Avatar:The Way of Water (2022) เรื่องที่เต็มไปด้วยการรีวิวเกี่ยวกับCGIว่าประทับใจและเป็นภาพยนตร์ที่ตราตรึงที่สุดในตอนนี้ แต่หนังเรื่องนี้ดีพอให้ความรู้สึกว่าทรงคุณค่าพอหรือยัง? ฉันคิดว่ามันยังไปได้ไม่ถึงขนาดนั้น ในเรื่องของความสวยงามของภาพในหนังเรื่องนี้ ฉันเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ ภาพที่ฉายให้เห็นแต่ละฉากในหนังเรื่องนี้ดึงดูดเราให้ดูจนจบได้เลยโดยไม่จำเป็นต้องมีบทพูดหรือเนื้อเรื่องใดๆ ด้วยซ้ำ ความสวยงามของทัศนียภาพ และการปูทางให้โลกที่กว้างขึ้นของแพนโดร่าทำให้เราเหมือนเป็นหนึ่งในชาวแพนโดร่าที่รังเกียจชาวโลกที่มาบุกรุก กลายเป็นหนึ่งในสิ่งล้ำค่าที่สุดของภาพยนตร์ ในบทความนี้ฉันจะพูดถึงส่วนประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ตัวหนังไม่สามารถเข้าถึงจุดที่เรียกว่าทรงคุณค่าได้อย่างน่าเสียดาย ฉันรู้ว่าหนังจะนำไปสู่ภาคต่ออีกหลายภาค แต่การบอกว่ามันจะมีภาคต่อไม่ได้หมายความว่าเราควรจะมองข้ามข้อบกพร่องของหนังเรื่องนี้ไปได้จริงไหม?เนื้อเรื่องการดำเนินเรื่องต่อจากหนังเรื่องAvatar (2009) ในภาคนี้หนังจะเล่าเรื่องราวต่อจากนั้นการกลายเป็นส่วนหนึ่งกับเผ่านาวีของเจค ซัลลี ที่กลายเป็นหัวหน้าเผ่าและร่วมใช้ชีวิตกับลูกสาวหัวหน้าเผ่าอย่างเนย์ทิริ ทั้งคู่ใช้ชีวิตต่อไปที่ดาวแพนโดร่า พร้อมทั้งสร้างครอบครัวและมีลูกอีกหลายคน และแล้วการโจมตีจากโลกก็ดำเนินขึ้นอีกครั้งนำให้เจคตัดสินใจอพยพครอบครัวมาสู่ดินแดนแห่งสายน้ำ… คำเตือนเนื้อหาต่อไปนี้มีการสปอย เข้าสู่จุดที่น่าเสียดายของหนังเรื่องนี้ 1.เป้าหมายของฝ่ายตัวร้ายที่ไม่ชัดเจนและไม่สมเหตุสมผล แม้ตัวหนังจะบอกเราตั้งแต่เริ่มแรกแล้วว่าเป้าหมายของฝ่ายมนุษย์โลกคือ ‘การยึดแพนดอร่าเพื่อใช้เป็นดาวดวงใหม่แทนดาวโลก’ เมื่อโลกมนุษย์ใกล้จะจบสิ้นเต็มที อย่างไรก็ตามการกระทำของตัวร้ายพันเอกไมล์ ควอริตช์กลับไม่ได้มีเป้าหมายแบบที่มนุษย์โลกตั้งเป้าไว้เลยแม้แต่น้อย เป้าหมายของพันเอกมีเพียงสิ่งเดียวคือ ‘การแก้แค้นพระเอก’ ถึงจะบอกว่าการยึดแพนดอร่าเอาไว้ภาคหน้าก็ได้ แต่มันก็ไม่สมเหตุสมผลอยู่ดี เพราะขณะที่โลกกำลังจะล่มสลาย กองทัพของโลกกลับใช้ทรัพยากรอันน้อยนิดไปกับการทำเรื่องไร้สาระโดยไม่ยั้งคิดสักนิด (ทหารในร่างชาวนาวีตายเป็นน้ำ ไม่นับอุปกรณ์ที่ใช้มหาศาล) และตัวหนังก็ไม่ได้บอกเราเช่นกันว่าทำไมเจคถึงมีความสำคัญ ขนาดจะต้องตามฆ่าเป็นอันดับแรกเมื่อมาถึงดาว ดังนั้นแทบไม่มีเหตุผลเลยว่าทำไมการตามล่าอดีตทหารที่ทรยศพวกเดียวกันถึงควรจะถูกให้ค่าขนาดนั้น2.ความทื่อและแบนของแต่ละตัวละคร การขยายมิติและความหลากหลายของผู้คนในเรื่องไม่สามารถลบความแบนของตัวละครไปได้ ตัวละครที่น่าดึงดูดและชาวติดตามที่สุดของเรื่องน่าจะเป็นพญาคาน สัตว์ทะเลนอกคอกในเรื่องที่น่าดึงดูด ตัวละครอื่นๆ ไม่ได้มีความน่าสนใจและบ่งบอกว่าพวกเขามีเหตุผลที่ดีที่ควรจะเป็นตัวเอกเลย แน่นอนว่าการทำให้ตัวเอกไม่โดดเด่นจนเกินไปเป็นเป้าหมายหลักของผู้สร้าง แต่ตัวละครหลักกลับทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดซะมากกว่าจืดจาง บทของตัวละครแต่ละตัวทื่อมาก เราสามารถเดาได้เลยว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อก่อนที่พวกเขาจะทำสิ่งสิ่งนั้นซะอีก และหลายครั้งมันทื่อจนรู้สึกว่าตัวเอกไม่ได้เรียนรู้อะไรจากสิ่งต่างๆ ที่ผ่านมาเลย 3.การเปลี่ยนแปลงของตัวละครที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลง ตัวละครที่เหมือนจะเป็นตัวหลักของเรื่องจริงๆ มีกันอยู่สองคนคือเจคตัวพระเอกและลูกชายคนรองของพระเอก แต่นอกจากคำพูดของพระเอกในตอนจบไม่ได้มีอะไรที่บ่งบอกว่าเขาเรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์ที่ผ่านมาทั้งหมดเลย ปัญหาหลักของตัวพระเอกที่เขาเผชิญมาตลอดทั้งเรื่องคือเขาเลือกที่จะหนีแทนที่จะสู้ และจะสู้ก็ต่อเมื่อเข้าตาจน ในฉากสุดท้ายเขาพูดกับเราคนดูว่าต่อจากนี้เขาจะไม่หนีอีกต่อไปแล้วก็จบ เช่นเดียวกับลูกชายที่เป็นคนมุทะลุและสร้างปัญหามาตลอดทั้งเรื่อง สิ่งที่เราต้องการให้เขาแก้ไขไม่ใช่ปมในใจการเป็นลูกคนรองแต่คือการเรียนรู้ว่าทุกการกระทำของเขามันจะสร้างผลลัพธ์ที่ตามมาเสมอ และแม้ว่าเขาจะทำให้พี่ชายตัวเองต้องตายแต่เขาก็ยังจะเลือกมุทะลุขัดคำสั่งพ่อต่อไปอยู่ดี หนังทำให้ฉันเชื่อไม่ได้ว่าพวกเขาได้เรียนรู้อะไรบ้างจากการกระทำของตัวเองแม้จะใช้เวลาเล่าถึง3ชั่วโมงด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ฉันจึงคิดว่ามันน่าเสียดายมาก เพราะด้วยองค์ประกอบส่วนดีของหนัง มันดีและเหนือกว่าหนังดีหลายๆ เรื่องที่เราเคยผ่านตาอีก แต่ข้อบกพร่องของหนังกลับฉุดความรู้สึกของเราลงไปอย่างน่าเสียดาย เมื่อดูจบฉันไม่สามารถพูดได้ว่าหนังเรื่องนี้ทรงคุณค่า/เป็นหนังแห่งยุค/ต้องดูก่อนตาย อย่างไรก็ตามฉันยังคิดว่าการไปดูอวตาร2ในโรงภาพยนตร์ยังเป็นสิ่งที่แนะนำ อวตารในภาคนี้ยังคงเปี่ยมไปด้วยองค์ประกอบที่เปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในการชมภาพยนตร์ ฉากแอกชั่นหนังทำได้ดี เรารู้สึกสนุกและมันไปกับทั้งฉากต่อสู้ ไล่ล่าอันเต็มเปี่ยมท่ามกลางมหาสมุทร และในขณะที่ดูเราจะเชื่อได้อย่างสนิทใจว่าแพนดอร่าคือโลกที่สวยงามราวกับอยู่ในความฝันและเหมือนความจริงอย่างน่าตกใจ ท้ายที่สุดนัยยะของหนังเรื่องนี้ หนังบอกกับเราอย่างเป็นนัยตลอดทั้งเรื่องว่าถึงคุณค่าและความสวยงามของธรรมชาติ มนุษย์นี่และคือสิ่งที่เป็นภัยและอันตรายที่สุดต่อธรรมชาติ อ้างอิงภาพภาพปก Avatar จาก Dylan Cole Artภาพ1 Avatar จาก Avatarภาพ2 Avatar จาก Dylan Cole Art ภาพ3 Avatar จาก Avatarภาพ4 Avatar จาก Avatar จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !