ย้อนกลับไปในช่วงศตวรรษที่ 19 ที่การแสดงความบันเทิงต่างๆ เป็นของกลุ่มชนชั้นสูง แต่มีชายคนหนึ่งที่นำความบันเทิงมาแสดงให้คนทั่วไปสามารถเพลิดเพลินเริงรมย์ได้ เขาคนนั้น คือ พี.ที.บาร์นัม ผู้คิดค้นการแสดงโชว์มนุษย์ประหลาดที่มีชื่อเสียงไปทั่วสหรัฐอเมริกา ทุกคนจะรู้เรื่องราวของเขาได้จากภาพยนตร์มิวสิคัลสุดอลังการอย่าง The Greatest Showman โชว์แมนบันลือโลก (2017) ซามะขอการันตีว่าเรื่องนี้ทุกคนจะเอนจอยกับเพลงของหนังเรื่องนี้ไปด้วยกัน เพราะได้นักแต่งเพลงมือฉมัง Benj Pasek และ Justin Paul ที่คว้ารางวัลออสการ์จากภาพยนตร์มิวสิคัลเรื่องดังอย่าง La La Land มาเขียนบทเพลงที่เต็มไปด้วยพลัง เรื่องราวของหนังจะเป็นอย่างไร และเพลงจะไพเราะความหมายจับใจขนาดไหนก็ลองไปอ่านที่ซามะรีวิวกันได้เลย (การรีวิวนี้เป็นความเห็น และความรู้สึกส่วนตัวของซามะนะคะ ผิดพลาดประการใดขออภัยล่วงหน้าจ้า) ตัวอย่างเรื่องย่อThe Greatest Showman คือเรื่องราวชีวิตของ พี.ที.บาร์นัม ชายผู้มีความมุ่งมั่น ช่างฝัน และทะเยอทะยาน เขาได้ใช้ชีวิตคู่กับ แชริที ภรรยาผู้แสนดีที่เป็นรักแรกของเขาในวัยเด็กจนมีลูกสาวด้วยกัน 2 คน วันหนึ่งงานเสมียนที่เขาทำนั้นเกิดปิดกิจการขึ้นมา ทำให้บาร์นัมเกิดความกังวล และรู้สึกผิดที่ไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับครอบครัวว่าเขาจะดูแลให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้แต่แล้วบาร์นัมก็มีไอเดียสุดบรรเจิดขึ้นมาว่าจะเป็นอย่างไรถ้าเขาจะเปิดการแสดงโชว์รวมคนแปลกให้คนอเมริกันดู ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจและยังไม่มีใครเคยทำมาก่อน เมื่อคิดได้แล้วนั้น บาร์นัมจึงรวบรวมคนที่มีความผิดปกติทางร่างกาย มนุษย์ประหลาด เดินทางไปหาคนเหล่านั้นด้วยตัวเอง รวมถึงติดป้ายประกาศรับสมัครอีกด้วย แม้จะถูกตราหน้าว่าลวงโลก จอมปลอมมากมาย บาร์นัมก็อดทนต่อสู้ให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ ไป และในที่สุดบาร์นัมและคณะละครมหัศจรรย์ของเขาก็ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงที่สุดในสหรัฐอเมริกาผู้บุกเบิก Showbiz คนแรกของโลกหนังเรื่องนี้เล่าเรื่องราวของ พี.ที.บาร์นัม (P.T. Barnum) ผู้ที่เป็นดั่ง Steve Jobs แห่งวงการธุรกิจบันเทิงในสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 1800 คณะของบาร์นัมเป็นที่รู้จักและโด่งดังมากในสหรัฐฯ จากโชว์มนุษย์ประหลาด และนักแสดงหลายคนที่อยู่ในคณะของบาร์นัมก็แจ้งเกิดจากคณะของเขา ไม่ว่าจะเป็น แอนนี โจนส์-สาวสวยมีเครา เมอร์เทิล คอร์บิน-สาวน้อยสี่ขา ชาร์ลส เชอร์วูด สตรัทตัน-นายพลนิ้วหัวแม่มือ ชางหยูซิง-ชายจีนร่างยักษ์ หรือแม้แต่แฝดสยาม อิน-จัน ก็เคยอยู่ในสังกัดของ พี.ที.บาร์นัมเช่นเดียวกัน การแสดงโชว์เหล่านี้ทำให้เขามีชื่อเสียงและกอบโกยเงินมหาศาลจากขายตั๋วให้แก่ผู้ชม ความทุ่มเทจัดเต็มทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังThe Greatest Showman ผู้สร้างใช้เวลาถึง 7 ปีในการพัฒนาบท แต่งเพลงออริจินัล รวมถึงท่าเต้นเพื่อให้กลายเป็นผลงานสุดตระการตา ในส่วนของทีมนักแสดงก็ไม่น้อยหน้า ทางทีมงานได้แคสต์นักแสดงที่ร้องได้ เต้นดี นำทัพด้วย Hugh Jackman ผู้รับบท พี.ที.บาร์นัม ชายผู้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสและเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการสร้างหนังเรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงที่มีเสียงร้องอันไพเราะไม่แพ้กันทั้ง Zac Efron Zendaya Michelle Williams Rebecca Ferguson และ Keala Settle และความทุ่มเทก็สัมฤทธิ์ผลเพราะ ในปี 2018 The Greatest Showman ได้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำถึง 3 สาขา ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (สาขาภาพยนตร์ตลกและมิวสิคัล) นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม และเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งหนังเรื่องนี้สามารถคว้าสาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจาก ‘This is me’ ขับร้องโดย Keala Settle และนักแสดงคนอื่นๆ จากหนังนั่นเอง ภาพยนตร์ที่พูดถึงความฝัน และความเท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ตัวละคร พี.ที.บาร์นัมคือตัวอย่างหนึ่งของคนที่มีความฝัน อยากทำธุรกิจโชว์ของตัวเอง แต่แน่นอนว่าการเริ่มต้นคือจุดที่ยากที่สุดเสมอ และแม้ว่าบาร์นัมจะสร้างคณะละครโชว์มนุษย์ประหลาดและประสบความสำเร็จแล้ว ก็ยังมีเรื่องที่เขาเคยตัดสินใจผิดพลาด เคยโฟกัสผิดจุดไปบ้าง และก็อาจพบปัญหาบ้าง แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้และยังคงทำตามความฝันไปจนถึงที่สุด และจะขาดไปไม่ได้เรื่องกับเรื่องความเท่าเทียมของความเป็นมนุษย์ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรในสังคมปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าทุกที่จะให้ความสำคัญเรื่องนั้นเสมอไปถูกไหมคะ ในยุคสมัยนั้นแน่นอนว่าบาร์นัมต้องถูกคนในสังคมชี้หน้าว่าเอาความผิดปกติทางธรรมชาติของคนเหล่านี้มาแสดงให้ดูเพื่อเก็บเงินจากคนร่ำรวย และยิ่งในตอนนั้นมีเรื่องชนชั้นทางสังคมที่แบ่งแยกชัดเจนด้วยแล้ว บาร์นัมและนักแสดงในคณะต้องถูกมองในทางลบและต้องมีคนไม่ยอมรับแน่นอน สิ่งที่บาร์นัมได้ทำมันได้พิสูจน์แล้วว่าแม้พวกเขาจะเกิดมาไม่ปกติเหมือนคนทั่วไป แต่พวกเขาก็สามารถเป็นดาวเด่น เฉิดฉายบนเวที และสร้างความสุขให้ผู้ชมได้เช่นกันรีวิวจากซามะปรบมือรัวๆ เลยสำหรับหนังเรื่องนี้ ดีงามตั้งแต่คอสตูม การเต้น มีแทรกประวัติศาสตร์ไปด้วย ถือว่าเป็นหนังคุณภาพดีอีกหนึ่งเรื่องเลยค่ะ แล้วที่เป็นไฮไลท์ของหนังมิวสิคัลเรื่องนี้เลยคือเพลงนั่นเอง ส่วนตัวซามะชอบ 3 เพลงจากหนังค่ะ เพลงแรกคือ ‘This is me’ เรารู้สึกอินทั้งทำนอง เสียงร้องเพลงอันทรงพลัง แล้วก็ความหมายที่ฟังแล้วรู้สึกถึงว่าเราเป็นมนุษย์เท่ากัน เพลงนี้คือชอบอันดับที่หนึ่งเลย อีกเพลงคือ ‘Rewrite the Star’ ของ Zac Efron กับ Zendaya เพลงนี้เรารู้สึกฟิน จิ้น โรแมนติกมากๆ เพลงสุดท้ายคือ Never Enough เพลงร้องสไตล์โอเปร่าที่บอกเลยว่าอิมแพ็ก เอาซะซามะขนลุกเลย สิ่งที่ซามะรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อคือ ไม่ว่าคนอื่นจะยอมรับในตัวเราหรือไม่ ขอเพียงเรายอมรับตัวเองและทำตามความฝัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว สุดท้ายนี้ซามะนับถือในความอัจฉริยะของบาร์นัม ที่สามารถเอาจุดนี้มาสร้างอาชีพให้ตัวเองไม่พอ เขายังมอบชีวิตใหม่ให้กับนักแสดงของเขาที่มีร่างกายผิดปกติ พวกเขาได้เฉิดฉายในธุรกิจบันเทิงที่บาร์นัมเป็นคนสร้างขึ้นมา ใครที่อยากจะชมภาพยนตร์มิวสิคัลดีๆ สักเรื่องก็อย่าลืมเรื่อง The Greatest Showman โชว์แมนบันลือโลก (2017) ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ แล้วเรื่องต่อไปซามะจะรีวิวเรื่องอะไร ลงเมื่อไหร่ ก็อย่าลืมติดตามกันด้วยนะคะ สามารถดูบทความอื่นๆ ได้ที่ ซามะ คลิ๊กที่ชื่อเลยน้า วันนี้ลาไปก่อน บายยย เครดิตรูปภาพภาพปก : Canva จาก ผู้เขียน (ซามะ) I ภาพประกอบโดย Facebook: SF Cinema (1) (2)ภาพที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9 จาก Facebook: SF CinemaเครดิตคลิปYoutube: 20th Century Studios ThailandThe Greatest Showman - Trailer 1 (ซับไทย)Youtube: Atlantic RecordsThe Greatest Showman Cast - This Is Me (Official Lyric Video)Youtube: Fox Family EntertainmentThe Greatest Showman | "Never Enough" Lyric Video | Fox Family Entertainment The Greatest Showman | "Rewrite The Stars" Lyric Video | Fox Family Entertainment จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !