ผมเชื่อว่าสำหรับบางคนปีนี้อาจเป็นปีแห่งความสำเร็จ พบเจอแต่เรื่องดีๆ แต่สำหรับบางคนอาจเป็นปีที่แสนน่าเบื่อ เหน็ดเหนื่อย ยังไงเสียเดือนนี้ก็เป็นเดือนสุดท้ายของปีแล้ว ไม่ว่าคุณพบเจอเรื่องราวอะไรมาก็หวังว่าคุณจะผ่านมันไปได้ และเราจะก้าวผ่านสู่ปีใหม่ไปด้วยกัน ผมจึงขอถือโอกาสนี้ส่งมอบพลังบวกให้กับผู้อ่านทุกท่านด้วยหนังดีๆสร้างแรงบันดาลใจเพื่อเป็นการต้อนรับปีใหม่ นั่นคือเรื่อง The Secret Life of Walter Mitty นั่นเองที่มารูปจาก bangdoll บน flickr ภายใต้ CC BY-SA 2.0The Secret Life of Walter Mitty - ชีวิตพิศวงของวอลเตอร์ มิตตี้ประเภท : ดราม่านักแสดง : เบ็น สติลเลอร์ , คริสติน วิก, ฌอน เพนน์, อดัม สก๊อตต์ผู้กำกับ : เบ็น สติลเลอร์The Secret Life of Walter Mitty เล่าถึงชีวิตพนักงานห้องฟิล์มในบริษัทนิตยสาร Life ชื่อมิตตี้ (เบน สติลเลอร์) ที่ใช้ชีวิตในแต่ละวันอย่างจำเจ มิตตี้มีนิสัยชอบฝันกลางวันแบบหลุดโลก วันหนึ่งถึงคราวที่นิตยสาร Life จะต้องเปลี่ยนรูปแบบสู่ออนไลน์เต็มตัว มิตตี้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบรูปที่จะนำมาขึ้นปก Life ฉบับสุดท้าย มันเป็นรูปของช่างภาพฝีมือดีอย่างฌอน (ฌอน เพนน์) แต่ความซวยก็ได้มาเยื่อน เมื่อฟิล์มของรูปนั้นดันหายไป จึงนำมาสู่การออกเดินทางครั้งใหญ่ที่เปิดมุมมองชีวิตใหม่ๆให้มิตตี้ชายวัยกลางคนคนนี้ที่มารูปจาก bangdoll บน flickr ภายใต้ CC BY-SA 2.0ด้วยงานภาพ เพลงประกอบ รวมถึงเรื่องราวของตัวละครที่เข้ากับชีวิตพนักงานประจำในเมืองอย่างเราๆ คงไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะอินไปกับเนื้อเรื่อง ถ้าจะมองแบบลึกซึ้งถึงสารที่หนังแทรกมา ก็จะได้ข้อคิดดีๆในการใช้ชีวิตหรือการทำงาน อย่างตัวคำขวัญของนิตสาร Life ที่แทบจะยัดเยียดความหมายของชีวิตแบบไม่ต้องตีความอะไรทั้งนั้นให้เราแล้วหนึ่งในฉากที่ผมชอบคือฉากที่ตัวมิตตี้ตามร่องรอยของฟิล์มมาจนถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ก่อนที่จะต้องตัดสินใจว่าจะเดินทางออกไปตามรอยต่อไปในท้องทะเลกับนักบินเฮลิคอปเตอร์ขี้เมา มันอาจไม่ใช่ฉากใหญ่อะไรมากแต่มันกำลังบอกว่าบางทีเราก็ต้องกล้าเสี่ยงบ้างเพื่อจะได้พบเจออะไรใหม่ๆในชีวิตที่มารูปจาก bangdoll บน flickr ภายใต้ CC BY-SA 2.0สุดท้ายนี้ผมต้องขอเตือนไว้ก่อนว่าหลายคนอาจเคยไปอ่านบทความของ The Secret Life of Walter Mitty และพบว่าบทความนั้นได้บรรยายแนวทางของหนังว่าเป็นหนังดราม่า ตลก แฟนตาซี โรแมนติก แต่สำหรับผม The Secret Life of Walter Mitty มีความเป็นหนังดราม่าค่อนข้างมากครับ แต่มีรสตลก แฟนตาซี โรแมนติกมาเจือพอประมาณ จึงไม่อยากให้ไปตั้งความหวังว่ามันจะดูเพลินๆสบายๆ แต่ผมเชื่อเหลือเกินว่าถ้าคุณได้ดูแล้ว คุณจะอยากจัดกระเป๋าออกไปท่องเที่ยวตามตัวละครมิตตี้แน่นอน