เรียกว่าวนมาอีกหนึ่งปีแล้ว สำหรับเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นเดือน Pride Month 🏳️🌈 เดือนสำคัญของชาว LGBTQ+ ซึ่งทางเราก็ไม่พลาดที่จะพาเพื่อน ๆ มาเฉลิมฉลองเดือนนี้กันผ่านสื่ออย่าง ภาพยนตร์และซีรีส์แนว LGBTQ+ 7เรื่องด้วยกัน! เพื่อเป็นการนำเสนอความรักที่หลากหลายและไม่จำกัดของเพศ ผ่านทาง ‘10 หนังและซีรีส์ LGBTQ+ ฉลองเดือน Pride Month’ หากพร้อมแล้วนั้นก็ตามมาจด List รับชมกันแบบยาว ๆ ได้เลยค่า 1. Moonlight (2016) มาเริ่มกันที่ซีรีส์ LGBTQ+ เรื่องแรกที่ทางเรายกให้เป็น The Best และ Recommend ตลอดกาลนั่นก็คือ “Moonlight” ซึ่งเป็นภาพยนตร์ LGBTQ+ คุณภาพการันตีโดยการชิงรางวัลออสการ์มาแล้วมากมาย โดยMoonlight เป็นหนังแนวดราม่าน้ำดีที่เรียกว่าน่าสนใจและสะกดสายตาเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในหนังยังไงยังงั้น เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นจาก ไชรอน เด็กชายผิวสีคนหนึ่ง ที่เติบโตมาในย่ายที่ยากจนของไมอามี่ ที่หนังจะถ่ายทอด 3 ช่วงชีวิตของเขา ตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น และผู้ใหญ่ โดยหนังจะแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมานั้นเขาจะต้องเจออะไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเหยียดเชื้อชาติ และปัญหาที่เกิดจากการเขาเป็น LGBTQ+ Moonlight | Official Trailer HD | A24https://youtu.be/9NJj12tJzqc โดยในเรื่อง Moonlight เป็นหนัง LGBTQ+ ที่คุณภาพมาก ๆ มีการถ่ายทอดความรู้สึกที่อยู่ภายในลึก ๆ ของLGBTQ+ ออกมาให้ได้เห็น ผ่านทางเด็กชายที่ชื่อ ไชรอน ทั้ง 3 ช่วงชีวิตที่แสดงด้วย 3 นักแสดงที่มีคาแรคเตอร์โดดเด่นมาก ซึ่งต้องบอกเลยว่าภาพยนตร์เรื่อง Moonlight นั้นไม่ได้แค่เสนอเพียงปัญหาใดปัญหาเดียวเท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำให้เราเห็นหลากหลายด้านของปัญหาที่ไม่ว่าใครก็อาจจะพบเจอได้ รวมถึงบางฉากก็ยังให้คนดูนั้นได้คิดตามอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการโดนเหยียดสีผิว เพศสภาพ หรือสภาพแวดล้อมภายนอกที่โหดร้ายที่ไชรอนได้พบเจอทำให้ส่งผลถึงคุณภาพชีวิตที่ไม่ดีตามมา ซึ่งสิ่งนี้เองทำให้เราได้เรียนรู้ไปพร้อมกับหนัง แม้ว่าตัวหนังจะมีพล็อตเรื่องแบบไม่หวือหวาและแอบเดาได้อยู่ แต่ด้วยตัวนักแสดงและการดำเนินเรื่องนั้นเอาอยู่ ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจขึ้นมากอีกเท่าตัวเลย ครบรสชาติมากจริง ๆ โดยเพื่อน ๆ จะได้ทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะไปแบบเต็มเปี่ยม ดังนั้นภาพยนตร์เรื่องMoonlight เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ LGBTQ+ น้ำดีขึ้นหิ้งอีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาดเลยค่ะ คะแนน : 10/10 2. Love, Simon อีเมลลับฉบับ, ไซมอน (2018) ต่อกันที่ภาพยนตร์แนว LGBTQ+ เรื่องต่อมากันเลยค่ะ โดยเรื่องนั้นก็คือ “Love, Simon” หรือในชื่อภาษาไทยน่ารัก ๆอย่าง อีเมลลับฉบับ, ไซมอน หนังแนว Coming of age รอมคอม หนังเก่าปี 2018 นั่นเอง ซึ่งถูกดัดแปลงมาจากนิยายBest seller ชื่อว่า Simon vs. the Homo Sapiens Agenda โดยเป็นเรื่องราวที่บอกเล่าเกี่ยวกับ ไซม่อน เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่ง ซึ่งชีวิตของเขาก็ปกติทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพื่อนหรือไม่ก็ครอบครัว แต่มีบางอย่างที่เขาเก็บซ่อนไว้ก็คือแท้จริงแล้วเขาเป็นเกย์ วันหนึ่งเขาได้เจอกับ บลู หนุ่มปริศานาในโรงเรียนเดียวกันกับเขาที่เป็นเกย์เหมือนกับเขา เขาจีงได้ส่งอีเมลล์ไปหาบลู และทั้งสองก็ได้แลกเปลี่ยนพูดคุยกันจนก่อเกิดเป็นความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้แก่กันLove, Simon | Official Trailer [HD] | 20th Century FOXhttps://youtu.be/ykHeGtN4m94 ซึ่งเนื้อหาและพล็อตเรื่องของ Love, Simon ต้องบอกเลยว่าเพื่อน ๆ ที่เป็น LGBTQ+ หลายคนจะต้องเคยประสบพบเจอกันอย่างแน่นอน นั้นก็คือการที่ไม่กล้าเปิดเผยและพูดถึงการเป็น LGBTQ+ ทั้งกับเพื่อนหรือแม้กระทั่งครอบครัว รวมถึงหนังก็จะสอดแทรกเหล่าปัญหาที่วัยรุ่นมักจะพบเจอนอกเหนือจากเรื่องราวของ LGBTQ+ รวมถึงวิธีการในการแก้ปัญหานั้น ๆ แบบเนียน ๆ ไม่ว่าจะเป็น การบูลลี่กันในโรงเรียน การไม่เข้าใจทั้งกับคนอื่นและตัวเอง รววถึงเรื่องของความรัก ซึ่งต้องบอกเลยว่าเป็นปัญหาที่ใครที่เข้าสู่ช่วงวัยรุ่นจะต้องเคยพบเจอกันอย่างแน่นอน โดยหนังจะมีโมเมนต์ฉากตลกทำให้คนดูหัวเราะและอมยิ้มได้แบบไม่มีเบื่อ ส่วนฉากเลิฟซีนก็มีแต่จะมาแบบไม่หวือหวามากนัก แต่เพียงพอให้เพื่อน ๆ ได้ชุ่มชื่นชุ่มช่ำหัวใจแบบกุ๊กกิ๊กอย่างแน่นอน เรียกว่าหนังเรื่อง Love, Simon เป็นอีกหนังอีกหนึ่งเรื่องเบสิคแต่ฟีลกู๊ดหนึ่งในดวงใจของใครหลาย ๆคน ที่เราอยากจะแนะนำเพื่อน ๆ เพื่อต้อนรับในเดือน Pride Month นี้เลยละค่ะ💌คะแนน : 10/103. Orange Is the New Black (2013-2019) มาต่อกันที่ซีรีส์ LGBTQ+ แนวเลสเบี้ยนเรื่องต่อมากันเลยค่ะ นั่นก็คือเรื่อง “Orange Is the New Black” ซึ่งเป็นซีรีส์ออริจินัล สร้างจากทาง Netflix โดยจริง ๆ แล้ว Based on true story จากชีวิตจริงในเรือนจำของผู้เขียนหนังสือOrange Is the New Black: My Year in a Women’s Prison Piper Kerman ที่เธอได้เคยมีประสบการณ์ในการติดคุก 1 ปีด้วยกัน Orange is the new black นั่นบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ ไพเพอร์ แชแแมน ซึ่งเธอถูกจองจำในเรือนจำ ลิทซ์ฟิล เป็นเวลาทั้งหมด 1 ปีกว่า ๆ ด้วยข้อหาในอดีตกับอดีตคนรักเก่าเลสเบี้ยน อย่าง อเล็กซ์ วอซ ที่เธอนั้นเหม็นขี้หน้าและไม่ชอบอย่างแรง แต่ความพิเศษคือเรื่องราวต่าง ๆ ที่เธอได้พบเจอที่เรือนจำในแต่ละวันที่บอกเลยว่าไม่มีความจำเจอและมีอะไรแปลกใหม่ให้เจออยู่เสมอ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นทำให้น่าติดตามเลยละค่ะOrange Is The New Black - Season 1 - Official Trailer [HD]https://youtu.be/vY0qzXi5oJg ในเรื่อง Orange Is the New Black ที่พาคนดูไปรับชมชีวิตก่อนและหลังเรือนจำของเหล่านักโทษหญิงแต่ละคน ซึ่งผ่านเรื่องราวของ ไพเพอร์ แชแแมน ตัวเอกของเรื่อง ทำให้คนดูรู้สึกเรียนรู้และผูกพันไปกับตัวละครแบบกลาย ๆ โดยความโดดเด่นของเรื่องราวคือความเข้มข้นของเนื้อหา รวมถึงประเด็นที่สอดแทรกต่าง ๆ ในแต่ละ Ep ของซีรีส์ และหลัก ๆ จะเห็นประเด็นของ LQBTG+ รวมถึงประเด็นเรื่องของการเหยียดผิวและความเหลื่อมล้ำ การกดขี่ที่ซีรีส์นำเสนอ ซึ่งบอกเลยว่าเข้มข้นถึงใจมากจริง ๆ ส่วนตัวชอบการวางพล็อตและ Timeline ทำให้ซีรีส์สนุกและดูเพลินจนหยุดไม่อยู่จริง ๆ ค่ะ โดยหากเพื่อน ๆ คนไหนชื่นชอบก็สามารถดูย้อนหลังได้แบบยาว ๆ 7 Season ได้ทาง Netflix เลยค่า~ คะแนน : 10/10 4. Call Me By Your Name (2017) มาถึงหนังแนว LGBTQ+ เรื่องต่อมา เรียกว่าเป็นเรื่องอะไรไปไม่ได้เลยนอกซะจากเรื่อง “Call Me By Your Name” ในปี 2017 นั่นเองละค่ะ โดยเป็นหนังแนว Coming of Age ที่ต้องบอกเลยว่าดีงามไม่ไหว ถูกดัดแปลงมาจากนวนิยายในชื่อ Call Me By Your Name ซึ่งเป็นชื่อเดียวกัน เป็นการบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคนสองคนอย่าง เด็กหนุ่มหล่อวัย 17 เชื้อสายอเมริกันอิตาเลียน-ยิว คาแรคเตอร์โดดเด่นอย่าง เอลิโอ ที่เขานั้นได้บังเอิญพบกับโอลิเวอร์ ซึ่งเป็นนักศึกษาชาวอเมริกันวัย 24 ปี ขณะมาช่วยงานคุณพ่อของเขาCall Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)https://youtu.be/Z9AYPxH5NTM ความน่าสนใจของเรื่อง Call Me By Your Name ก็คือ หนังจะทำให้เราร่วมค้นหาและมีอารมณ์ตัวเองไปพร้อม ๆ กับตัวละครเอลิโอ ว่าจริง ๆ แล้วนั้นความรู้สึกหรือตัวตนของเขาคืออะไรกันแน่ รวมถึงที่ส่วนตัวเราชอบมาก ๆ เลยก็คือบทสนทนาที่ทั้งสองมีการพูดคุยกัน รวมถึงท่าทางที่สื่อออกมาเป็นภาษากายโดยไร้คำพูดแต่มีความลึกซึ้งในตัวเองและนอกเหนือจากนี้แล้วในตัวของนักแสดง อย่าง ทิโมธี ชาลาเมต์ และ อาร์มี แฮมเมอร์ ก็แสดงออกมาได้ดีคาแรคเตอร์โดดเด่น แถมเคมีเข้ากันมาก ๆ , ภาพแสงสีในเรื่องสวย มู้ดดี ดูแล้วเพลิดเพลินได้แบบไม่ยาก และเพลงต่าง ๆ OST. อย่าง Mystery of Love และ Visions of Gideon ก็เพราะและเข้ากับเนื้อเรื่องมาก ๆ ต้องบอกเลยว่าCall Me By Your Name เป็นหนัง LGBTQ+ อีกหนึ่งเรื่องที่ควรค่าแก่การดูมากจริง ๆ ค่ะ ^^คะแนน : 8/105. Sex Education (2019-2021) ซีรีส์เรื่องต่อมาที่ต้องบอกเลยว่าเพื่อน ๆ จะต้องเคยรับชมกันอย่างแน่นอน นั่นคือซีรีส์แนวคอมเมดี้ ดราม่าที่มีชื่อว่า “Sex Education” ที่ฉายทาง Netflix นั่นเองละค่ะ โดยเป็นเรื่องราวของเพศและยังมีการนำเสนอเรื่องของLGBTQ+ ได้แบบชัดเจนซึ่งเรื่องราวบอกเล่าเกี่ยวกับโอทิส เขาเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่นที่บังเอิญได้ไปให้คำปรึกษาในเรื่องของเพศกับเพื่อนในโรงเรียน จนกลายมาเปิดคลินิคให้คำปรึกษาเรื่องเพศแบบจริง ๆ จัง ซึ่งการที่เขารู้เรื่องเพศชนิดที่ว่ารู้ลึกรู้จริงนั้นได้มาจาก แม่ของเขาที่เป็นนักบำบัดทางเพศ และจากจุดนี้เองทำให้โอทิสได้ตั้งคลินิคแบบลับ ๆ กับเมฟ เพื่อนสาวของเขาSex Education Season 1 Trailer | Rotten Tomatoes TVhttps://youtu.be/Hd2ldTR-WpI โดยในเรื่อง Sex Education โต้ง ๆ เลยก็คือการวิชาการศึกษาเรื่องของเพศ ซึ่งหนังก็จะมีการสอนเรื่องของเพศสัมพันธ์ของเหล่าวัยรุ่นที่ในแต่ละคนหรือแต่ละคู่นั้นล้วนแล้วแต่มีปัญหาที่พบเจอนั้นแตกต่างกันออกไป ซีรีส์ก็จะคอยสอดแทรกเนื้อหาทั้งเรื่องกายภาพและ mentally ใส่ลงไป ทำให้เราเข้าใจได้แบบไม่ยากและไม่น่าเบื่อ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็จะมีพาร์ทของ LGBTQ+ แยกมาแบบชัดเจนทั้งคู่ของ เอริก เอฟฟิออง วัยรุ่นหนุ่มผิวสีเพื่อนของโอทิสที่เขาไม่เคยปิดบังเรื่องเพศสภาพของตัวเองเลย มีความกล้าเปิดเผย ยอมรับในตัวเอง เขารักการที่ได้เป็นตัวของตัวเองเอามาก ๆแถมยังทำให้คนรอบข้างรักตัวตนของเขาอีกด้วย แต่จะผิดกับ อดัม กรอฟฟ์ แฟนหนุ่มของเอริกที่ในตอนแรกเขาไม่ยอมรับว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นเกย์ แต่ภายหลังนั้นเขาก็เริ่มเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้นว่าจริง ๆ แล้วสิ่งที่เขาต้องการคืออะไร รวมถึงตัวตนภายในของเขาคืออะไร และกล้าที่จะเปิดเผยตัวเองมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เรียกว่าเป็นหนึ่งตัวละครที่เราจะเห็นการพัฒนาที่ชัดเจนเหมือนกับว่าได้เติบโตไปด้วยกันเลยละค่ะ คะแนน : 10/106. Ride or Die อยู่เป็น ยอมตาย เพื่อเธอ (2021) มาต่อกันที่หนัง LGBTQ+ แนวเลสเบี้ยนเรื่องต่อมา นั่นก็คือ “Ride or Die” หรือในชื่อภาษาไทยอย่างอยู่เป็น ยอมตาย เพื่อเธอ เป็นภาพยนตร์สัญชาติญี่ปุ่นที่ออกฉายทาง Netflix ในช่วงเดือนเมษายนปีก่อน โดย Ride or Die นั้นได้สร้างจากการ์ตูนเรื่อง Gunjo ของชิงนากามูระ ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความรัก ความสัมพันธ์ และความผูกพันของผู้หญิงสองคน นั่นก็คือ เรอินากาซาวะ เป็นเลสเบี้ยนที่เธอได้แอบรักนาเนะชิโนดะ เพื่อนร่วมชั้นเรียนมัธยมของเธอ โดยนาเนะชิโนดะนั้นถูกสามีทำร้ายอย่าทารุณอยู่เสมอ เรอิเลยตัดสินใจและลงมือฆาตกรรม สามีของนาเนะ เพื่อให้เธอและนาเนะได้อยู่ด้วยกันและอยากให้นาเนะมีความสุข เรื่องราวความรักและโศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ก็ต้องไปติดตามรับชมกันค่ะRide or Die | Teaser Trailer | Netflixhttps://youtu.be/__cP41-hdwk เรียกว่าหนังเรื่อง Ride or Die เป็นหนังแนวเลสเบี้ยนอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องบอกเลยว่าพล็อตดี สนุกครบรสชาติมาก ๆทำให้คนดูได้เห็นความรักที่สวยงาม รวมถึงเบื้องหลังที่แสนน่ากลัวของมัน ที่สามารถทำลายได้ทุกอย่าง อีกทังนักแสดงสาวทั้งสองอย่าง มิสุฮาระ คิโกะ และ โฮนามิ ซาโตะ ก็เรียกว่าแบกเรื่องราวของหนังได้ดี แสดงได้สมจริง เคมีโดน ยิ่งในฉากเลิฟซีนด้วยแล้ว สามารถดึงอารมณ์และฟีลลิ่งออกมาได้อย่างเต็มที่สุด ๆ ทำเอาตอนที่ดูนั้นรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจได้อย่างน่าประหลาดใจ และหากพูดถึงหนังหรือซีรีส์สัญชาติญี่ปุ่นด้วยแล้ว ต้องบอกเลยว่าทั้งฉาก ซีน ภาพแสงสีต่าง ๆ บรรยากาศของญี่ปุ่น คือดีมาก มีความเรียลสมจริง ดิบ ๆ ไม่มีการเซนเซอร์ใด ๆ ทำให้ตอนได้ดูนั้นเปี่ยมไปด้วยอรรถรส☺️ จัดว่า Ride or Die เป็นหนังเลสเบี้ยนอีกหนึ่งเรื่องที่ห้ามพลาดจริง ๆ ค่ะ คะแนน : 7/10 7. Heartstopper เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น (2022) มาปิดท้ายกันกับซีรีส์แนวบอยเลิฟฟีลกู๊ดใจฟูอย่างเรื่อง “Heartstopper เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น” จากทาง Netflix ที่ต้องบอกเลยว่ากระแสดีน่ารักหนุบหนับหัวใจในทุกจังหวะเลยทีเดียว โดยเรื่องราวบอกเล่าเกี่ยวกับ ชาร์ลี นักเรียนมัธยมปลายที่เจ้าตัวนั้นรู้ตัวเองว่าเป็น LGBTQ+ และเปิดเผยตัวตนอย่างเต็มที่ ทำให้เขามักจะโดยเพื่อน ๆ บูลลี่และล้อเขาอยู่เสมอ แต่ชาร์ลีก็ยังมีเพื่อน ๆ ที่คอย Cheer up และเป็นกำลังใจให้กับเขาเสมอ อีกทั้งชาร์ลียังแอบคบกับเพื่อนในโรงเรียนอีกด้วย แต่แล้วก็ไปกันไม่รอด จนเขาก็หมดหวังในเรื่องของความรัก จนกระทั่งเมื่อเปิดเทอมมาถึงในคาบคณิตศาสตร์ ทำให้เขาได้เจอกับ นิค หนุ่มหล่อดีกรีนักกีฬารักบี้ของโรงเรียนหรือฉายาที่ขาร์ลีเรียกคือ พ่อหนุ่มโกเด้นท์🦮 ซึ่งพวกเขาก็ได้เป็นเพื่อนกัน คอยช่วยเหลือเติบโตไปด้วยกัน จากจุดนี้เองทำให้มิตรภาพของพวกเขาแปรเปลี่ยนเป็นความรักและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในที่สุดHeartstopper | Official Teaser | Netflixhttps://youtu.be/gHALOizCpf0 Heartstopper เธอทำให้ใจฉันหยุดเต้น ถือเป็นหนังแนว LGBTQ+ อีกหนึ่งเรื่องในดวงใจของใครหลาย ๆ คน รวมถึงตัวเราด้วย ซึ่งแม้ว่าพล็อตเรื่องและการดำเนินเรื่องอาจจะไม่มีความแปลกใหม่อะไร แต่ค่อนข้างแปลกใหม่ในวงการฮอลลีวูดอยู่พอสมควรเลย เพราะเราจะเห็นหนังแนว LGBTQ+ น้อยมาก ๆ โดย Heartstopper บอกเล่าเรื่องรางของความสัมพันธ์ของสองหนุ่มที่ต่างฝ่ายต่างรู้สึกดี ๆ ให้แก่กัน ซึ่งมันก็ไม่ง่ายอย่างที่คิดเพราะก่อนหน้านี้ นิค ก็ค่อนข้างสับสนในตัวเองอยู่ไม่ใช่น้อย เขาจึงค้นหาตัวตนว่าจริง ๆ แล้วความรู้สึกของเขามันคืออะไร อีกทั้งในเรื่องก็ยังสอดแทรกหลาหหลายประเด็นทางสังคมที่เราอาจจะพบเจอกันได้บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบูลลี่ การเหยียดสีผิวและเชื้อชาติ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ซึ่งบอกเลยว่าครบจบมาก! มู้ดโทนของเรื่องดี ดูเพลิน และใด ๆ ก็คือนักแสดงนำอย่าง คิท คอนเนอร์ และ โจ ล็อก หนุ่มหล่อน้องใหม่ของวงการ ที่ทั้งสองมีเคมีที่ฟุ้งกระจายไม่ไหว บอกคำเดียวเลยว่าควรค่าแก่การดูมาก!💓คะแนน : 10/10 เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ 7 หนังและซีรีส์ LGBTQ+ ฉลองเดือน Pride Month 🏳️🌈 บอกเลยว่าเป็น 7 เรื่องทั้งภาพยนตร์และซีรีส์แนว LGBTQ+ ที่ส่วนตัวเราชอบมาก ๆ เพราะนอกจากความสนุกสนานเพลิดเพลินที่ได้รับจากในหนังแล้วนั้นก็ยังได้เห็นแนวคิดและบริบทต่าง ๆ ในเรื่องของความหลากหลายทางเพศอีกด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่ It means a lot มากค่ะ สุดท้ายนี้ก็ขอ Happy Pride Month🌈 นะคะ #LGBTQ #PrideMonthเครดิตภาพหน้าปกโดย@sexeducation : ภาพหน้าปก1 @heartstoppertv : ภาพหน้าปก2 Love, Simon : ภาพหน้าปก3@cmbynfilm : ภาพหน้าปก4 @honami__s : ภาพหน้าปก5 / Orange Is the New Black : ภาพหน้าปก6เครดิตภาพประกอบบทความโดยNetflix : ภาพที่1 Love, Simon : ภาพที่2 Orange Is the New Black : ภาพที่3 @cmbynfilm : ภาพที่4 @sexeducation : ภาพที่5 @honami__s : ภาพที่6 @heartstoppertv : ภาพที่7 เครดิตวิดีโอประกอบบทความโดยA24: Moonlight | Official Trailer HD | A2420th Century Studios : Love, Simon | Official Trailer [HD] | 20th Century FOXNetflix Nederland & België : Orange Is The New Black - Season 1 - Official Trailer [HD]Sony Pictures Classics : Call Me By Your Name | Official Trailer HD (2017)Rotten Tomatoes TV : Sex Education Season 1 Trailer | Rotten Tomatoes TVNetflix Philippines : Ride or Die | Teaser Trailer | NetflixNetflix : Heartstopper | Official Teaser | Netflix*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลก์คนที่ชอบ 'ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี'คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565