รีเซต

"พลอยชมพู" ปลุกพลังคนเป็นเหยื่อถูกตัดต่อภาพโป๊ ให้ลุกขึ้นสู้ ไม่ต้องอายเพราะไม่ได้ทำผิด!

"พลอยชมพู" ปลุกพลังคนเป็นเหยื่อถูกตัดต่อภาพโป๊ ให้ลุกขึ้นสู้ ไม่ต้องอายเพราะไม่ได้ทำผิด!
EntertainmentReport2
20 พฤษภาคม 2567 ( 10:45 )
304

เรียกได้ว่าจู่ ๆ งานก็เข้ามาทันที สำหรับนักร้องเสียงดี ”พลอยชมพู ญานนีน ภารวี ไวเกล“ หลังจากที่มีคนแอบอ้างชื่อเธอเป็นนักร้องสาวมีภาพหลุดจนเป็นประเด็นข่าวฉาว พร้อมกับทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์ ซึ่งงานนี้พลอยชมพูได้ออกมาโพสต์ชี้แจ้งเรื่องประเด็นดังกล่าวแล้ว ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น

"พลอยชมพู" ปลุกพลังคนเป็นเหยื่อถูกตัดต่อภาพโป๊ ให้ลุกขึ้นสู้ ไม่ต้องอายเพราะไม่ได้ทำผิด!

ล่าสุดสาวสวย พลอยชมพูได้มีการออกมาให้สัมภาษณ์กับทางช่องยูทูบ Dailynews LIVE-TH ในรายการ Daily POP LIVE ของเดลินิวส์เป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง โดยออกมาเล่าและชี้แจงกับเหตุการณ์ประเด็นดังกล่าว

ที่มาที่ไปของเรื่องราวเกิดขึ้นยังไง?
"จริง ๆ ก่อนที่หนูจะแถลงการณ์เมื่อหลายวันที่แล้วว่า ภาพหลุดที่แอบบ้าง มันไม่ใช่หนู คือมันมีแฟนคลับคนนึงเขา DM มาหาหนู หนูก็รู้สึกแปลกใจเพราะว่า ข้อความแรกที่เราเห็นเราเห็นว่า เขาบอกกับเราว่ามีภาพหลุดของเรา ด้วยความสงสัยเราก็เลยลองกดเข้าไปดู เขาส่งภาพมาให้ด้วย แต่เป็นภาพแบบที่เราสามารถดูได้ครั้งเดียว ด้วยความที่แบบลองเปิดดูเพราะว่าเราสงสัย แวบแรกที่หนูคิด หรือว่าเวลาเราไปทัวร์ตามต่างจังหวัดไปพักโรงแรมต่างถิ่น เราถูกแอบถ่ายโดยที่ไม่รู้ตัวหรือเปล่า เพราะว่าเรารู้ตัวดีว่าถ้าเราตั้งใจถ่าย เราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นเลยหรือแม่แต่เปิดกล้อง คือเรารู้ตัวเองดี เราก็เลยกดรูปไปดู แวบแรกรู้สึกแบบว่าใครว่ะ คือเราเห็นร่างกายสรีระของคนที่เขาส่งรูปมาให้แล้ว เราไม่คุ้น คือเรารู้ว่ามันไม่ใช่ร่างกายเรา เราก็รู้สึกว่ามันประหลาดใจ”

มันเป็นรูปเปลือย มันเห็นเลยหรอ?
“มันเป็นรูปเปลือย แต่ว่ามันเป็นรูปที่หนูเห็น อันนั้นมันไม่ได้มีรอยสัก หนูก็เลยงงว่าทำไม เขาคิดว่ามันเป็นหนู แต่ว่าด้วยความที่เรายังข้องใจในเรื่องของข้อความว่า ทำไมเขาคิดว่ามันเป็นเรา หนูก็เลยแคปแชทอันนั้นส่งไปให้พี่ที่รู้จักกัน พี่ที่สนิทกัน แล้วหนูก็แบบส่งไปเพราะความสงสัยของเราว่า ทำไมมีแฟนคลับมาส่งแบบนี้ แต่รูปที่เขาส่งมาให้มันก็ไม่ใช่เราก็แบบเป็นการบ่นๆกัน ปรึกษากันไปก่อน แต่ว่าพอตกเย็นวันนั้น พี่ที่หนูคุยด้วย เขาก็ส่งรูปแบบแคปกลุ่มเฟซบุ๊กมาให้เราดู ซึ่งมันเป็นโพสต์ที่มีคนอ้างว่า มีภาพหลุด วิดีโอหลุดของหนู ซึ่งตอนนั้นที่เห็นที่มันเป็นรูปแคปและมันเป็นรูปเดี่ยวเหมือนหันด้านข้าง แต่ว่ามันเซ็นเซอร์หมดคือเห็นแค่พุงกับแขน ซึ่งพอหนูเห็นปุ๊ป หนูยิ่งประหลาดใจ เพราะว่ารอยสักมันใช่ แต่ทำไมหุ่นมันไม่ใช่ หนูก้อแบบมองก็สงสัยว่า พุงเรามันป่องขนาดนั้นเลยหรอ แบบเรารู้สึกว่า เราก็มองตัวเองในกระจกทุกวันแต่ทำไมมันไม่เหมือนกัน แต่ว่ารอยสักมันใช่ หนูก็เลยแบบยิ่งรู้สึกสับสนเข้าไปใหญ่ แล้วคืนนั้นหนูก็ให้พี่คนเดิมช่วยสืบให้หน่อยว่า มันมีภาพในมุมอื่นด้วยไหม เพราะด้วยความที่ภาพอันนั้นมันเป็นภาพเซ็นเซอร์แล้วก็ยังดูไม่ค่อยออกว่ามันใช้เราหรือเปล่าและก็มันเป็นภาพที่ยืนหันข้างคือเห็นแค่รอยสักแวบๆ จนวันถัดมาตอนเช้า ถึงได้เห็นรูปเพิ่มเติมที่มันไม่ได้เซ็นเซอร์ มันก็ทำให้เรารู้สึกโล่งใจ คืออย่างแรก เรามองเรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ความจริง ไทม์ไลน์ระหว่างสัญลักษณ์ต่างๆ ตามร่างกายของเรา มันไม่ตรงกัน อย่างเช่น รอยสักอันนี้กับหน้าอก ไทม์ไลน์มันไม่ตรงกันกับความเป็นจริง เพราะภาพหลุดที่เขาอ้างมาคือรอยสักครบแล้วแต่ว่าไม่มีหน้าอกและก็ไม่มีแผลเป็นด้วย เพราะว่าหนูทำหน้าอกตั้งแต่ช่วงปีใหม่แต่ว่ารอยสักล่าสุดของหนูตรงนี้ (ต้นแขน) หนูเพิ่งสักมาได้ประมาณเดือนนึงเอง เพราะฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่จะมีรอยสักครบ“

พลอยชมพูก็เลยยิ่งมั่นใจว่าเป็นเรื่องโกหก ใช่ไหม?
"ใช่ค่ะ แล้วก็ด้วยเรื่องของสรีระก็ไม่ใช่ สีผมก็ไม่ใช่ ของในคลิปจะเป็นผมดำ ส่วนของหนูมันมีสีชมพูแซม ซึ่งเราถอดเองไม่ได้อยู่แล้วเพราะต่อผม"

เห็นว่าได้รู้เรื่องราวต้นตอแล้วว่ามาจากใครยังไง?
"จริง ๆ หนูก็พึ่งมาทราบเมื่อวานว่า ตอนนี้มีคนเจอคลิปต้อนตอแล้ว คือจริงๆมันเป็นคลิปของฝรั่งต่างชาติที่เขาทำอาชีพนี้ทำคลิปขาย แต่ว่าย่าจะเป็นคนไทยนี่แหละที่เอาคลิปอันนี้ ที่เหมือนว่าแคปรูปกลับด้านภาพแล้วก็เอารอยสักเราไปตัดต่อ แล้วก็อ้างว่ามันคือคลิปหลุดของเรา เพราะว่าตัวคลิปจริงๆที่มันเป็นร่างกายพร้อมรอยสักหนูมันไม่มี มันมีแค่ภาพ”

อย่างเคสนี้พลอยได้บทเรียนอย่างไรบ้างในการระวังตัวมากขึ้นไหมยังไง?
“จริงๆคือมันเป็นเรื่องที่แบบควบคุมไม่ได้ขนาดนั้น แต่อันนี้มันเป็นคนตัดต่อ หนูว่าบทเรียนมันไม่ได้มีอะไรมากสำหรับเคสนี้สำหรับหนู เพราว่าด้วยความที่เราถูกกระทำขากการที่แบบคนตัดต่อสุดท้ายหนูคิดว่า มันเป็นเรื่องของเทคโนโลยีที่มันน่ากลัว ที่คนจะพยายามแอบอ้างเอาชื่อเสียงของเราอัตลักษณ์ของเราไปหารายได้เข้าตัว โดยที่มาทำให้เราเสื่อมเสียชื่อเสียงด้วย หนูคิดว่าสิ่งนึงที่สามารถเรียนรู้ได้โดยทั่วๆไป ก่อนที่จะเชื่อข่าวอะไรเราควรที่จะอินเสิร์ทข้อมูลให้มันดีก่อนก่อนที่จะเชื่อมัน หรือว่าแบบไปหลงเชื่อคนอื่น กลับกลายเป็นว่าเราถูกหลอก ควรพิจารณาไตร่ตรองก่อนที่จะเชื่อ”

มีใครมาขอคำแนะนำไหม เพราะว่าบางคนที่เจอตัดต่อและเกิดความกลัว หลังถูกข่มขู่หรืออื่นๆพลอยอยากจะให้กำลังใจอะไรเขา?
“ก็ควรแจ้งความ และควรดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเลย เพราะว่าการที่ทำในเรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้ว ต่อให้แบบว่า เรายินยอมในการถ่ายอะไรแบบนั้น แต่ว่าเราไม่ได้ยินยอมที่จะปล่อยภาพ มันก็เป็นเรื่องที่ผิดแล้ว เพราะฉะนั้นอยากจะเป็นกำลังใจ อยากจะเชียร์ให้ไปแจ้งความ เอาให้สุดเลย ไปให้ถึงที่สุด เพราะว่าการที่เราจะปล่อยอะไรแบบนั้นลอยนวลไปมันกลายเป็นว่าคนที่ทำมันได้ใจด้วย มันจะรู้สึกแบบว่า การทำแบบนี้มันก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรนี่ ประมาณนี้ มันควรจะเป็นบทเรียนของคนที่ทำผิดด้วย และก็อยากให้แบบว่าคนที่เจออะไรแบบนี้อยากให้รวบรวมความกล้าในการที่จะต่อสู่กับมัน เพราะว่าคืออยากยั้งว่ามันไม่ใช่ความผิดของเรา มันคือร่างกายของเรา มนุษย์ทุกคนต้องแก้อยู่แล้วในที่ใดสักที่นึง คือมันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่อยากให้รู้สึกว่าอาย หนูเองก็เชื่อว่าในสังคมทุกวันนี้คนส่วนมากคือเห็นใจแล้วก็เข้าใจอยู่แล้ว ไม่ต้องไปกลัวว่า ใครจะมาล้อ ทุกคนเป็นมนุษย์ ทุกคนมีอารมณ์ต้องแบบว่าแก้ในที่ใดสักที่ อย่างที่บอก คือมันเป็นเรื่องของธรรมชาติความเป็นมนุษย์“

อยากให้พลอยขอบคุณกำลังใจ แน่นอนหลายๆคนไม่ได้เชื่อ แต่ทุกคนเป็นกำลังใจให้พลอยให้เรื่องนี้รวมถึงงานอื่นๆด้วย พลอยอยากจะบอกอะไรให้กับแฟนที่รักพลอย?
“ก็อยากจะขอบคุณแฟนๆทุกคนที่ให้กำลังใจเข้ามา โดยเฉพาะเรื่องนี้ที่พึ่งเป็นประเด็นไป คือขอบคุณที่เชื่อมั่นว่า มันไม่ใช่เราจริง ๆ เชื่อมั่นในคาเรกเตอร์ของเราที่เราไม่ทำอะไรแบบนั้น ขอบคุณที่เชื่อในคำพูดของเรา เพราะว่าตอนแรกเราก็แอบกังวลเหมือนกันว่า ถ้าเราแถลงมันจะมีคนที่แบบไม่เชื่อ ยังยืนยันว่าเป็นเราอยู่ไหมซึ่งมันก็มีแหละ แต่เรารู้ว่า คนเหล่านั้นไม่ใช่แฟนคลับของเรา เขาไม่ได้มาติดตามเราและซัพพอร์ตเราจริงๆ ก็อยากจะขอขอบคุณมากๆเลย ขอบคุสำหรับการซัพพอร์ตผลงานที่ผ่านๆมาด้วย รวมถึงผลงานที่จะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ด้วย ก็จะทำทุกๆผลงานให้เต็มที่ และก็หวังว่าจะชอบเพลงต่อๆไปกันด้วย”