รีวิว The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์) หนังสูตรสำเร็จที่พอดูสนุกเพลินๆ แต่อาจไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์) เรื่องนี้เป็นภาคต่อของ Captain Marvel (2019) แต่ในภาคนี้จะต่างจากภาคแรกเพราะในภาคนี้จะไม่ได้มีแค่เพียง Carol Danvers / Captain Marvel (รับบทโดย Brie Larson) เท่านั้นที่มีบทบาทสำคัญ แต่จะยังสมทบด้วยตัวละครอีก 2 ตัว ได้แก่ Kamala Khan / Ms. Marvel (รับบทโดย Iman Vellani) และ Monica Rambeau (รับบทโดย Teyonah Parris) เรื่องราวทั้งหมดเริ่มขึ้นจากการที่ Dar-Benn (รับบทโดย Zawe Ashton) ชาวครีผู้เผด็จการที่กำลังตามหากำไลวิเศษเพื่อจะนำพลังนั้นมาใช้ในการฟื้นฟูบ้านเกิดของตน แต่ในขณะเดียวกันเธอเองก็ไปบุกรุกยังดาวดวงอื่นเพื่อแย่งชิงทรัพยากร Captain Marvel จึงต้องออกไปขัดขวางเธอ ทว่าโชคไม่ดีที่ในระหว่างการทำภารกิจได้เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อจู่ๆ พลังของ Captain Marvel, Ms. Marvel และ Monica Rambeau ได้พันกัน ทำให้ทุกครั้งที่ใช้พลังพวกเธอจะสลับที่กัน ด้วยเหตุนี้ทั้ง 3 คนจึงต้องมาร่วมทีมกันอย่างไม่มีทางเลือกเพื่อขัดขวาง Dar-Benn ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะลงเอยอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเองในโรงภาพยนตร์ ตัวอย่าง The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์)รีวิว The Marvels (เดอะ มาร์เวลส์)สำหรับหนังเรื่องนี้ส่วนตัวแล้วหลังจากได้เห็นตัวอย่างผมเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าอยากดูเท่าไหร่ แต่ด้วยความที่ติดตามจักรวาล MCU มาโดยตลอด ก็เลยต้องตามเก็บให้ครบเพื่อไม่ให้ตกหล่นจึงได้ตัดสินใจเข้าไปดู ทว่าเมื่อได้ดูจนจบแล้วต้องยอมรับว่ามันออกมาดูดีใช้ได้ พอดูได้สนุกเพลินๆ คือตอนดูตัวอย่างคิดว่ามันจะแย่กว่านี้ด้วยซ้ำ อันนี้ต้องโทษคนตัดตัวอย่างจริงๆ ที่ตัดต่อออกมาได้ไม่มีความน่าดูเลยแม้แต่น้อย บทของภาคนี้ถือว่าเขียนมาแบบสูตรสำเร็จ เริ่มด้วยการเปิดตัวร้ายว่ามีเป้าหมายอะไร มีการวางปมตัวร้ายว่าทำไมถึงทำแบบนี้ ตามด้วยการปูทางให้เห็นว่าทั้งฺฮีโร่ทั้ง 3 คนมาเกี่ยวข้องกันได้ยังไง ต่อด้วยการออกทำภารกิจเล็กๆ แบบทุลักทุเล มีความผิดพลาดและไม่ลงรอยกันบ้าง พอเข้าช่วงกลางเรื่องเราก็จะเห็นทั้ง 3 เริ่มเข้ากันได้ มีการฝึกซ้อมใช้พลัง จากนั้นก็ปิดด้วยการรวมทีมไปสู้ศึกครั้งสุดท้ายกับตัวร้าย คือมันเป็นสูตรสำเร็จทั่วไปจริงๆ ส่วนในด้านการดำเนินเรื่องก็ถือว่าทำได้ดีตามมาตรฐาน อาจเพราะด้วยความที่ตัวหนังมีความยาวเพียง 1 ชั่วโมง 45 นาที ทุกอย่างมันเลยรวดเร็วกระชับไปเสียหมด แต่อย่างที่จั่วหัวไว้บนต้นบทความว่าหนังเรื่องนี้อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน สิ่งที่ทำให้มันเป็นแบบนั้นเพราะตัวหนังมันไม่ได้สนุกด้วยตัวมันเองขนาดนั้น หากเราไม่เคยดูซีรีส์ Ms.Marvel, Wanda Vision มาก่อน ก็อาจจะไม่อินกับตัวละคร Ms.Marvel และ Monica Rambeau เท่าไหร่ เพราะเราไม่รู้เลยว่าทั้ง 2 คนได้รับพลังมายังไง แถมในหนังก็ยังมีการพูดถึงเรื่องราวในซีรีส์ด้วยเล็กน้อย ทำให้คนที่ไม่เคยดูอาจไม่เข้าใจในบางไดอะล็อกที่ตัวละครคุยกัน ส่วนนี้ถือเป็นข้อเสียใหญ่ๆ เลยก็ว่าได้ แต่ก็ต้องชมว่าพล็อตเรื่องการสลับพลังที่เขาเอามาใช้มันเจ๋งดี อย่างไรก็ตาม ถึงจะชมว่าบทเขียนมาค่อนข้างดี แต่ก็ยังมีส่วนที่ผมไม่ชอบเช่นกัน นั่นคือปมระหว่าง Captain Marvel กับตัวร้ายที่มันจบง่ายๆ ด้วยการให้นางเอกบินไปปลุกพลังพระอาทิตย์ คือการที่ให้มันจบแบบนี้มันทำให้ปมทั้งเรื่องที่เราดูมามันดูไร้สาระไปเลย อีกอย่างที่ต้องยอมรับกันจริงๆ ก็คือหนังเรื่องนี้ใช้แมวมาแบกล้วนๆ ถ้าไม่มีแมวมาช่วยนี้อาจน่าเบื่อไปเลย ต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน นักแสดงทุกคนเล่นดีกันหมด ทั้งตัวละครหลักไปยันตัวสมทบ คือตามมาตรฐานหนัง MCU เลย ส่วนนี้ผมไม่ติดอะไรส่วนต่อมาคือด้านงานสร้างและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ยกให้เป็นส่วนที่ผมชอบมากที่สุดของหนังเลย งานซีจีทำออกมาดี โดยเฉพาะงานดีไซน์ต่างๆ มีดีหลายอันเลย ทั้งยานของชาวครีที่มาเป็นลำใหญ่และแยกออกจากกันได้ อันนี้ผมชอบมาก ไปจนถึงดีไซน์ของเมืองน้ำทะเลที่สวยงามอลังการ เสื้อผ้าหน้าผมก็ทำออกมาได้ดี ส่วนตัวผมชอบช่วงดาวทะเลมากที่สุดแล้ว ทั้งการให้ชาวเมืองคุยกันด้วยการร้องเพลง เสื้อผ้าหน้าผมของชาวเมือง ไปจนถึงฉากแอ็คชั่นในช่วงนั้นก็สนุกดีด้วย ต่างจากฉากสู้กันตอนสุดท้ายที่จืดชืดเสียจนไม่มีความน่าจดจำเลย สุดท้ายนี้ขอยอมรับตรงๆ ว่าถึงหนังมันจะสนุกดูเพลินแต่ก็ไม่ได้ทำให้ผมว้าวหรือตื่นเต้นอะไรมากนัก สิ่งที่ทำให้ว้าวจริงๆ คือฉากท้ายเครดิต คือว้าวกว่าหนังทั้งเรื่องที่ดูมาเสียอีก แต่ภาพรวมมันก็ไม่ได้ถึงกับแย่ คือถ้าคุณเป็นแฟนตัวยงของ MCU ก็ควรดู หรือหากคุณชอบหนังพลังหญิงก็ควรดู เพราะในเรื่องนี้ผู้ชายแทบไม่มีบทเลย ซึ่งส่วนตัวผมก็ไม่ได้ติดเรื่องนี้นะ เพราะทั้งตัวเอกและตัวร้ายก็เป็นผู้หญิงหมด มันจะเป็นหนังพลังหญิงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิว เพราะมันเป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัว ทางที่ดีคุณควรไปดูและตัดสินมันด้วยตาตัวเองสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว Attack on Titan: The Final Season Part 3.2 (ครึ่งหลัง) บทสรุปของการเดินทาง 10 ปีที่อาจไม่สวยงามแต่แสนตรารึง ยกให้เป็นหนึ่งในอนิเมะที่ควรดูซักครั้งก่อนตาย!รีวิว Onimusha (โอนิมูฉะ) อนิเมะแนวซารูไรดัดแปลงจากเกมชื่อดัง ภาพสวยสนุกดูเพลิน [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว มนต์รักนักพากย์ (2023) หนังไทยแห่งปีที่ไม่ควรพลาด เปรียบเสมือนจดหมายรักถึงวงการภาพยนตร์ไทย ดูได้ทาง Netflixรีวิว GOOD NIGHT WORLD (กู๊ดไนท์ เวิลด์) อนิเมะโคตรดีเรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! [มีพากย์ไทย]รีวิว Doona! (ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน) ความรักของหนุ่มจืดที่ดันย้ายไปอยู่ข้างบ้านอดีตไอดอลดัง [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว The Continental (เดอะ คอนทิเนนทัล) ซีรีส์ภาคแยกที่ยังเต็มไปด้วยกลิ่นอายของ John Wick ดุเดือดเลือดสาดไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง! ดูได้ทาง Prime Videoรีวิว Lupin (จอมโจรลูแปง) ภาค 3 เดินเรื่องสนุกย่อยง่ายตามมาตรฐานเดิม มีพากย์ไทย ดูได้ทาง Netflixรีวิว The Fall of the House of Usher (บ้านปีศาจ) เรื่องราวของตระกูลเศรษฐีที่ตายปริศนายกครัว [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixแหล่งที่มาทั้งหมดจาก ภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: Marvel Studios' The Marvels | ตัวอย่างที่ 2 (Official ซับไทย) จาก Youtube: Marvel Thailandเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !