Short CommentMoonfall วันวิบัติ จันทร์ถล่มโลก (2022)เมื่อถึงทางตันทางออกคือเอามันส์อย่างเดียวห้ามเฉลียวใจไปคิดตามถ้าเอ่ยถึง Roland Emmerich เชื่อว่าคนที่ชื่นชอบการดูหนังต้องรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อหรือแย่สุดๆก็คืออาจไม่รู้ว่าเป็นใครแต่เชื่อเถอะว่าเคยดูหนังของเขา ซึ่งสำหรับดูไปบ่นไปได้รู้จักกับ Roland Emmerich จากหนัง Stargate ทะลุคนทะลุจักรวาล (1994) ที่กลายมาเป็นงานคลาสสิค แต่ที่บอกว่าคนดูหนังต้องได้ดูงานของเขาเพราะหลังจากนั้นมาสองปีให้หลังที่เขาได้สร้างงานคลาสสิคจนขึ้นหิ้งบูชากับ Independence Day (1996) ที่เป็นหนังภาคบังคับว่าถ้าชอบดูหนังก็ต้องดูหนังไซไฟเอเลี่ยนบุกโลกเรื่องนี้ ทว่านั่นคือการทำงานร่วมกับคู่หูอย่าง Dean Devlin ที่ทั้งคู่สร้างแนวทางของหนังแนวเอพิคหายนะโลกที่มีลายเซ็นชัดเจนทั้งความหมายโดยตรงที่ความตื่นเต้นเร้าใจกับภาพโลกสลายอันตื่นตาที่แฝงนัยยะของการรักษ์โลกรักษ์ธรรมชาติและความต้องการเป็นพระเจ้าของมนุษย์ กระนั้นเมื่อการรังสรรค์งานประมาณนี้ออกมาเรื่อยๆทั้งจาก Dean Devlin และ Roland Emmerich เองก็ยังมีคนอื่นพยายามเข็นมาขายปังบ้างแป้กบ้างไม่เว้นแม้แต่ต้นตำรับเอง จนเมื่อเวลาผ่านมาถึงตอนนี้บางทีอาจต้องยอมรับแล้วว่าหนังแนวนี้เริ่มถึงทางตันแล้วหลังจาภารกิจซ่อมดาวเทียมนอกอวกาศกลายเป็นหายนะที่นักบินอวกาศ Brian Harper (Patrick Wilson) เชื่อว่าพวกเขาถูกโจมตีจากบางสิ่ง ทว่าเมื่อมีการไต่สวนกลับไม่มีใครเชื่อเขารวมถึงเพื่อนนักบินอวกาศ Jocinda Fowler (Halle Berry) ที่หมดสติไปในตอนนั้น ทำให้ Brian Harper ต้องสูญเสียทุกอย่างจนสิบปีให้หลังเมื่อชายประหลาดคนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่า Dr.Houseman (John Bradley) ค้นพบว่าวงโคจรของดวงจันทร์มีการเปลี่ยนแปลง แน่นอนว่าพูดไปใครเขาจะเชื่อเขาจึงส่งข่าวไปยังสถานีโทรทัศน์และเมื่อรัฐบาลสหรัฐรู้ก็พยายามหาทางแก้วิกฤติก่อนที่ดวงจันทร์จะเข้ามาชนโลก กระนั้นเมื่อความจริงบางอย่างปรากฎว่ามีอะไรที่ซ่อนอยู่ในดวงจันทร์ที่จู่โจมอุปกรณ์ดิจิทัลของมนุษย์ทางออกคือการนำเอากระสวยอวกาศรุ่นโบราณที่ถูกเก็บเข้ากรุออกมาใช้เพื่อเดินทางไปยังดวงจันทร์เพื่อจัดการปัญหาและกู้โลก แต่ยานอวกาศรุ่นโบราณก็เหลือคนที่ขับมันได้แค่ Brian ที่ต้องร่วมมือกับ Jocinda และ Houseman เป็นฮีโร่จำเป็นเพื่อจัดการกับดวงจันทร์ให้กลับสู่วงโคจรของมันและช่วยครอบครัวของพวกเขาที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดตามสูตรเมื่อเรื่องแนวนี้ไม่เหลือทางให้ไปก็ยำใหญ่มันเสียเลย ถ้าจะให้ไล่เรียงดูหนังแนวนี้ในเครดิตของ Roland Emmerich คงต้องบอกว่ายาวแน่นอนเพราะเขาสร้างชื่อและสร้างแนวทางไว้ หนังใหม่เรื่องนี้จึงเป็นงานตามสูตรเต็มประดาทั้งโครงเรื่องและตัวละครเมื่อล่าถึงความต้องการเป็นพระเจ้าที่ควบคุมทุกอย่างของมนุษย์ที่คราวนี้ย้อนไปไกล และตัวละครต้องมีหนึ่งนักบินผู้ห้าวหาญที่มีปมในใจกับหนึ่งเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่งัดข้อกับคนใหญ่โตและนักวิทยาศาสตร์จอมเนิร์ด ทว่าหนังแนวนี้ที่มีออกมาได้เล่ามาอย่างปรุโปร่งแล้วจึงไม่ต่างจากการเอา Independence Day เป็นตัวตั้งแล้วใส่ลูกเล่นและฉากการทำลายล้างของธรรมชาติจาก The Day After Tomorrow (2004) และฉากการหนีเอาชีวิตรอดจากหายนะจาก 2012 (2009) รวมถึงหนังแนวนี้อีกมากมายที่ขี้เกียจร่ายแต่สามเรื่องนี้เห็นชัดเจนเลยว่าเป็นสารตั้งต้นจนคิดถึงในทันที แต่หนังแนวนี้เอาจริงคือจะต้องมีทฤษฎีของการเปลี่ยนแปลงทางวิทยาศาสตร์มารองรับที่คนดูพร้อมจะคิดตามว่ามันน่าจะเป็นไปได้แต่เมื่อพัฒนาไปไกลอย่างที่เห็นเลยกลายเป็นว่าอย่าคิดตามเพราะยิ่งคิดจะยิ่งรู้สึกว่า WTFจึงมาพร้อมความตื่นเต้นตื่นตาแต่ไม่ตื่นใจเพราะเหมือนหยิบเอามาจากหนังเรื่องก่อนๆมาร้อยเรียง แน่นอนเมื่อเหมือนหยิบเอานู่นนี่นั่นจากหนังเรื่องนั้นเรื่องนี้มาใส่รวมๆกันฉากโลกถูกทำลายล้างหรือฉากหายนะโลกก็กลายเป็นความตื่นเต้นตื่นตาแต่ไม่ได้ผลอะไรกับใจคนดูแล้ว เพราะที่เห็นก็เคยเห็นมาหมดแล้วรวมถึงการขับรถหรือหาทางไปยังบังเกอร์หลบภัยของตัวละครที่พาไปสู่ความสูญเสียก็เจอมาบ่อย แถมด้วยความที่บทขาดความต่อเนื่องเหมือนจะพาคนดูไปสู่จุดของความซาบซึ้งแต่ดันไปไม่ถึงหยุดแค่กลางทางแล้วพยายามลืมๆสิ่งที่จะเล่าไปเฉยเลย จึงทำให้หนังกลายเป็นไม่ได้ใจเมื่อต้องการอะไรบางอย่างทางอารมณ์ที่กินใจกลายเป็นเผลอขำไปโดยไม่ตั้งใจเพราะเคยเห็นที่ดีกว่านี้ แต่ทั้งนี้หนังก็ยังมาพร้อมความบันเทิงเต็มขั้นเพราะชั้นเชิงและลูกเล่นยังเป็นของถนัดมือที่มาพร้อมงานด้านภาพที่สมจริงด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทำให้ดูเร้าใจขึ้นแต่ปัญหาคือคนดูไม่ตื่นใจเสียแล้ว ความเร้าใจที่ได้จึงเป็นความบันเทิงเต็มที่ที่มาตามเวลาของมันเป็นของมันต้องมีไม่ได้มีอะไรที่พลิกผันหรือกระตุกสมองเพราะอย่างที่บอกคืออย่าคิดตามมาพร้อมการแสดงที่คงไม่มีใครได้เครดิตเพิ่มเพราะเอาใครมาเล่นก็คงได้แถมบางคนไม่มีก็ไม่เป็นไร หนังมาพร้อมนักแสดงมากหน้าก็จริงแต่ด้วยบทที่เหมือนไม่มีทางไปจนเหมือนจับอะไรมายัดใส่เลยกลายเป็นนอกจากตัวละครหลักสามคนคือ Patrick Wilson , Halle Berry และ John Bradley แล้วดูเหมือนเป็นตัวละครที่จับมาใส่เพื่อให้มีเพราะเป็นของมันต้องมีเช่นตัวละครพ่อเลี้ยงของ Michael Peña ที่เหมือนจะมาเพื่อมีหัวใจแต่ที่มาที่ไปบกพร่องเลยกลายเป็นถ้าไม่มีเรื่องก็ไม่เสียหาย หรืออย่างตัวละครนักเรียนแลกเปลี่ยนชาวจีนของ Kelly Yu ที่ก็ชัดเกินไปที่จะเอาใจนายทุนชาวจีนเพราะแทบไม่มีอะไรช่วยให้หนังดูดีขึ้น ส่วนสามคนหลักข้างต้นก็แค่เอาตัวรอดได้เพราะเป็นตัวเดินเรืองหลักแต่ก็ได้แค่นั้นไม่ได้ทำให้เครดิตการรับงานนี้เป็นบวกขึ้นมา ซ้ำร้ายบทยังดูเหมือนทำร้าย John Bradley ที่เหมือนให้เขาเป็นตัวตลกและเมื่อถึงเวลาความฉลาดไม่ได้ช่วยอะไรแถมยังกลายเป็นส่วนเกินในภารกิจจรคิดว่าจะไปทำไมและไปเพื่อภารกิจสุดท้ายเท่านั้นหรือ จนสุดท้ายคนดูก็ยังสงสัยว่าตัวละครนี้มีมาเพื่ออะไรและเอาใครมาเล่นก็คงไม่ต่างกันจัดเป็นงานที่เอามันส์เอาความสนุกแบบฉาบฉวยได้ตามสูตรปานเทน้ำร้อนลงในชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปิดฝาสามนาที เพราะถ้าจะมาดูเอาความละเมียดหรือเอาทฤษฎีที่น่าเชื่อถือทั้งที่รู้ว่ามันไม่จริงอย่างงานชั้นดีเรื่องอื่นๆเรื่องนี้ไม่มี เรื่องนี้คือความบันเทิงเน้นๆแบบไม่ต้องคิดตามและต้องย้ำว่าห้ามคิดตามโดยเด็ดขาดเพราะถ้าคิดตามจะมาพร้อมคำถามมากมาย ด้วยความที่เริ่มต้นเป็นงานเอพิคหายนะโลกจากธรรมชาติแต่เมื่อพัฒนาไปเป็นเรื่องของผู้สร้างและเทคโนโลยีต่างดาวก็คือกระทืบความรู้สึกที่เคยได้มีจากหนังดีๆเรื่องก่อนๆลงจนสิ้น ก็ใช่ที่หนังอย่าง ID4 ก็เป็นเรื่องของมนุษย์ต่างดาวแต่เรื่องนั้นบทหนังทำให้คนดูเชื่อได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันดูน่าเชื่อถือและเจตนาตั้งต้นหนังไปทางนั้นและคนดูก็เห็นว่าไปทางนั้นเต็มที่ แต่ด้วยลายเซ็นของ Roland Emmerich ในช่วงหลังทำให้คนดูยังมีความหวังว่าจะเห็นอะไรแบบนั้นในหนังใหม่ซึ่งก็เห็นจริงๆแต่กลายเป็นหยิบเอาอะไรที่เคยได้ผลมาใส่เข้าไปโดยที่ร้อยเรียงเชื่อมโยงกันไม่ได้ทำให้คนดูดูด้วยความสนุกและบันเทิงได้จริง แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่านั้นไม่ต่างจากการกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่คงไม่ได้มีรสเลิศไปกว่ารสชาติที่คุ้นเคยและเมื่อกินบ่อยๆรสชาตินั้นก็ไม่มีผลอะไรแค่กินกันตายไปวันๆเท่านั้นดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7 จาก Instagram moonfallfilmถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ความเห็นหลังชม The Adam Project : ย้อนเวลาหาอดัม (2022) เพลิดเพลิน... ดั่งหยิบของเล่นต่างๆนาๆมาเล่นตามจินตนาการความเห็นหลังชม BLACK CRAB (2022) ความไม่รู้ทำให้เร้าใจ ความสงสัยทำให้น่าติดตามอย่างสนุกความเห็นหลังชม The Gray Man : ล่องหนฆ่า (2022) มันส์สถานเดียวไม่เกี่ยวกับใคร เพราะตั้งใจมาระเบิดเถิดเทิงรีวิว Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า(2022) โหด มันส์ ฮา สนุกสนานประมาณ "ยิ่งเกายิ่งมันส์ยิ่งคันยิ่งเกา" ใหม่ที่ TrueIDความเห็นหลังชม Warriors of Future นักรบแห่งอนาคต (2022) สนุกตื่นเต้นเร้าใจในความโบราณตามสูตรที่ได้พลังดาราพาไปจนแทบลืมหายใจความเห็นหลังชม Troll : โทรลล์ (2022) ไม่ใหม่แต่เร้าใจพอได้ สนุกแบบพอดี เพลิดเพลินแบบพอเพียงรีวิว Black Adam แบล็ก อดัม (2022) ความบันเทิงที่สัตย์ซื่อจัดจ้าน ที่ TrueIDคอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน