เครดิตภาพ Netflixหนังเล่าต่อหลังจากที่ภาคแรกไมเคิล ลินคอร์นและคนอื่น ๆ หลบหนีได้จากคุก ฟ็อกซ์ ริเวอร์ได้สำเร็จ และได้มุ่งหน้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่งตามที่นักโทษอาวุโสได้บอกที่ซ่อนของเงินจำนวนมหาศาลไว้ เพื่อให้ไมเคิลและลินคอร์นใช้หลบหนีข้ามไปยังแถบอเมริกาใต้ แต่พวกเขาต้องพบอุปสรรคตลอดทางเพราะเจ้าหน้าที่ FBI มาโฮน (William Fichtner) ที่ฉลาดพอกับไมเคิลกำลังไขความลับแผนของไมเคิลและตามรอยทั้งคู่ต่อภาคนี้จะไม่มีการแหกคุกนะครับ เป็นพาร์ทของการหลบหนีมากกว่า เพราะว่าหลังจากออกจากคุกได้พวกเขาก็หนีกันหัวซุกหัวซุน แยกกันไปคนละทางกับพวกที่หลบหนีออกมาเพราะว่าอาจจะมีอันตรายหากยังรวมกลุ่มกันต่อ ในช่วงต้นของหนังจะเน้นไปที่การเดินทางไปยูทาห์เพื่อนำเงินออกมา แต่แผนนั้นถูกได้ยินโดยนักโทษคนอื่น ๆ ที่จะหนีออกมาด้วยทำให้เขาทั้งสองต้องถูกพวกนี้ขวางทางเพราะต้องการเงินเช่นกัน แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดของมาร์โฮน เขาไม่วิ่งเต้นไล่ล่าพวกไมเคิลแบบไร้จุดหมายปลายทาง เขาใช้บางอย่างเพื่อจี้จุดอ่อนลินคอร์นให้ออกมาแทนเครดิตภาพ Netflixภาคนี้หนังเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวนและการตามล่ากัน มันสมองของพระเอกมีประโยชน์อยู่บ้างแต่ลองย้อนกลับมาอ่านชื่อของเรื่องดี ๆ มันคือหนังแหกคุก มันไม่ใช่หนังตามล่า เลยต้องขอบอกตามตรงว่าภาคนี้ถูกเขียนบทขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ค่อนข้าง "ออกทะเล" ไปมากกว่าที่คิดเพราะพล็อตของซีรี่ส์คือแหกคุก แต่ซีรี่ส์เขียนบทไปเพื่อทำให้ตัวละครอื่น ๆ ได้มีบทบาทที่จะชักนำไปสู่SS ถัดไป จึงทำให้หนังพลิกมาเป็นการหลบหนีการตามล่ามากกว่า ต้องบอกว่าทั้งเรื่องเลยครับ หนังสอดปมไว้บ้างและช่วงแรกจะให้ความสำคัญไปกับเงินที่ยูทาห์ แต่หนังก็ตัดจบประเด็นนี้เอาดื้อ ๆ ด้วยการทำให้มันหล่นน้ำไปซะ (ตามหาตั้งนาน) และไปให้ความสนใจกับประเด็นอื่นต่อ การเดินเรื่องค่อนข้างช้าและขาดความน่าสนใจ ไม่รู้เป็นเพราะตัวเรื่องราวเอง หรือว่าเราต้องการเสพคำว่า “แหกคุก” กันแน่ แต่สิ่งที่ซ่อนไว้จริง ๆ ที่คนยังไม่เห็นประเด็นคือ เหตุผลที่ลินคอร์นติดคุก เลยต้องมีการแหกคุกเพื่อช่วยและมาหลบหนีทั้งตำรวจและพวกที่ใส่ร้ายลินคอร์น นี่คือปมที่หนังต้องการจะสื่อ เพราะฉะนั้นตัวละครที่น่าสนใจในSS 2 จะกลายเป็นFBI อย่างมาโฮนแทน เพราะพระเอกไม่มีน้ำยาด้านการต่อสู้ แถมยังมีการปลอมตัวด้วยการใส่หมวกแก๊ปกับชุดสูท มันจะไม่เด่นได้ไงละความไม่สมเหตุสมผลของหนังมีมากขึ้นเพื่อให้คนดูวิพาษ์วิจารณ์ไปได้เรื่อย ๆ เมื่อถึงกลางSS คนดูอาจจะลืมไปว่าตัวเองกำลังดูหนังแนวแหกคุกอยู่นะ เพราะกลางเรื่องหนังจะเริ่มเข้าที่เข้าทางบ้างละ แต่ที่จริงแล้วหนังต้องการจะค่อย ๆ เชื่อมโยงเรื่องราวไปยังต้นเหตุของการติดคุกของลินคอร์นนั่นเองตัวละครที่น่าสนใจอีกคนหนึ่งอย่างทีแบ๊ค หนึ่งในนักโทษที่หนีออกมาแต่ดันมีเหตุให้ต้องเสียมือไป บทบาทของเขาคือโรคจิตวิตถาร มองไม่ออกว่าดีหรือร้ายเพราะว่าหนังต้องการให้คนดูหาคำตอบไปพร้อมกับการติดตามหนัง กลายเป็นว่าบทบาทของทีแบ๊คกลับวางให้เด่นและน่าสนใจมากกว่าพระเอกอีก หรือต้องบอกว่า นอกจากทำผิดConcept ยังมีการวางตัวละครแบบแปลก ๆ อีกคะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังมีข้อเด่นคือวางตัวร้ายและบทบาทของตัวร้ายน่าสนใจมาก เพราะหนังทำให้คนดูคิดตามว่าตัวร้ายคิดจะทำอะไร มากกว่าไปคอยจับตาดูพระเอกที่มีแต่ความฉลาดแต่ขาดทักษะการต่อสู้ แผนที่วางมาก็พังหมด แต่นี่ก็แาจจะเป็นความท้าทายอีกอย่างกับการทำให้พระเอกจนมุมเครดิตภาพ Netflixข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. ทำตามแผนอย่างเคร่งครัด เมื่อออกมาจากคุกแล้ว ไมเคิลมีแผนเตรียมไว้ แต่ดันไม่ทำตามแผน เลยทำให้ทุกอย่างพังหมด แทนที่จะหนีตำรวจพ้นก็ต้องมาโดนตามแบบกระชั้นชิดจนเกือบจะไม่รอดอยู่หลายครั้ง2. ตีงูต้องตีให้หลังหัก ในช่วงก่อนที่จะแยกกัน ลินคอร์นและไมเคิลรู้อยู่แล้วว่าทีแบ๊คเป็นตัวอันตราย เขาสามารถกลับมาแว้งกัดทุกคนได้เพราะเขาไม่ไว้ใจใคร และภาคนี้ทีแบ๊คก็เป็นศัตรูที่ร้ายกาจเช่นกันใครที่ติดตามภาคแรกมาแล้วมาชมภาคสองก็จะเห็นว่าหนังออกทะเลไปไกลพอสมควร แต่ถ้าไม่ดูก็จะติดตามภาคต่อไปแบบไม่เข้าใจ ถ้าใครต้องการจะชมก็มีฉายทาง Netflix ใครมีกล่องTrue ก็สามารถชมได้ผ่านช่องทางกล่องเช่นกันครับเครดิตภาพปก Netflix