"เล่ห์บรรพกาล" เป็นนวนิยายที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นบทละคร ออนแอร์ทางช่อง 3 และเพิ่งอวสานไปไม่นานนี้ เรื่องนี้เป็นละครที่เล่าถึงช่วงเวลา 3 ช่วง คือ ช่วงที่หนึ่งเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว ช่วงที่สองสมัยรัชกาลที่ห้า และช่วงที่สามคือเวลาปัจจุบัน นำเสนอเรื่องผ่านตัวละครเอก 4 ตัว คือ เพลิงฟ้า ศิตางศุ์ ปักบุญ และอดุล ทั้ง 4 คนมีอดีตชาติร่วมกันมานับพันปีปักบุญเป็นตัวละครเอกหญิงที่มีชะตากรรมเลวร้ายแทบจะที่สุดในเรื่อง โดยเฉพาะหากมองในแง่ของสตรีนิยม (Feminism) แม้ผู้ประพันธ์จะสร้างตัวละคร 'ปักบุญ' ให้มีบุคลิกภาพที่เด็ดเดี่ยว เด็ดขาด และมีความเป็นผู้นำมากเพียงใด แต่ท้ายที่สุดระบอบชายเป็นใหญ่หรือปิตาธิปไตย สรีรทางเพศชายที่ยิ่งใหญ่กว่าเพศหญิง ก็กดขี่เธอไว้จนเธอต้องศิโรราบทุกชาติไปเรื่องราวเริ่มเริ่มที่ ...ชาติปัจจุบัน ปักบุญ เป็นภรรยาของศาสตราจารย์อดุล เธอมีคุณสมบัติพิเศษคือ สามารถระลึกชาติได้ เธอตกเป็นเครื่องมือของสามีในการตามหาและยึดครองเทวรูปองค์กาลเทพ ผู้ควบคุมกาลเวลา ในสมัยรัชกาลที่ 5 ปักบุญมีชื่อว่าบุญเหลือเป็นบ่าวในเรือนของขุนอุทัย เธอตกเป็นภรรยาของผีบุญ (ชาติก่อนของอดุล) เพื่อแลกกับการทำมนต์เสน่ห์ใส่ขุนอุทัย เพื่อหวังว่าขุนอุทัยจะมีใจรักให้แก่เธอ ผีบุญใช้เธอเป็นเครื่องมือค้นหาและแย่งชิงองค์กาลเทพให้แก่เขา และในอดีตนับพันปีที่แล้วปักบุญมีชื่อว่าทิณสรี หญิงสาวผู้หลงรักราวิเพื่อนร่วมศิษย์อาจารย์เดียวกัน เธอก็ตกเป็นเครื่องมือท้าววาร (ชาติก่อนของอดุล) ในการปลุกเสกองค์กาลเทพเช่นกัน สิ่งที่น่าสนใจของตัวละครตัวนี้คือ ในทุก ๆ ชาติ เธอก็พ่ายแพ้ต่อบุรุษเสมอ ด้วยความไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แม้ผู้แต่งจะสร้างคาเร็กเตอร์ของปักบุญให้เป็นหญิงเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว เด็ดขาด แต่อีกนัยหนึ่งที่ซ่อนไว้คือความไร้เดียงสา การตกเป็นรอง และเหยื่อของสายสัมพันธ์เชิงอำนาจให้เกิดขึ้นกับเธอในทุกภพชาติทั้งสามภพชาติที่ถูกนำเสนอในละคร 'เล่ห์บรรพกาล' ไม่ว่าจะเป็นภพชาติของ ปักบุญ บุญเหลือ หรือทิณสรี เธอล้วนเป็นหญิงที่ถูกเพศชายกดขี่ทั้งสิ้น 'ความรัก' และ 'เซ็กส์' กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เพศชายใช้เพื่อกุมอำนาจให้เหนือว่าผู้หญิง มาดูรายละเอียดกันนะคะเริ่มจากอดีตนับพันปี เราจะเรียกช่วงเวลานี้ว่า 'ยุคหล่อสร้าง และปลุกเสกองค์กาลเทพ' ท้าววาร เป็นกษัตริย์ของนครไวสาลี ท้าววารมีนิสัยละโมบ ทะเยอทะยานและบ้าอำนาจ เขาต้องการควบคุมกาลเวลา จึงได้สร้างองค์กาลเทพขึ้นมา และใช้มนุษย์เป็นเครื่องมือในการปลุกเสก ทิณสรีเป็นศิษย์เอกของท้าววารและเป็นเครื่องเซ่นที่สำคัญในการบวงสรวงองค์กาลเทพที่มีข้อแม้ว่าการที่จะเปิดตาที่สามได้ต้องเผาผู้สำเร็จวิชาอาชณะจักรทั้งเป็น โดยที่คนผู้นั้นเต็มใจ และผู้ที่สำเร็จวิชานี้มีเพียงทิณสรีและราวิเท่านั้น ทิณสรีหลงรักราวิ แต่ราวิกลับไปรักศศิณา ทำให้ทิณสรีเสียใจมาก ท้าววารสบโอกาสจึงแปลงกายเป็นราวิเพื่อหลอกมีเพศสัมพันธ์กับทิณสรี ท้าววารใช้อุบายหลอกมีเพศสัมพันธ์กับทิณสรีเพื่อให้ทิณสรีโกรธแค้นราวิว่าราวิมาหลอกมามีความสัมพันธ์กับเธอแล้วทิ้งไป ทิณสรีจึงยอมตายเพื่อแก้แค้นราวิ จากตรงนี้เราจะเห็นว่าทิณสรีมีความเด็ดเดี่ยว และเข้มแข็งมาก แต่จริง ๆ แล้วทั้งหมดเป็นอุบายของท้าววาร บุรุษเพศที่มีสถานภาพเป็นอาจารย์กลับทำร้ายสตรีอย่างไม่มีมนุษยธรรม 'ยุคการกลับมาขององค์กาลเทพ' ยุคนี้ในเรื่องตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 นะคะ ยุคนี้ทิณสรีกลับชาติมาเกิดเป็นบุญเหลือ เธอเป็นบ่าวของดวงแข ภรรยาของขุนอุทัย ทิณสรีหลงรักขุนอุทัย แต่ขุนอุทัยรักเพียงดวงแขเท่านั้น บุญเหลือทำวิถีทางเพื่อให้ได้เป็นภรรยาของขุนอุทัย เธอไปขอร้องผีบุญ (อีกชาติหนึ่งของท้าววาร) ให้ทำเสน่ห์ให้ ผีบุญใช้การมีเพศสัมพันธ์กับเธอเพื่อแลกเปลี่ยน แต่แท้จริงแล้วเป็นอุบายเพื่อให้ตนเองมีอำนาจเหนือกว่าในการควบคุมเธอ เพราะเขาต้องการหลอกใช้เธอเป็นเครื่องมือให้หาที่ซ่อนขององค์กาลเทพ'ยุคดับสูญขององค์กาลเทพ' ยุคนี้ตรงกับช่วงเวลาปัจจุบันค่ะ ภพนี้เป็นภพที่บุญเหลือกลับชาติมาเกิดเป็น ปักบุญ ภรรยาของศาสตราจารย์อดุล ซึ่งเป็นผีบุญกลับชาติมาเกิด ปักบุญมีพลังวิเศษที่สามารถมองเห็นอดีตชาติได้ อดุลใช้ปักบุญเป็นเครื่องมือในการตามหาองค์กาลเทพ ที่ในอดีตขุนอุทัยได้ทำพิธีสะกดเทวรูปไว้กับวิญญาณคน 9 คน ซึ่งถ้าคนทั้ง 9 คนนี้ไม่ได้เกิดมาในชาติเดียวกัน และถูกฆ่าพร้อมกันในชาตินั้น ก็จะไม่มีทางคลายมนต์สะกดได้ แต่ในชาตินี้คนทั้ง 9 ได้กลับมาเกิดพร้อมกันอีกครั้ง ปักบุญต้องทำหน้าที่หาว่าทั้ง 9 คนเป็นใคร และใช้ให้ลูกน้องของเธอฆ่ากลุ่มคนเหล่านั้น เพื่อเปิดตาที่สามขององค์กาลเทพ และจะได้เป็นใหญ่ครอบครองอำนาจของกาลเวลา หยั่งรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ปักบุญทำตามคำสั่งสามีโดยไม่รู้เลยว่าเธอกำลังถูกหลอกใช้ เธอคิดเสมอว่าอดุลเป็นคนซื่อ และเมื่อเธอหาองค์กาลเทพเจอเธอก็จะเป็นผู้ควบคุมอำนาจเหนือกาลเวลา และเป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด เราจะเห็นว่าอดุลวางแผนการทุกอย่าง ปักบุญเองก็เป็นเพียงเครื่องมือหรือหมากตัวหนึ่งที่เขาวางไว้ ไม่ว่าปักบุญจะเก่ง ฉลาดสักเพียงใดแต่ก็ไม่สามารถเอาชนะผู้ชายได้ในตอนจบของเรื่องปักบุญและอดุลถูกผลักให้กลับเข้าไปอยู่ในองค์กาลเทพ นั่นหมายถึงจุดจบของตัวละครทั้งสองนี้คือ ความตาย เป็นการทิ้งท้ายให้เห็นว่า ไม่ว่าจะกี่ภพชาติสตรีก็ตกอยู่ในฐานะเหยื่อที่ถูกกดขี่และถูกกระทำจากบุรุษเพศเสมอแม้ว่าภาพลักษณ์ของปักบุญที่ผู้ประพันธ์นำเสนอ คือ เป็นสตรีที่มีความเข้มแข็ง มีความเป็นผู้นำ เป็นคนเก่ง ฉลาด อาจเพราะปักบุญเป็นผู้หญิงในยุคปัจจุบัน ยุคที่ผู้หญิงเริ่มก้าวขึ้นมามีบทบาททางสังคม มีความเป็นผู้นำ แต่สุดท้ายไม่ว่าเธอจะเก่งสักแค่ไหน จะฉลาดสักเพียงใด แต่เธอก็ไม่เคยอยู่เหนืออำนาจของผู้ชายได้สักครั้ง ภาพที่นำเสนอจากตัวละครนี้ผู้หญิงเป็นเหยื่อที่ไร้เดียงสา อ่อนไหว ชักจูงง่าย ตอกย้ำมโนทัศน์เกี่ยวกับบทบาทของผู้หญิง ที่ไม่ว่าจะกี่พันปีผู้หญิงก็ตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ชายเสมอ ปักบุญก็เป็นเพียงแค่ภาพของผู้หญิงที่ถูกนำเสนอในละครเท่านั้น แต่ความเป็นจริงแล้วในสังคมปัจจุบันนี้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงมีสิทธิ มีเสรีภาพ มีความเท่าเทียมกับผู้ชาย ดังนั้นผู้หญิงในสังคมปัจจุบันจึงควรตระหนักเห็นคุณค่าในตัวเอง มีพลัง มีสติปัญญา และสามารถสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ให้แก่สังคมได้ไม่แพ้ผู้ชายเลยล่ะค่ะเพื่อน ๆ ล่ะคะ ?? คิดเหมือนกันกับเราไหม ...ขอขอบคุณภาพปกและภาพประกอบทั้งหมดจาก Ch3Thailand