บ็อกซ์ออฟฟิศเมืองจีน ตกอยู่ในสภาวะซบเซา New Normal คนดูหาย-หนังไม่ทำเงิน
ข่าวสารวงการหนัง
ถือว่าย่างเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2 ของการกลับมาเปิดให้บริการของโรงหนังและกลับมาเดินหน้าของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเมืองจีนแผ่นดินใหญ่ ที่ปรากฏว่าสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้วงการหนังในภูมิภาคนี้ได้รับผลกระทบหนักกว่าที่คาดคิดเอาไว้ เนื่องจากคนดูยังคงไม่มั่นใจในการกลับมาที่โรงหนังอีกครั้ง เห็นได้ชัดจากตัวเลขรายได้บนบ็อกซ์ออฟฟิศเมืองจีนสัปดาห์นี้ แทบไม่มีหนังเรื่องไหนทำเงินได้เปรี้ยงปร้างเลย
เว็บไซต์ Variety เปิดเผยว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีโรงหนังทั่วเมืองจีนกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ประมาณ 65 เปอร์เซ็นต์จากทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นมาจากสัปดาห์ที่แล้วกว่า 2,000 แห่ง แต่ปรากฏว่าก็ยังเรียกความเชื่อมั่นของคนดูหนังให้กลับมาตีตั๋วอีกครั้งไม่ได้ เพราะโควิด-19 ได้ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง โดยกว่าครึ่งปีที่ผ่านมา การดูหนังผ่านระบบสตรีมมิ่งออนไลน์ของจีนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนที่นี่ไปเสียแล้ว
เหตุทำให้บ็อกซ์ออฟฟิศรายได้หนังทำเงินในสัปดาห์ที่ 2 ของการกลับมาเปิดให้บริการโรงหนังอีกครั้งอย่างเป็นทางการ หนังหลายๆ เรื่องต่างทำเงินได้ไปเพียงน้อยนิด โดยแชมป์สัปดาห์นี้กลายเป็นหนังท้องถิ่นของจีน "Enigma of Arrival" เป็นหนังดองค้างฉาย เดิมทีมีกำหนดจะฉายตั้งแต่ช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ที่ผ่านมา หนังเปิดตัวไปได้ 3.34 ล้านเหรียญ นับว่าเป็นรายได้หนังที่สูงที่สุดเพียงพอที่จะเป็นแชมป์บ็อกซ์ออฟฟิศที่จีนได้
ขณะที่แชมป์เรื่องเก่า "Dolittle" ก็ตกอันดับลงมาตามธรรมเนียม ทำเงินไปได้อีก 3.06 ล้านเหรียญ ตามมาด้วย "Interstellar" ที่นำกลับมาเข้าโรงฉายใหม่อีกครั้ง แม้ว่าตัวหนังจะมีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ก็ยังทำเงินได้ดีกว่าที่คิดไปได้ 2.84 ล้านเหรียญ หนังจีนที่ถ่ายทำในเมืองไทย "Shepherd Without a Shepherd" เก็บเงินไปอีก 2.2 ล้านเหรียญ
ขณะที่หนังแอนิเมชั่นท้องถิ่น "Mr. Miao" เปิดตัวเบาๆ ได้ที่ 1.42 ล้านเหรียญ ทางด้านหนังแฟนตาซีผจญภัย "Sonic the Hedgehog" เพิ่งเปิดตัวฉายในเมืองจีน และก็ทำเงินได้น่าผิดหวังเป็นอย่างมาก เพราะสัปดาห์แรกกวาดเงินไปน้อยนิดแค่ 1.27 ล้านเหรียญ เท่านั้นเอง
ในรายงานยังระบุอีกว่า ภาพรวมของบ็อกซ์ออฟฟิศเมืองจีนในสัปดาห์นี้ ทำเงินรวมทั้งหมดไปได้แค่เพียง 17.6 ล้านเหรียญ ทั่วประเทศ นับว่าเป็นบรรยากาศที่ค่อนข้างซบเซาอย่างหนัก ในขณะที่บ็อกซ์ออฟฟิศของจีนในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อปี 2019 นั้น เคยทำเงินรวมได้สูงถึง 204 ล้านเหรียญ เท่ากับว่าทำรายได้ลดฮวบลงมาเกือบ -92 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์ต่อจากนี้ โปรแกรมฉายหนังของเมืองจีนยังคงเป็นหนังค้างฉายจากช่วงต้นปี ทยอยๆ ลงโรงเข้าฉายอย่างต่อเนื่อง แต่ในช่วงท้ายเดือนสิงหาคมไปจนถึงปลายปีนี้ ก็เริ่มมีหนังฮอลลิวูดและหนังฟอร์มใหญ่ฟอร์มดีจากแผ่นดินใหญ่เล็งลงคิววันเข้าฉายกันบ้างแล้ว ต้องติดตามกันต่อไปว่าความซบเซาที่เกิดขึ้นกับวงการหนังเมืองจีน หลังผ่านวิกฤตโควิด-19 มาได้นัก จะยังคงเงียบเหงาแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน
----------------------------------------------------