก็หาวิธีการแก้ปัญหาให้เพื่อน ในฐานะเราสนิทกัน เราถามว่าเอาบ้านไปเข้ามั้ย บ้านติดแบงก์อยู่หรือเปล่า เขาบอกว่าบ้านผ่อนหมดแล้ว ก็บอกว่าเอาบ้านไปรีไฟแนนซ์มั้ย เผื่อจะได้เงินมา วันนั้นคือช่วยเพื่อนแก้ปัญหา เรานึกขึ้นได้ว่านานาลองไปคุยกับคนนี้ดูมั้ย เขาน่าจะช่วยนานาได้ เหตุการณ์วันนั้นที่มาร้องไห้ที่บ้านด้าคุยกันเรื่องนี้ ว่าให้เพื่อนช่วยแก้ปัญหาให้หน่อยว่าทำยังไงดี เขาเป็นหนี้ก้อนใหญ่ ชีวิตเขาไม่เคยมีหนี้ 100 กว่าล้าน ประมาณนั้น เราก็เชื่อ เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เราเชื่อว่าเพื่อนมีหนี้ 100 กว่าล้าน หลังจากวันนั้นผ่านไป สองสามวันเขาก็มาอัปเดตว่าเฮ้ย คนที่ด้าแนะนำสรุปคนนี้เขาช่วยนะ เขาให้ยืมเงิน เราก็เลยสบายใจ เราเชื่อเพื่อน เราคิดว่าเพื่อนแก้ปัญหาตรงนั้นได้แล้ว และเข้าใจมาตลอดว่าเพื่อนมีเจ้าหนี้แค่คนเดียว นี่คือสิ่งที่ด้าเข้าใจ จากนั้นเขาก็อัปเดตว่าผ่อนจ่ายให้เจ้าหนี้คนนี้เรื่อยๆ หลังจากนั้นนานาก็โทรคุยกัน จำได้ว่าวันที่ด้าคุยกับนานา เขาเสนอว่าตอนนี้มีผู้ถือหุ้นในบริษัทเขาจะถอนหุ้น สนใจจะซื้อหุ้นมั้ย เราก็อุ้ย สนใจ เพราะรู้ว่าธุรกิจเขามันกำไร ตอนนั้นธุรกิจร้านเขา ประกอบกับด้าเคยซื้อแฟรนไซน์ร้านตัดผมเขา รู้ว่าธุรกิจเขามันโอเค
เป็นการซื้อแฟรนไซน์แยกออกมา?
ดาด้า : ใช่ แต่ตอนนั้นเขาปรับระบบ เป็นเหตุการณ์ช่วง 10 ปีแล้ว อันนั้นจบไปแล้วไม่มีปัญหาอะไร แต่พออันนี้เขาบอกว่าสนใจซื้อหุ้นบริษัทเขามั้ย เราก็เฮ้ย มันก็เป็นลู่ทางที่ดี เราก็โอเค สนใจ เท่าไหร่ เขาขายหุ้นให้ด้า 1 เปอร์เซ็นต์ ยอด 2 ล้าน
ตีมูลค่ายังไง?
ดาด้า : ไม่รู้เขาตีมูลค่ายังไง เขาบอก 1 เปอร์เซ็นต์มูลค่า 2 ล้าน
การจะซื้อหุ้น ต้องรู้มูลค่าก่อน?
ดาด้า : รายละเอียดมี เขาทำใบโอนหุ้นให้ด้า ซึ่งในรายละเอียดมี 1 เปอร์เซ็นต์ตีมูลค่า 2 ล้านบาท ด้าก็โอนให้นานา 2 ล้านเป็นค่าหุ้น นานาก็มีเอกสารให้ด้าเซ็นว่าตัวระหว่างนานากับด้า ซื้อขายโอนหุ้นกัน เป็นสัญญาซื้อขายหุ้นกัน เอกสารนี้เราก็เก็บไว้ตลอด แต่เราเพื่อนกัน ก็ไม่ได้ทำสัญญารัดกุมเต็มที่ เป็นสัญญาแบบซื้อขายหุ้นกันส่วนตัว ใบหุ้นเราไม่ได้ทวงถาม เพราะเขาบอกว่ารายชื่อผู้ถือหุ้นเขาจะมีการปรับรายชื่อผู้ถือหุ้นล็อตใหญ่ ค่อยเปลี่ยนตอนนั้นก็ได้ ค่อยไปจดทีหลัง เหตุการณ์นั้นเกิดพ.ย. ปีที่แล้ว ส่วนอีก 1 ล้านเป็นเรื่องการยืมเงินกัน นานายืมเงิน 1 ล้าน ด้าก็โอนเงินให้นานา 1 ล้านบาท แต่มันเกิดก่อนการซื้อขายหุ้นคือเดือนส.ค. นานายืม 1 ล้านโดยตีเช็คค้ำประกันเอาไว้ระยะเวลา 1 ปี ก็เพิ่งครบดีลวันที่ 25 พ.ย. ที่ผ่านมา
รวมเป็น 3 ล้าน นี่คือยอดความเสียหายของคุณ ด้าโดนสองดอก ที่คนวิพากษ์วิจารณ์ อันแรกที่ด้าออกมายืนยันว่าเพื่อนด้าไม่ทำแบบนั้นหรอก?
ดาด้า : ถามพี่หนุ่มว่า สมมติเพื่อนมานั่งร้องไห้ที่บ้าน บอกว่าตัวเองมีหนี้ 168 ล้าน มานั่งร้องไห้ บอกสาเหตุการเกิดหนี้ เกิดจากอะไร ดีเทลละเอียดมาก เป็นพี่หนุ่มเชื่อมั้ย กับเพื่อนที่คบมา 30 ปี เราก็เชื่อ ระหว่างทางตลอด 2 ปีที่เขามีปัญหา มีหนี้ เขาก็มาอัปเดตกับด้าตลอดว่าคนนี้ให้ยืมเงินนะ แล้วทยอยใช้กับคนนี้ตลอด เขาอัปเดตกับเราเป็นระยะๆ ระหว่างทางเขาก็มีการอัปเดตว่าเขาไปเซ็นหย่ากับเวย์แล้ว เป็นเรื่องเหตุผลทางธุรกิจ ซึ่งตรงนั้นด้าไม่ได้เก็บมาเป็นสาระ เหมือนเพื่อนกันอัปเดตข้อมูลกัน ในระยะทาง 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้อินเนอร์เราเข้าใจว่าเพื่อนเรามีเจ้าหนี้คนเดียว ทำให้วันที่ไปออกรายการแฉ ด้าเลยรู้สึกว่าข่าวที่มันออกไม่เป็นความจริง เพื่อนเราไม่ได้ไปยืมเงินคนเยอะ หรือไปหลอกเงินคนเยอะเพราะสิ่งที่เรารับรู้คือเพื่อนเรามีเจ้าหนี้คนเดียว แต่เขาไม่ได้ยืมเต็ม รายละเอียดคือเขามีเงินมา 50 ล้านจ่ายหนี้ ที่เหลือเขาก็ยืมคนนี้
หนึ่งทำให้เราไม่เชื่อ แล้วออกมาพูด หลังจากนั้นพี่จำได้ว่าพี่โทรไป?
ดาด้า : เชื่อมั้ยว่าวันที่พี่หนุ่มโทรไป ด้าขับรถอยู่ ต้องจอดรถในปั๊มเลย แล้วถามว่าจริงเหรอ
พี่บอกว่าด้าอย่าเพิ่งไปพูดแบบนั้น รอดูก่อนว่าข้อเท็จจริงเป็นยังไง เท่าที่ทราบมาเป็นแบบนี้ๆ เดี๋ยวด้าจะเสีย ด้าก็สั่นๆ นางไม่รู้ จนตอนเช้ามาพูดอีกมุมนึงว่าเราเข้าใจไปแบบนั้น หลังจากนั้นดอกสอง คุณไปบอกว่าเขาหย่ากัน?
ดาด้า : ก็เป็นเหตุการณ์ที่นานาเล่าให้ด้าฟัง เหมือนเพื่อนสนิทอัปเดตชีวิตกัน เราก็รับรู้ มันเป็นไทม์มิ่งเดียวกับตอนนานาบอกว่าเป็นหนี้168 ล้าน หลังจากนั้นเลยเซ็นใบหย่ากับสามีเขา เราก็รับรู้มาตลอด
ตกลงเขาไม่ได้หย่ากัน?
สายหยุด : ไม่ได้หย่า
ที่นานาพูดกับดาด้า เขาแจ้งมั้ย?
สายหยุด : เขาบอกว่าเหตุผลทั้งหมดทั้งปวงที่พูดไปเพื่อปัดไม่ให้เกี่ยวกับเรื่องหนี้สินหรือเปล่า ผมไม่รู้นะ ผมเพิ่งมาเจอคุณนานาได้อาทิตย์นึง ผมไม่รู้เรื่องราวชีวิต และไม่ได้ตามข่าวอะไรพวกนี้ด้วย
เป็นไปได้มั้ย อาจเป็นวิธีพูดไปก่อนเพื่อให้เพื่อนได้ช่วยได้เห็นใจ?
ดาด้า : พอความจริงปรากฏ ด้าก็มานั่งคิดย้อนหลัง ด้าว่าอาจแต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อให้ด้าจ่ายเงินช่วยเขาหรือเปล่า ก็ทำให้คิดได้แบบนั้น
พอสื่อเอาไปลง ไม่ได้ลงทั้งหมด สื่อลงแค่ว่าเขาหย่ากันเพราะด้าพูด?
ดาด้า : ตอนให้สัมภาษณ์ในรายการ ด้าก็พูดนะว่าอันนี้คือคำพูดนานา ที่พูดให้ด้าฟัง แต่เรื่องจริงหรือเปล่าอันนี้ไม่รู้ ไปย้อนดูได้เลย ด้าพูดแบบนี้ แต่พอบางเพจไปทำข่าว กลายเป็นว่าดาด้าพูด แต่ในข่าวไปย้อนดูคลิปที่ด้าพูดกับนักข่าวทุกคนได้เลย ด้าพูดว่านานาบอกด้าแต่ไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า เพราะเราก็เจอเพื่อนโกหกมาหลายรอบ
ที่มาออก บอกเขามั้ย?
ดาด้า : บอกแล้ว เมื่อกี้เพิ่งคุยกัน เขาเพิ่งโทรมา เขาบอกว่าตามการตัดสินใจของด้าเลย แต่ขอให้มีพื้นที่ให้เขาได้มีโอกาสทำงานสักนิดนึง
พี่ไปรับคดีคุณนานามา เมื่อวานนี้ที่เข้าไปประกันตัว มูลค่า 50 ล้านที่จะประกันในชั้นสอบสวน จริงมั้ย?
สายหยุด : ชั้นเชิงของตร.โดยหลักการก่อน แทบไม่เคยให้ใครประกันในชั้นสน.หรือชั้นโรงพักเลย เขาจะอ้างว่าคุณประกันสิ เขาจะเรียกทุนทรัพย์ 1 ใน 3 ความเสียหาย เสียหาย 150 ทุนประกัน ก็ 50 เรียกแบบนี้คือเขาไม่ให้ประกันนั่นแหละ ใครจะเอาเงินมาประกัน 50 ล้าน ไม่มี แต่ที่ศาลเขาพิจารณาหลักประกันจากอัตราโทษสูงสุดโดนกล่าวหา ในครั้งนี้สูงสุดที่โดนกล่าวหาคือพ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน
แต้ถ้าวันนั้น นานามีหลักทรัพย์ 50 ล้านก็สามารถประกันตัวในชั้นสอบสวนได้?
สายหยุด : เขาจะหาเหตุผลอื่นอยู่แล้ว สเต็ปแรกอยู่ที่บ้านคุยกับนานาก็บอกว่าไม่เป็นไร มาที่สอบสวนกลางเถอะ เดี๋ยวให้ประกัน ผมก็บอกเลยว่าไม่มีทาง ผมฟังตร.มาเป็นสิบรอบไม่มีทาง คุณจะหาเงินที่ไหนมาประกัน 50 ล้าน ภายในเวลา 10-20 นาที หรือครึ่งคืน เดี๋ยวการเงินเขาปิด เขาก็ไม่รับแล้ว ถ้ามีเขาก็หาเหตุผลอื่นอีก ทุนทรัพย์สูงผู้เสียหายคัดค้าน ปล่อยไปไม่ได้หรอก ยกคำร้อง ปล่อยทีละสเต็ปเป็นขั้นบันได
เมื่อวานประกันตัววงเงินเท่าไหร่?
สายหยุด : เรตในฐานความผิดนี้อยู่ที่ 5 แสน แต่ผมดูแล้วมีฉ้อโกง หลอกเทรดหุ้นด้วย ปลอมเอกสารด้วย มันหลายฐาน ผมก็คำนวณดูว่าลูกความผมจะไหวเท่าไหร่ ผมก็เขียนไปก่อนว่า 1 ล้านบาท เมื่อศาลมีคำสั่งแล้ว มีเวลาประมาณชม.สองชม.ก็หามา ผมใส่ไป 1 ล้าน เท่านั้นเอง ความเสียหายมากน้อยแค่ไหน ฉ้อโกงร้อยล้านหรือฉ้อโกงพันบาท อัตราโทษมันเท่ากัน แต่คนพยายามบอกว่าความเสียหายเป็นวงกว้าง วงสูง ไม่ใช่อย่างนั้น กฎหมายมันแน่นอนอยู่แล้ว ผมยื่นไป 1 ล้าน เขียนเหตุผลประกอบไปเกือบๆ 10 ข้อ เราบอกว่าอันนี้เป็นการกล่าวหาของผู้กล่าวหาฝ่ายเดียว เราก็ชี้ให้เห็นบางส่วนว่าความเสียหายรวมมาแล้วตามคำร้องฝากขัง 160 กว่าล้าน ตอนแรกบอก 400 ล้าน หายไปแล้ว 250 ล้าน ผู้ต้องหายังไม่ทำอะไรเลย ความเสียหายลดฮวบไปเลย 250 ล้าน ตร.ยื่นไป 152 ล้าน มีเศษ 77 บาท ผมก็ชี้ให้เห็นว่าผู้เสียหายแยกเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มนึงก็ไปอ้างว่าเอาเงินไปเทรดหุ้น นานแล้ว กลุ่มที่สองจะให้เรากู้ก็ดี อ้างว่าเราหลอกมาเพื่อลงทุนธุรกิจเงินกู้ก็ดี แล้วแต่จะใช้โวหาร กลุ่มที่สาม ลงทุนบริษัทต่างๆ นานาของเขา กลุ่มที่สี่ยืมเงินเฉยๆ ผมก็แยกมาว่ากลุ่มให้กู้เป็นกลุ่มสำคัญ เพราะบางคนยังมาทำบันทึกรับสภาพหนี้ 70 ล้าน 90 ล้าน 64 ล้าน มีอยู่ 4 ใบ รวมก็เกิน 400 ล้านอีก
เขาใช้หนังสือรับสภาพหนี้?
สายหยุด : ใช่ จ่ายเช็คไปแล้ว อันนี้ก็ไม่ตรงแล้ว ฉะนั้นฟังผู้เสียหายอย่างเดียวไม่ได้ ต้องฟังผู้ต้องหาด้วย หลักการสำคัญที่ศาลเมตตาปล่อยตัวชั่วคราว ท่านพิจารณาคำร้อง ผมบอกว่าผมไม่มีพฤติกรรมหลบหนี ผมให้คุณนานากับน้องสาวมารอ มีกระแสข่าววันที่ 3 จะจับ ผมก็ไปสอบสวนกลางวันที่ 1 ธ.ค. พยายามไปหาผู้กำกับก่อน คนเก่ามีวาระย้ายพอดี คนใหม่ยังไม่มารับตำแหน่ง ผมมาหาพนักงานสอบสวน เพื่อนๆ ผมในนั้นโทรบอกเขาอยู่ด้านหน้าตึกบน ไปตึกควบคุมตัวตึกหน้า ไปถึงผมไม่รู้เขาอยู่ไม่อยู่ ผมนั่งรออยู่ 1 ชม. ปรากฏว่าไม่มีใครลงมา ผมก็โทรไปที่เบอร์รองผกก.งานสอบสวน ว่าผมมีความประสงค์อย่างนี้ๆ เขาก็งงๆ ผมบอกว่าถ้ามีหมายจับเดี๋ยวผมพามามอบตัวเลย แต่ถ้าไม่มีหมายจับ จะแจ้งข้อหาวันไหนบอกผม เดี๋ยวผมพาเข้ามา ไม่ต้องเสียเวลาไปออกหมายจับหรอก แล้วที่ทางผู้การหรือรองผู้การไม่รู้แถลงข่าวคุณนานามาจริงไม่มาจริง ผมกับคุณนานาใช้บัตรตัวเองเสียบ เพราะการเข้าไปสอบสวนกลางต้องเสียบบัตร แถลงตัว บอกเบอร์โทรว่าจะติดต่อใคร ไปเอามาดูก็ได้ คุณนานาก็เข้ามา ผมนั่งรอตร.อยู่ 2 ชม. ดูว่าจะมีใครโทรหาผมมั้ย ผมให้เบอร์ไว้สองเบอร์ ผมไปทำหนังสือให้ตร.ลงรับไว้ เอาร้อยโทลงรับหนังสือให้ผม ผมไปรอ 2 ชม. ก็ไม่มา หลักฐานอยู่กับตร.หมด
เขาไม่รับ?
สายหยุด : ไม่รับตัว เขาอ้างว่ามาแถลงข่าวบางทีคนฟังนักกฎหมายจะรู้ ท่านพูดว่าไม่มีสถานะเป็นผู้ต้องหา แต่จริงๆ ใช่ สถานะผู้ต้องหาตามกฎหมาย มีคนมากล่าวหาเรา แจ้งความร้องทุกข์เรา เรามีความผิด เราตกเป็นผู้ต้องหาแล้ว
พี่จะบอกว่าด้วยเหตุแห่งคดี นานาไม่คิดหลบหนี เพราะถึงขั้นจะไปมอบตัว?
สายหยุด : ผมบรรยายละเอียด มอบตัวแล้ว โทรหาใครเบอร์ใครผมผมระบุในคำร้องหมด ผมขอให้ศาลเรียกตร.เหล่านี้มาไต่สวนเลย ผมรอแล้ว
เป็นแก้ว แก้วทำอย่างนี้มั้ย?
ทนายแก้ว : ก็ทำอย่างนี้ แต่พี่เขาพูดคลาดเคลื่อนผู้ต้องหาจะเป็นเมื่อพนักงานสอบสวน
สายหยุด : พี่แก้วพูดงี้ประชาชนสับสน พี่ดูมาตรา 2 อนุ 2 ผู้ต้องหาเป็นเมื่อไหร่ พี่เปิดเลย เรามีตำราอ้างอิงมา พี่อ่าน
ทนายแก้ว : ผู้ต้องหาตามความรู้สึกคือมีการกล่าวหา
สายหยุด : ไม่เอาตามความรู้สึกสิ สถานะเมื่อมีคนมาแจ้งความ นี่ตำราอาจารย์นะ ผู้พิพากษา อัยการ นักเรียนนายร้อย ผมเปิดตำราสู้ครับ ผมรู้ว่าผมต้องมาเจอด็อกเตอร์ ผมเตรียมชีสมาบานเลย
ทนายแก้ว : เดี๋ยว (หัวเราะ)
มาแบบปัจจุบันทันด่วน ทนายสวัสดิ์ เจริญผล เคยเจอพี่สายหยุดมั้ย?
สวัสดิ์ : ไม่เคย นี่ครั้งแรก
เมื่อกี้ตอนเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ผมได้คุยกับพี่ปาเกียว และโปรยไว้ว่าพี่แกจะมา คุณข้าวโพดดูอยู่แกบอกว่าจะให้ส่งทนายความแกมาเลยมั้ย ผมเลยไปถามว่าคุณข้าวโพดเขาถามจะให้ส่งทนายมามั้ย แกบอกว่ามาได้เลย จะได้คุยกัน ผมก็เลยบอกคุณข้าวโพด คุณข้าวโพดเลยติดต่อพี่มา?
สวัสดิ์ : ผมกำลังขับรถไปประชุมแถวศาลอาญา
แก้ว เคลียร์เรียบร้อยมั้ย?
ทนายแก้ว : เรียบร้อยครับ คำว่าผู้ต้องหาในความเข้าใจพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาจะเริ่มเมื่อมีการกล่าวหาของพนักงานสอบสวนครับ แต่แน่นอนว่าบทนิยาม ป.วิอาญาวงเล็บ 2 บอกว่าบุคคลที่ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด แต่ไม่ถึงขั้นฟ้อง ดังนั้นความหมายของพี่ปาเกียวบอกว่าเมื่อใครแจ้งความว่าตรงนี้เป็นผู้ต้องหา แต่ความเข้าใจของตร. ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหาครับ
สายหยุด : ตร.เข้าใจผิดๆ แบบนั้นไม่ได้ เดี๋ยวประชาชนสับสน ตร.ไม่รู้กฎหมายเป็นตร.ได้ไงพี่
ทนายแก้ว : เวลาออกหมายจับหรือหมายค้น จะมีผู้กล่าวหาและผู้ต้องหา ตรงนั้นแหละมันจะเกิดสิทธิ์ตามที่พนักงานสอบสวนเขาเข้าใจแบบนั้น ผมเลยเข้าใจว่าพนักงานสอบสวนวันที่ 1 เขาถึงไม่รับ
สายหยุด : ไม่ใช่ไม่รับ ไม่มีใครติดต่อหาผมเลยพี่ ต้องบอกคนดูทางบ้านก่อนว่า ถึงคุณนานาจะเบี้ยวเงินเพื่อน แต่ยังไงเขาก็มีสิทธิ์มีทนายความ ดูกันเพื่อเป็นความรู้ เป็นอุทาหรณ์ไม่ใช่จะคอมเมนต์ด่าผมว่าช่วยด้วยอารมณ์ ไม่ต้องด่า ดูเป็นความรู้ เผื่อวันนึงเกิดกับตัวเอง
ทนายมีไว้ปกป้อสิทธิ์บุคคลนั้นๆ ถ้าวันนี้ผมไปขโมยมา ผมก็สามารถมีทนาย พี่ก็ไม่ได้ผิดอะไรที่ไปดูแลนานา พอประกันตัวออกมา มูลค่าความเสียหาย 152,907,577 บาท อันนี้ 17 คน ถูกมั้ย?
สายหยุด : เขาบรรยายเป็น 10 คน แต่ไม่รู้เวลาเขาให้ข่าวเขาบรรยายแค่ 10 คน
ในนี้เป็นพยานทั้งหมด 10 ราย?
สายหยุด : พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน คนเป็นผู้เสียหายได้คือรัฐฝ่ายเดียว คนที่ไปคือผู้ที่เสียเงิน แต่จะเป็นผู้เสียหายไม่ได้
ผมไม่ได้เป็นทนาย แต่จะลักไก่เป็นกู้ยืมเงินไม่ได้นะให้ผมตามน้ำเป็นพ.ร.ก.กู้ยืมเงิน?
สายหยุด : พวกที่เสียเงินแล้วกัน (หัวเราะ)
ทางนี้เขาบอกว่าเขาให้เงินไปลงทุน ไม่ใช่กู้ยืม?
สายหยุด : เอาคนที่เสียเงินดีกว่า 10 คน
ทางนี้เขาพูดมาแล้วว่าเป็นการกู้ยืม มีเอกสารรับสภาพหนี้ ในมุมพี่มองยังไง?
สวัสดิ์ : เราต้องมาดูพฤติกรรมการเริ่มต้นก่อน ส่วนตอนจบจะมาใช้หนี้ บันทึกกัน ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่คุณทำตอนแรก มันก็คือสิ่งที่คุณทำตอนท้าย พอดูพฤติกรรม การให้กู้ยืมที่ทนายสายหยุดพูด มันไม่ใช่กู้ เพราะผมได้คุยกับลูกความมา ผมได้ไปพบคนที่ถูกกล่าวอ้าง ขอยืนยันอีกครั้งเหมือนเมื่อวาน มาถึงบอกว่าแม่ของลูกที่โรงเรียนเดียวกัน เขาปล่อยเงินกู้นะ แต่อย่าไปคุยกับเขานะ คุณข้าวโพดก็รู้จัก ผมถามว่าทำไมคุณข้าวโพดไม่ถามเขาล่ะ ข้าวโพดบอกว่าเขาห้ามว่าอย่าไปถาม เดี๋ยวคนนี้ไม่ชอบมากเรื่อง ไม่ชอบให้ใครรู้ ข้าวโพดก้ไม่เป็นไร เพื่อนกูให้ดอกมาเรื่อย ให้ผลตอบแทนตามที่คุย กูก็พอใจแล้ว เพราะรักเพื่อน เหมือนที่ดาด้าบอก เพราะรักจึงเชื่อ ฉะนั้นพอได้มาเป็นแบบนี้ก็ลงไปเรื่อย จำนวนหลายครั้ง ปัญหามันมาเจอตรงที่ถ้ากู้ ทำไมกู้หลายครั้ง เพื่อนไม่คืนแล้วให้กู้ต่อเหรอ แต่แชตไลน์ที่ผมมี ที่เขาส่งมาให้ผม กูส่งเงินไปทางนี้แล้วนะ วันนี้มึงมีมั้ย รายนี้ต้องการ 2 ล้าน นี่ก็ถือว่าเป็นการอ้างได้ แต่ผมมาสรุปวันโป๊ะแตก วันที่ 22 23 24 ก.ย. แต่ย้อนไปนิดนึง ส่วนของผมที่สามคนที่ดูแล มีทั้งบอกว่าเอาเงินไปปล่อยกู้ กับไปเทรดหุ้น เล่นหุ้น สุดท้ายพอ 22 23 24 ไปบ้านคุณนานาที่เอกมัย 22 เอาเช็คมาให้ดู 5 ใบ แล้วบอกว่าถูกป.ป.ง.อายัดเงิน ข้าวโพดก็เชื่อ เพื่อนเดือดร้อน ให้เอาบัตรเครดิตไปใช้ นี่คือความเชื่อใจที่เขายังไม่รู้เลยว่าถูกโกง จนวันที่ 23 24 นานายอมรับ เพราะมีคลิปเสียง นอกจากยอมรับแล้ว หลังจากวันนั้นประมาณอาทิตย์สองอาทิตย์ ผมไปเจอทนายนานา ที่แยกบางนา เขาก็ยอมรับว่าไม่ได้บอกเพื่อน แต่พยายามใช้หนี้เหมือนกัน ก็ขอบคุณ สุดท้ายตอนแรกผมฟังลูกความพูดฟังหูไว้หู เพราะผมเป็นทนายไม่ได้ฟังความข้างเดียว หลังจากข้าวโพดส่งอันนี้มาให้ผม ทนายสวัสดิ์ เขามีหลักฐานโอนเงินไปให้บุคคลที่สามที่มีการอ้างชื่อ ผมให้ส่งมาให้ผมเลย แล้วโทรหาบุคคลที่สาม เขาพูดมาคำแรกว่าอาสวัสดิ์รู้มั้ย หนูเคยได้รับอย่างนี้ ปลอมมาแล้ว ของคนๆ นี้ ผมบอกว่าผมไม่เชื่อ
ง่าย ๆ เขามีการจัดฉากคุยกับกลุ่มเพื่อนๆ บอกว่าจะเอาเงินก้อนไปให้บุคคลที่สามลงทุน อย่างนางหมวย เอาสลิปมาโชว์ว่าโอนให้นางหมวยเรียบร้อย?
สวัสดิ์ : ครับ ตั้งแต่เมื่อวานมาคุยกับพี่หนุ่ม ผมไปนั่งทำแต่ทำไม่ทัน ผมปริ้นท์ออกมาแต่ยังไม่เปิดนะ มีชื่อบุคคลที่สาม ผมไปพบเขา 2 ทุ่ม บ่ายสามเขาวิ่งไปธนาคาร เอาสเตทเมนต์มาให้ผม เขาบอกว่า 2 ทุ่ม คุณอามาที่บ้านหนูได้มั้ย ผมบอกว่าไม่ได้หรอก ผมไม่รู้จักคุณ ผมไม่ไป เขาก็มาเจอกับผม เอาสเตทเมนต์มาหมดเลย บัญชีที่ผมดู ลงท้ายด้วยอะไรตรงทุกอย่าง ผมก็ไล่วันว่ามันไม่มี เกิดอะไรขึ้นวะ ไม่ได้คิดว่ามีพิรุธนะ ไม่เอะใจ พอกลับมาถึงบ้าน เมื่อวานผมไปสรุปมา 30 รายการ วันที่ 21 ส.ค.67 เวลา 12.40 น. บอกว่าโอนไปให้น.ส.หมวย ปรากฏว่าวันที่ 2 ก.ย. 67 โอนไป 1.9 ล้าน วันที่ 3 ก.ย. เวลา 22.52 โอนไป 9.8 แสน วันที่ 7 ก.ย.67 โอนไป 1.6 ล้าน ที่ผมนั่งทำเมื่อเช้า เตรียมไว้ โอ้โห นี่ขนาด 10 ใบนะ รหัสอ้างอิงเดียวกันหมดเลย
ประเด็นคือมีชุดนี้ รหัสอ้างอิง 6 ใบ เลขเดียวกัน แต่ตัวเลขและเวลาไม่เหมือนกัน แล้วมีชุดอื่นอีก ตรงนี้พี่จะตอบว่าไง ถ้าเป็นเงินยืมแล้วอันนี้คืออะไร?
สายหยุด : ถ้าพิจารณาคนที่เอาเงินมาให้ เขาต้องการอะไร เขาต้องการดอกเบี้ยหรือไปลงทุนทำธุรกิจกัน ถ้าลงทุนทำธุรกิจกัน คนทั่วไปเอาไปให้พี่หนุ่มกู้ ต้องขอดูสัญญากู้ยืมมั้ยล่ะ แต่ถ้าเอาไปกู้จริง คุณนานาไม่โดนดำเนินคดีเลย เพราะร่วมกันเอาเงินไปปล่อยธุรกิจเงินกู้ที่ดอกเบี้ยมันเกิน เขาจะไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย เพราะวัตถุประสงค์ขัดกฎหมาย แค่จะไปปล่อยเกินก็เป็นความผิดแล้ว ไม่ใช่ผู้เสียหาย ดำเนินคดีไม่ได้เลย นี่มุมนึงนะ มุมสอง เขาให้กู้เขาเชื่อบุคคลที่สามที่นานามาอ้าง หรือเขาเชื่อถือในตัวนานา ถ้าเขาเชื่อถือนานา คุณก็ให้นานากู้นั่นแหละ เพราะคุณก็ไม่ได้เอาหนี้กับนานา ก็ต้องฟังดูว่าคนให้กู้เขาได้ดอก ก็ไปหามาอีก เขาอยากได้ดอกหรือเปล่า ไอ้ทางนี้ก็อยากได้เงินเพราะร้อนเงินไง
จะสู้ในมุมที่ว่ารู้อยู่แล้วว่าเงินเอาไปปล่อยดอก คุณเป็นคนได้ดอก คุณรู้อยู่แล้ว จะมาอ้างว่าต่อแรกนานาให้ลงทุน แต่นานาเอาไปลงทุนปล่อยดอกไม่ได้ ต้องร่วมกัน?
สายหยุด : ก็เป็นมุมต่อสู้ของผมในมุมนี้
ทนายแก้ว : ในมุนี้ก็ถูกของเขา แล้วแต่เขา แต่วิญญูชนต้องถามว่าให้เงิน ให้เพราะอะไร เขาเชื่อเอกสารต่างๆ ว่ามีการปล่อยจริง ทำจริง เป็นเรื่องเหยื่อทำให้เขาตกเบ็ด
สายหยุด : ที่พี่แก้วพูดไม่ได้ถูกแบบนั้นเพราะการโอนเขาโอนให้ผู้ให้กู้ แล้วเกิดภายหลังจากคนโอนเงินที่โอนมาแล้ว เหมือนลงทุนด้วยกันคนละครึ่ง เขาก็ปลอมสลิปนั่นแหละ เอาไปหลอกว่าโอนแล้ว
ยอมรับว่าปลอมสลิปจริง?
สายหยุด : สลิปมันปลอมอยู่แล้ว แหม เลขเดียวกัน 10 ใบ
สวัสดิ์ : ขอบคุณถ้าสายหยุดยอมรับว่าเป็นการปลอม ไม่ต้องไปตรวจมาก
สายหยุด : มันตรวจไม่มีโอนก็ปลอมแหละพี่ เอาง่ายๆ แต่ปลอมด้วยเจตนาไหนล่ะ เจตนาจะกู้เงิน เจตนาเดียว หลอกเพื่อจะได้เงินเขามา
ทางนี้ต้องสู้ในมุมว่าไม่ใช่ เงินเอาไปลงทุน?
สายหยุด : วิญญูชนมีเงิน 50 ล้าน 100 ล้าน ไม่เคยขอดูเอกสารเลยเหรอ
สวัสดิ์ : กระบวนการที่เราพูดกัน เป็นขั้นตอนที่เราจะต่อสู้กันในศาล แต่วันนี้ผมว่าเราต้องมาเอาข้อเท็จจริง ข้อความจริง มาให้สาธารณชนเขารู้ว่าพฤติกรรมเป็นยังไง ผมว่าอันนี้น่าจะชัดเจนกว่า
สายหยุด : ผมให้ข้อเท็จจริงในคดีเลย เพราะผมเป็นผู้ต้องหา เดี๋ยวผมไปให้การกับตร. เหมือนเดิม ผมพูดหลักการกว้างๆ ผมพูดหลักการกว้างๆ
ฟังแล้วเป็นยังไง?
ดาด้า : มึนเหมือนกัน ยากเนอะ
พี่สายหยุดมุมนานา ต้องสู้ในมุมที่ว่าเป็นการกู้ยืม เป็นเรื่องแพ่ง ต้องสู้มุมนี้ และสู้มุมที่ว่าออกดอกเบี้ยเกินกำหนดเพื่อให้เป็นโมฆะ ดอกจ่ายไปแล้วเท่าไหร่หักต้นไปเลย?
ทนายแก้ว : บางอย่างเป็นข้อเท็จจริงที่ต้องสู้ในศาล ผมก็เลยเกรงใจพี่สวัสดิ์อยู่ เดี๋ยวเปิดช่องไป
สวัสดิ์ : ผมมานำเสนอข้อเท็จจริง พฤติกรรมที่เกิดขึ้น ให้ทุกคนได้รับทราบว่ามันคืออะไร ส่วนประเด็นที่จะไปสู้ ประเด็นผิดถูก ผมไม่ก้าวล่วง เหมือนดาด้าเจอไป 2 ดอก คงไม่มีดอก 3 แล้ว พฤติกรรมมันคืออะไร ต่อให้ทนายสายหยุดมาสู้กับผม สู้กับทนายแก้ว มันไม่มีใครบอกได้ เพราะศาลเป็นคนตัดสิน ท่านดูพยานหลักฐาน บอกว่าคดีที่เราเคยสู้ เราคิดว่าชนะ แต่แพ้ก็มี คดีคิดว่าแพ้ชนะก็มี วันนี้เราไม่ได้มาบอกว่าแพ้หรือชนะ เอาข้อเท็จจริงมาพูดกันดีกว่า เหมืนที่ทนายสายหยุดพูดเมื่อกี้ ยอมรับว่าปลอม โอเค ผมมองว่าเป็นทนายที่ดี เพราะเราเป็นทนายต้องทำให้ถูกต้อง ตรงไปตรงมา ทุกวันนี้ทนายยังถูกกล่าวหาว่าทำหน้าที่เกินทนาย ข้อเท็จจริงอย่างนี้ไปทำอีกแบบนึง
เมื่อกี้ยอมรับแล้วว่าเอกสารปลอม ลูกความคุณได้บอกมั้ยว่าเหตุแห่งการปลมอครั้งนี้ เนื่องจากอะไร เพราะอะไร?
สายหยุด : เขามาปลอมช่วงหลังๆ เพื่อประวิงชำระหนี้ไปก่อน สองการที่เขาชวนคนจ่ายเงินให้เขากู้เงินหรือไปกู้เงินต่อ เขาตกลงกันว่าคนโอนมาครึ่งนึง เขาก็จะโอนออกไปครึ่งนึง ให้เหมือนกัน เขาเลยปลอมว่าเขาโอนแล้วนะ แค่นั้นแหละ แต่การที่เขาปลอมเอาไปให้ดูในการที่เขาส่ง ถามว่าหลังจากได้เงินมาก่อน หรือก่อนได้เงิน ตรงนี้เป็นรายละเอียดที่ผมต้องไปให้การและดูแชตประกอบ
สวัสดิ์ : ผมบอกได้เลย โอนมาส่งใบสลิปมา เพื่อให้เห็นว่า นานาได้โอนไปบุคคลที่สามแล้ว เพื่อให้ข้าวโพดโอนไป ไม่ใช่ประวิงการชำระหนี้
สายหยุด : ที่พี่พูดคือขั้นตอนการยืม ช่วงเองเงินตอนต้น
สวัสดิ์ : ไม่ใช่ ๆ
พี่ปาเกียวพยายามบอกว่าอันนี้ปลอมเพื่อประวิงเวลาใช้หนี้ แต่ทางนี้บอกว่าปลอมเพื่อตบตาว่ากูโอนต่อแล้วนะ มึงโอนเงินมาใหม่?
สายหยุด : อันนี้ผมเข้าใจพี่เขา ดูแค่ตรงนี้แสดงอะไรไม่ได้หรอก ต้องดูว่าฝ่ายผู้เสียหายเขาโอนมากี่โมง กี่วินาที แล้วคุณนานาทำสลิปปลอมส่งกลับไป กี่โมง กี่นาที กี่วินาที มันต้องดูกันช็อตต่อช็อตครับ อธิบายให้ได้ใบไหนหลอกอะไรไป ใบไหนให้ได้เงินแค่ไหนไป ไอ้ปลอมมันปลอมอยู่แล้ว รหัสเดียวกันไม่มี ต้องดูรายละเอียดไทม์ไลน์
สวัสดิ์ : ไม่ใช่เรื่องออกมาเพื่อประวิงใช้หนี้ ผมยืนยัน เพราะหลังส่งมาแล้ว ข้าวโพดส่งเงินต่อไป เขาบอกว่ากูโอนในส่วนกูแล้ว แสดงว่าไม่ใช่ประวิงชำระหนี้
สายหยุด : โอนรายชื่อเดียวกัน ถูกมั้ย
สวัสดิ์ : นี่ไม่ใช่ประวิง
สายหยุด : ปลอมทีหลังก็มี แต่เข้าใจพี่พูดแทนกลุ่มข้าวโพด แต่ที่เขาไปปลอม เขาปลอมกลุ่มอื่นก็มี ผมไม่รู้พี่เป็นทนายใครบ้าง มีอีกกลุ่มก้อนนึง ผมจำชื่อไม่ได้หมดทุกคน ผู้เสียหายเยอะมาก เพราะผมยุ่งกับการพาเข้ามอบตัว พาเข้าประกันตัว ผู้เสียหายเยอะมาก ที่ผมพูดประวิงการชำระหนี้ก็มี ไม่ใช่ไม่มี
ดาด้าคิดว่าจะแจ้งความมั้ย?
ดาด้า : ตอนนี้ด้ามีทนายแล้ว ทนายแนะนำว่ายังไงก็ต้องไปแจ้งความ เดี๋ยวต้องมีการเคลียร์กับทางคุณนานาอีกที ว่ากรอบชำระหนี้เป็นยังไง กี่เดือน กี่ปีก็ว่าไปค่ะ จะทำสัญญา ด้าไม่ติด แต่ปลายทางด้าปักธงแล้ว ด้าอยากได้เงินคืนเท่านั้นเอง ทำยังไงก็ได้ที่เขาต้องคืนเงินให้ด้า แค่นั้นค่ะ
มันบันทึกได้ แต่คุณจะไม่บันทึก?
ดาด้า : เดี๋ยวด้าให้ทนายด้าเป็นคนจัดการ ว่าจะยังไงต่อ
สุดท้ายแล้วพี่ยืนยันว่าเรื่องนี้หลอกไปลงทุน?
สวัสดิ์ : ถูกต้อง บอกว่านางหมวยจะปล่อยเงินกู้ ได้ดอกดี เอามาลงทุนกับคนนี้ โดยโอนผ่านบัญชีนานา และอีก 3-4 บัญชี เอาเงินไปลงหุ้น
ส่วนพี่ปาเกียวสู้ว่าตัวผู้ให้ยืมรู้อยู่แล้วว่าปล่อยเอาดอก ถือว่าเป็นผู้ร่วมในการไปเอาเงินเขามาอยู่แล้ว ถามพี่ปาเกียวในฐานะคนกลาง ข้าวโพดต้องรู้ว่าได้ดอก และดอกเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ฉะนั้นมันเป็นการร่วมกันปล่อยดอก งั้นถามแบบคนโง่ไม่รู้เรื่อง ในขณะเดียวกัน การที่นานาบอกว่าเอาเงินข้าวโพดไปให้นางหมวย แต่นางหมวยไม่มีตัวตนอยู่จริง มันก็ไม่ได้เอาไปปล่อยกู้จริง ไม่เป็นการฉ้อโกงเหรอ?
สายหยุด : ต้องย้อนกลับไปที่ตร.ตั้งข้อหาก่อน เขาตั้ง พ.ร.ก.กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน ผมดูว่าตร.เขาเริ่มต้นกระบวนการไม่ถูก ถ้าเขาหลอกลวงคุณข้าวโพด ฉ้อโกงคุณข้าวโพด คุณข้าวโพดก็ว่ากันตัวต่อตัว มีบุคคล 5 คน ไปหาคนมาเหมือนแชร์ลูกโซ่ที่เขาพูดกัน ปล่อยดาวน์ไลน์ไป 5 คน ไปหาคนมาให้นานากู้ อันนี้ไม่มี นานาไม่ได้ปล่อย 5 คนเป็นแม่ข่าย องค์ประกอบ ง. ไม่เข้า
ทนายแก้ว : จ.จานล่ะ
สายหยุด : ทางบ้านเสิร์จดูได้เลย จ. ได้กู้ยืมเงินคนเกิน 10 คน
ทนายแก้ว : รวมกันเท่าไหร่
สายหยุด : ไม่ พี่แก้ว พี่อย่าเพิ่งข้ามองค์ประกอบ พี่อย่าลืมคำว่าประชาชน นี่คือกลุ่มเพื่อน
ทนายแก้ว : เมื่อกี้คุณบอกตำราเขียนบอก ง. แต่ผมบอกมี จ. จาน
สายหยุด : เข้าใจ ผมจะอ่านนี่ไงว่าเขาต้องกู้เงิน 10 คน พี่ต้องใจเย็นๆ ให้ผมพูดให้จบ
ทนายแก้ว : ขอโทษ ๆ
สายหยุด : มันเป็นตัวลูกความผมโดยตรง พี่ไม่มีผลกระทบหรอก พี่เป็นคนกลางต้องเอาตำรามาอ่าน ไม่ใช่จะอย่างนั้นอย่างนี้ คนฟังเขาคลาดเคลื่อน ผมตำราบานเลยพี่ดู มาเจอดร.ผมก็เครียด ก็ 10 คนขึ้นไป จำนวนเงินเกิน 5 ล้านบาท แล้วพี่รู้มั้ยว่าผู้เสียหายที่เขาหลอกกู้ยืมมันถึง 10 คนมั้ย หนึ่งในนั้นคุณข้าวโพดเองก็ไปชวนญาติบางส่วน ซึ่งนานาไม่ได้ไปชวน ข้อเท็จจริงตรงนี้จริงมั้ย มันไม่ถึง 10
สวัสดิ์ : ข้าวโพดไม่ได้ไปชวนญาติ หมายถึงพอมีปั๊บ ก็เอาเงินแม่ เงินพี่ เงินน้องมาในส่วนข้าวโพดหมด ไม่ได้เอาส่วนแม่ของอะไรมาเป็นผู้เสียหาย
สายหยุด : ผมกำลังคุยกับพี่แก้วว่าผู้เสียหายในการกู้ยืมถึง 10 คนหรือเปล่า
สวัสดิ์ : เนื่องจากกระบวนการอันนี้ ไม่ใช่ทนายไปฟ้องโดยตรง เป็นเรื่องพนักงานสอบสวน ใครจะไปรู้พนักงานสอบสวนเขาสอบสวนใครไปบ้าง เขาบอก 17 คน
สายหยุด : ผมทราบมาแล้ว ผมดูแจ้งข้อหามาแล้ว มันไม่ถึง 10 คน
สวัสดิ์ : ไม่ใช่ อันนั้นคุณทราบ แต่ว่าเราไม่รู้กระบวนการ กระบวนการสอบสวนยังไม่เสร็จ มันเป็นเพียงขั้นต้น ซึ่งจะทำยังไงต่อ พวกผมไม่รู้หรอก
สายหยุด : อันนี้ผมพูดให้พี่ฟังไง ว่าผมรับทราบมาแล้ว
สวัสดิ์ : มาถามแก้วเรื่องสอบสวนรู้มั้ย แก้วจะรู้ได้ไง แก้วยิ่งห่างกว่าผมอีก
สายหยุด : ไม่ใช่ ผมถามว่ารู้ข้อเท็จจริงหรือเปล่าที่ว่าเป็นฉ้อโกงประชาชนหรือเปล่า ถามว่าขึ้นต้นผิดตรงไหน นานาหลอกพี่แก้วที่คลองตัน ก็ไปแจ้งที่คลองตัน ไปหลอกคุณข้าวโพดที่สำโรง ก็ไปแจ้งที่สำโรง ไม่ใช่คุณมาแพ็กกันแล้วมาบอกประชาชน เพราะตอนคุณคุยกัน เขาคุยทีละคน แล้วมันประชาชนตรงไหน ประกาศตรงไหน ประกาศแพร่หลายให้บุคคลได้ทราบ เขาเคยประกาศมั้ย มีมั้ย คำว่าประชาชนกับคนวงแคบ วงเพื่อน มันคนละความหมาย
จะบอกว่านานาไม่ได้ยืมวงนอก เขายืมเพื่อนๆ ทีละคน มันเลยอยู่ในวงนี้ไม่ใช่ประชาชน?
ทนายแก้ว : ต้องกลับมาหลักก่อนครับ มาตรา343 คำว่าฉ้อโกงประชาชน ไม่ได้มองว่าประชาชนกี่โมง มันเป็นประชาชน มันเป็นคน การหลอกคนที่ 1 2 3 4 ก็ถือว่าเป็นสับเซ็ต ของคำว่าประชาชน
สายหยุด : ไม่พี่ ฎีกาชัดเจน ไลน์กลุ่มปิด เป็นประชาชนมั้ยพี่ เป็นข้อกฎหมาย
สวัสดิ์ : ผมว่าเราไม่ควรเถียงกันเรื่องเหล่านี้ เพราะคำพิพากษาฎีกาก็เป็นเพียงบรรทัดฐาน สมัยนึงบอกว่าบุคคลอย่างนี้ไม่ใช่ผู้เสียหาย พอมาปัจจุบันก็บอกว่าเป็นผู้เสียหาย นักกฎหมายมีหน้าที่นำข้อเท็จจริงไปเสนอศาลหรือผู้เกี่ยวข้องให้สมบูรณ์ที่สุด ไม่ใช่มาเถียงกัน พอทนายสายหยุดบอกว่าสอบสวนทำไม่ถูก มันไม่เกี่ยวอะไร เพราะวันนี้เขาไม่ได้มา
สายหยุด : อยากให้เขามาด้วยซ้ำ
สวัสดิ์ : มันไม่ใช่เรื่องที่เราจะไปตอบ
นานาไปบอกเขาว่าจะมีคนมาโน่นนี่นั่น มีเช็คการันตี ตรงนี้ มองยังไง?
สายหยุด : ถ้าเป็นคนกู้ยังไงก็บอกเหมือนเดิม ว่าเขากู้กัน แต่จะมาหลอกลงทุน ต้องเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ อย่างไปลงทุนทำร้านอาหารกาแฟแต่ไม่ทำ แบบนี้หลอกกันแน่นอน แต่อันนี้รู้ว่าเอาไปกู้
พูดมุมข้าวโพดคนเดียวก่อนนะ เพราะเจนี่เขาโดนเรื่องหลอกไปลงร้านอาหาร คุณดาด้าหลอกซื้อหุ้นร้านตัดผม ยังมีอีกสองสามคน ก็โดนเรื่องหุ้นเหมือนกัน แต่นี่เราพูดถึงตัวข้าวโพด คุณจะบอกว่าเป็นการกู้ยืม?
สายหยุด : ผมก็สู้ว่ากู้ยืมแน่นอน รู้ว่ายืมปล่อยกู้
สวัสดิ์ : ผมก็ยืนยันตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าข้อมูลที่ผมได้มา ผมไปพบคนที่ถูกอ้าง มันไม่มีจริง
มันก็ไปหลอกเขาไง?
สายหยุด : ผมก็เข้าใจ
สวัสดิ์ : แสดงว่ากระบวนการไปกู้ไม่มีจริง อุปโลกน์ขึ้นมาให้เขาเชื่อ พอเขาเชื่อก็เอาดอกมาให้ เอาค่าตอบแทนแล้วแต่จะเรียกกัน ดาด้านี่แบบ โอ้โห เอาดอกมาหลอกอีกทีว่านี่ดอกจริง นี่คือเหยื่อทำให้ดาด้าต้องเชื่อใจ ผมไม่มีเหตุอื่นนะ เมื่อวานก็บอกแบบนี้
สายหยุด : บางครั้งก็ต้องดูหน้าการตัดสินใจครั้งสุดท้าย อ้างไปที่นายต. หรือนางหมวย คุณข้าวโพดก็ไม่ได้รู้จักนางหมวย เขาให้กู้ถามว่าเขาเชื่อใจใครก่อน เขาชื่อใจนานา คนปล่อยกู้เป็นร้อยล้าน จะไม่ดูลูกหนี้เลยเหร
สวัสดิ์ : เขาก็รู้ ลูกอยู่โรงเรียนเดียวกัน ถ่ายภาพมาด้วยกัน นานาบอกว่าอย่าไปบอก
สายหยุด : ถ้าเป็นผม ผมไม่เชื่อ ผมเสียเป็นร้อย ผมแหกเลยแหละ
ผมเป็นกลาง ผมฟังทุกมุมมนะ ข้าวโพดรู้อยู่แล้วว่านานาจะเอาเงินไปปล่อยดออก ถือว่าร่วมกันปล่อยดอก ดอกเกินกฎหมายกำหนด มันเป็นโมฆะอยู่แล้ว อะไรที่เคยทอนกลับคืนมาให้ข้าวโพด ก็หักเงินต้นไปหมดเลย ทำสัญญาเงินกู้ไว้ 70 ล้าน นานาจ่ายไปแล้ว 71 มันโบ๋ไปแล้ว ติดลบ 1 ด้วย แต่ขณะเดียวกัน ทางนี้เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้เป็นแบบนั้น โอเคอาจเป็นครึ่งนึงตามที่พี่บอกมา แต่การที่นานาไปหลอกว่ามึงเอาเงินมาให้กู 10 ล้านนะ กูจะปล่อยเงินกู้ให้ดาด้า ขณะเดียวกันดาด้าไม่มีตัวตนอยู่จริง นานาเอาเงินนี้ไปใช้ทำอย่าอื่นเอง ข้าวโพดก็รอว่าเมื่อไหร่จะได้ดอกที่เอาของเขาไป มันก็เป็นการหลอกเอาไปลงทุนเพื่อให้ได้ดอกมา
สายหยุด : แล้วพี่รู้มั้ย ภาพรวมเงินไปไหนหมด ดั้งเดิมก็ซื้อหุ้นกัน เรื่องเทรดหุ้น ไปหลอกกู้หลอกยืมแล้วแต่นะ ผมเล่าให้ฟังนะ ไปเอาเงินพวกนี้มา วันไหนหุ้นแดงเขาไม่จ่าย เขาดูกระจายวันไหนหุ้นเขียวเขาจ่าย พอกู้เงินจากคุณข้าวโพด ดอกเบี้ยเดินทุกวัน เงินต้นกระทบดอกอยู่แบบนี้แหละ ผมถามว่าใช้เองเท่าไหร่ ไม่เกิน 10-20 เปอร์เซ็นต์ เอาคนใหม่มาจ่ายคนเก่า เขากู้กันมากี่ปี เงินไม่ได้ไปไหน เงินมันหมุนเวียน
แต่ทางนี้มองว่านางหมวย ที่นานาอ้างไม่มีตัวตนอยู่จริง?
สวัสดิ์ : มีอยู่จริง แต่เขาไม่ได้ทำ อุปโลกน์ขึ้นมา
สายหยุด : ไม่ใช่อุปโลกน์ เขาจิ้มเลยว่าคนนี้แหละจะเอาไปปล่อยกู้ คนนี้มีตัวตน แต่เขาไม่รู้เรื่อง
ในหลักความเป็นจริงคือไม่มีตัวตน?
สายหยุด : ถ้าผมอ้างให้คุณดาด้ากู้ร้อยล้าน แต่อย่าไปถามคุณดาด้านะ เขาไม่ชอบวุ่นวาย พี่ไปเอาเงินแม่ เอาเงินน้อยมาอีก พี่จะสะกิดถามมั้ยว่าเอามาให้กู้จริงมั้ย วิญญูชนได้ดอกทุกวัน ก็ไม่ถาม ไม่สงสัยด้วย
ยกตัวอย่างเจนี่ เทียนโพธ์สุวรรณ 5-6 เดือนก่อน เจนี่ได้รับการติดต่อจากนานาจะเอาเงินไปลงทุนเปิดร้านอาหารที่นิวยอร์ก เจนี่โอนเงินไป ไม่เคยถามเลย ว่าตกลงจะเปิดเมื่อไหร่ ขอเบอร์ไปแต่เขาโดนปฏิเสธมาตลอด?
สายหยุด : เขาบอกมั้ยเขาบินไปอเมริกาด้วยกัน
ที่บินไปอเมริกา เขาไปเปิดเพลงที่ร้านๆ นึงที่ดีซี กับนานา พอกลับมา ทางนานาแจ้งเจนี่ว่าร้านนี้จะเปิดสาขาใหม่ที่นิวยอร์ก มึงเอากับกูมั้ย เจนี่ตกลง ไปเอาเงินของลูกที่เก็บไว้ออกมา โอนให้ทุกวัน วันละ 5 แสน หลังจากนั้นเจนี่พยายามขอเบอร์ติดต่อ ว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ยร้านที่จะเปิดให้เจนี่บินไปมั้ย สุดท้ายก็ไม่เบอร์ รู้มั้ยว่าทำไมเขาถึงรู้ พี่ก็ไม่รู้ ที่เขารู้เพราะเวลาผ่านไป 5-6 เดือน เขาไม่เคยสงสัยเพื่อนเขาเลย เขารักนานามาก สุดท้ายแล้วเขามาดูรายการที่ผมเขียนวง เขาเลยสงสัยว่าเขาจะโดนด้วยมั้ย ก่อนผมพูดวันนึง เจนี่ยังอยู่เป็นเพื่อนนานา ที่บ้านหนิง ปณิตาอยู่เลย พอวันรุ่งขึ้นเจนี่เห็นภาพแล้วก็เลยพยายามตามหาเบอร์โทรศัพท์เจ้าของร้านนี้ แล้วโทรไปถาม พอโทรไปถามว่านานาโอนเงินให้หรือยัง เขาถามว่าโอนเงินค่าอะไรคะ เจนี่บอกโทรศัพท์แทบตก เขาไอซียูเลย เขาแย่มากเลย นั่นคือวันที่เขารู้ จะบอกว่าบางทีความเป็นเพื่อน เขาเชื่อใจกัน?
ดาด้า : ของด้าก็คล้ายกับเจนี่ ของด้าไม่เคยรู้เลยแม้กระทั่งวันที่ข่าวออก ว่านานามีเจ้าหนี้เยอะ
สายหยุด : เขาก็ยอมรับว่าเขาผิดจริงๆ เขาไม่ได้เถียงผม
แต่ที่เราพูด อยากให้เห็น เพราะพี่บอกว่าทำไมถึงไม่ไปถาม ทำไมถึงเชื่อใจเพื่อนขนาดนั้น มันมีคนที่ไม่ได้เชื่อใจเพื่อนแค่คนเดียวนะ มันมีหลายคน?
ดาด้า : ด้าโอนเงินให้นานาปีนึงพอดีเลย ไม่เคยถามว่าเปลี่ยนผู้ถือหุ้นหรือยังเพราะเชื่อใจ สุดท้ายข่าวออก พี่หนุ่มโทรมาหาด้าว่ามีผู้เสียหายจริงๆ นะ จากนั้นด้าได้ถามนานาตรงๆ ว่ามีจริงใช่มั้ย ตอนนั้นนานายังยืนยันว่ามีจริง ไม่ได้หลอก จนเราไปเช็กว่าเรามีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นหรือเปล่า ปรากฏว่าไม่มี จนไปเช็กหลายๆ คน จนด้าไปถามนานาตรงๆ ว่าถามจริง เอาเงินไปลงที่บริษัทนี้จริงๆ มั้ย นานาถึงยอมรับว่าเอาเงินไปใช้อย่างอื่น
ทั้งหมดทั้งมวลที่บอกพี่ บางคนเขาเชื่อใจเขาเชื่อจริงๆ แต่ส่วนนานาก็เข้าใจเขานะ สิ่งที่ผมพูดทั้งหมด นานายอมรับผิดหมด เขาบอกว่าใช่ มันคือข้อเท็จจริงเป็นแบบนี้จริงๆ เขาไม่ได้ปฏิเสธนะ เขาก็รับผิดชอบในส่วนของเขา แต่เรากำลังคุยกันในเรื่องพฤติกรรมในการสู้กันในคดี ผมรู้จักทั้งสองฝ่าย และคุยกับทุกคน นานาก็คุย เจนี่ก็คุย ดาด้าก็คุย จะรู้เหตุแต่ละคน นานาก็ฟังมา นานาไม่ปฏิเสธสักคำว่าเขาไม่ผิด เขายอมรับว่าเขาผิด เขาพลาด พี่ถามว่านานา ทำไมต้องไปหลอกคนนี้ทำไมต้องโกหกคนนี้ ทำไมต้องพูดแบบนี้กับคนนี้ เขาบอกว่าเขายอมรับหมดเลย เขาผิดเอง ที่นานาหาเงินเพื่อไปจ่ายดอก เอาไปตบดอกให้คนนี้ๆ?